การพัฒนาสูตรเอสเซนส์เนื้อบางเบาสำหรับฝ้า จุดด่างดำ รอยสิว: ความเข้ากันได้ ค่า pH และลำดับการผสม

ถามโดย: aoonjung เมื่อ: December 22, 2020 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการทำ essence เนื้อเบาๆ เพื่อลดรอยฝ้าตื้น จุดด่างดำ รอยสิวค่ะ ได้ร่างสูตรพร้อมสัดส่วนดังนี้:

  1. Chamomile Water (Anthemis Nobilis) 69.40%
  2. Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) 5.00%
  3. Hydro-White™ 1.50%
  4. 4MSK 3.00%
  5. Tranexamic Acid 3.00%
  6. 4D Hyaluronic Acid 5.00%
  7. French Pine Bark Extract 25 (Liquid) 2.50%
  8. สารสกัดใบบัวบก (Madecassoside) 0.50%
  9. GlucoBright™ (Acetyl glucosamine) 5.00%
  10. Japanese Cedar 1.00%
  11. PiteraEx™ 1.50%
  12. Ethoxydiglycol 2.60%

คำถามคือ:

  1. ส่วนผสมเข้ากันได้หรือไม่
  2. Safe-B3 มีค่า ph 6-7.5 มีผลกระทบต่อสูตรหรือไม่
  3. ผสม 1-12 ตามลำดับได้เลยไหมคะ

คำตอบ

