การพัฒนาสูตรเฟซออยล์เซรั่มเนื้อบางเบา: เนื้อสัมผัส การละลาย และความเสถียร
คำถาม
อยากได้ face oil serum เนื้อน้ำมันที่บางเบา ไม่แน่นจนเกินไปค่ะ สูตรมีส่วนผสมแอคทีฟดังนี้:
- Ascorbyl Tetraisopalmitate 10%
- Vitamin E (dl-alpha tocopherol) 2%
- Ethyl Ferulate 2%
- Alpha Lipoic Acid 1%
- Stearyl Glycyrrhetinate 1.5%
- Ceramide 2 2%
- Phytosphingosine 2%
- Phytosterols Ester 3%
- Palmitamide MEA 5%
- Tea Tree Oil 0.5%
รวม active ingredient 29%
ส่วนที่เหลืออีก 61% สนใจใช้ Sunflower Oil + LipidSoft Lite เป็นเบส โดยอยากใส่ Sunflower Oil เป็นตัวหลัก อยากถามว่า LipidSoft Lite ใส่แค่ไหนถึงจะทำให้เนื้อเบาขึ้นคะ
อยากได้ Sunflower Oil เป็นหลัก แต่ไม่อยากให้มันเนื้อหนักจนเกินไป อยากได้ facial oil เนื้อเบาๆ เลยอยากทราบว่า อีก 61% จะปรุงอย่างไรให้เนื้อไม่หนักจนเกินไป เหมือนใช้ facial oil ตาม counter brand ที่ lite หน่อย (แต่ก็ไม่อยากได้ fractionated coconut)
ส่วนผสมใน active ตัวไหนที่จะทำให้เนื้อข้นคลัก หรือ ตกตะกอน ช่วยแนะนำด้วยค่ะ จะได้ลดลง
สูตรนี้พยายามไม่ใส่น้ำ เพราะจะได้เก็บไว้ใช้นานๆ ไม่น่าเสีย ไม่ต้องใส่สารกันบูด (คิดว่านะคะ)
คำตอบ
สูตรเฟซออยล์เซรั่มเนื้อบางเบา
คุณต้องการสร้างเฟซออยล์เซรั่มเนื้อบางเบาที่มีส่วนผสมแอคทีฟเฉพาะตามรายการ โดยใช้น้ำมันทานตะวันและ LipidSoft Lite เป็นเบส นี่คือแนวทางในการทำและข้อควรพิจารณาที่อาจเกิดขึ้น:
การทำให้เนื้อบางเบา
เพื่อให้เบส 61% ที่เหลือในสูตรของคุณมีเนื้อบางเบาโดยใช้น้ำมันทานตะวันและ LipidSoft Lite คุณสามารถปรับอัตราส่วนระหว่างส่วนผสมทั้งสองนี้ได้ น้ำมันทานตะวันเป็นน้ำมันธรรมชาติ ในขณะที่ LipidSoft Lite เป็น Emollient ที่มีเนื้อบางเบามาก ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้สึกนุ่มลื่น ไม่เหนอะหนะ คล้ายซิลิโคนแต่ไม่ใช่ซิลิโคน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำให้น้ำมันมีเนื้อเบาขึ้น
- ข้อแนะนำ: จุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับเบส 61% คือการใช้น้ำมันทานตะวันและ LipidSoft Lite ในอัตราส่วน 1:1 ซึ่งหมายถึงน้ำมันทานตะวันประมาณ 30.5% และ LipidSoft Lite 30.5% หากคุณต้องการเนื้อที่บางเบามากยิ่งขึ้น คุณสามารถเพิ่มเปอร์เซ็นต์ของ LipidSoft Lite และลดเปอร์เซ็นต์ของน้ำมันทานตะวันลงตามสัดส่วนภายใน 61% รวม
LipidSoft Lite มีประสิทธิภาพในการลดความรู้สึกหนักของน้ำมันธรรมชาติ ดังนั้นการเพิ่มสัดส่วนของ LipidSoft Lite จะช่วยให้เซรั่มมีเนื้อที่เบาและซึมซาบเร็วขึ้นโดยตรง
ปัญหาเนื้อข้นหรือการตกตะกอนที่อาจเกิดขึ้น
สูตรของคุณมีส่วนผสมแอคทีฟหลายชนิดที่อยู่ในรูปผง ซึ่งอาจทำให้เนื้อข้นขึ้นหรือเกิดการตกตะกอนได้หากไม่ละลายในเบสน้ำมันอย่างเหมาะสม ความเข้มข้นรวมของส่วนผสมผงเหล่านี้ที่ค่อนข้างสูง (11.5%) ยังเพิ่มโอกาสที่จะเกิดปัญหาด้านความเสถียรด้วย
ส่วนผสมที่มีแนวโน้มจะทำให้เกิดปัญหามากที่สุด ได้แก่:
- Ceramide 2 (Ceramide NG): เป็นผงที่ต้องใช้ความร้อน (75°C ขึ้นไป) และตัวทำละลายเฉพาะ (เช่น LipidSoft Solve หรือ Glycol บางชนิด) เพื่อให้ละลายในน้ำมันได้อย่างสมบูรณ์ หากละลายไม่ถูกต้อง อาจเกิดการตกผลึกและตกตะกอนได้
- Phytosphingosine SA: ผงนี้แนะนำให้ละลายใน Octyldodecanol โดยใช้ความร้อนสูง (80-90°C) เพื่อให้เข้ากันได้ดีและมีความเสถียร เบสที่คุณเสนอไม่มี Octyldodecanol ทำให้มีโอกาสสูงที่ส่วนผสมนี้จะไม่ละลายทั้งหมดและจะเกิดการตกตะกอน
- Pure-Phytosterols: เป็นผงที่ละลายในน้ำมันเช่นกัน โดยแนะนำให้ใช้ Octyldodecanol ช่วยในการละลาย สามารถทนความร้อนได้ถึง 80°C ที่ความเข้มข้น 3% ถือเป็นปริมาณผงที่มากพอสมควร ซึ่งอาจไม่ละลายทั้งหมดในเบสน้ำมันทานตะวัน/LipidSoft Lite แบบธรรมดา หากไม่มีเทคนิคเฉพาะหรือตัวทำละลายร่วม
- Palmitamide MEA: ผงนี้ต้องใช้ความร้อน (70°C) และตัวทำละลายเฉพาะ (เช่น Olive Oil, Butylene Glycol, Ethoxydiglycol, Flora Solve) ในการละลาย ความสามารถในการละลายในน้ำมันทานตะวันและ LipidSoft Lite ต้องได้รับการยืนยัน และมีแนวโน้มที่จะต้องใช้ความร้อนเพื่อให้เข้ากันได้ดีที่ 5%
แม้ว่า Ascorbyl Tetraisopalmitate, Vitamin E, Ethyl Ferulate, Alpha Lipoic Acid (ALA Ready), Stearyl Glycyrrhetinate และ Tea Tree Oil โดยทั่วไปจะเข้ากันได้กับเบสน้ำมัน แต่ปริมาณที่มากและข้อกำหนดในการละลายเฉพาะของส่วนผสมผง (Ceramide 2, Phytosphingosine SA, Pure-Phytosterols, Palmitamide MEA) ทำให้การสร้างเซรั่มน้ำมันที่เสถียร ใส และบางเบาโดยไม่ใช้น้ำเป็นเรื่องที่ท้าทาย หากไม่มีเทคนิคการละลายเฉพาะและอาจต้องใช้ Emollient/ตัวทำละลายอื่นๆ
เพื่อลดปัญหาเนื้อข้นหรือการตกตะกอน คุณอาจต้อง:
- ลดความเข้มข้นของส่วนผสมผง โดยเฉพาะ Phytosphingosine SA, Ceramide 2, Pure-Phytosterols และ Palmitamide MEA
- พิจารณาเพิ่มตัวทำละลายร่วมหรือ Emollient ที่ทราบว่าช่วยละลายผงเหล่านี้ได้ แม้ว่าสิ่งนี้จะทำให้องค์ประกอบของเบสของคุณเปลี่ยนไป
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการใช้ความร้อนและการผสมที่เหมาะสมในระหว่างกระบวนการผลิต เพื่อพยายามละลายส่วนผสมเหล่านี้ แม้ว่าการละลายที่สมบูรณ์และความเสถียรในระยะยาวในเบสผสมนี้โดยเฉพาะโดยไม่มีตัวทำละลายที่แนะนำ อาจยังคงเป็นเรื่องยาก
การสร้างสูตรที่ไม่มีน้ำ (Anhydrous) สามารถช่วยยืดอายุการเก็บรักษาและหลีกเลี่ยงสารกันเสียได้จริง แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับความสามารถในการละลายและความเสถียรของส่วนผสมทั้งหมดในเบสน้ำมันที่เลือก อย่างไรก็ตาม การละลายของส่วนผสมผงเป็นความท้าทายหลัก
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (dl-alpha tocopherol)

Tea Tree Oil (Extra Grade)

Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)

LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)

ALA Ready™ (Alpha Lipoic Acid Oil Base)

Palmitamide MEA

Phytosphingosine SA

Stearyl Glycyrrhetinate

Pure-Phytosterols™

Ceramide 2 (Ceramide NG)

Sunflower Oil (High Omega, Refined)
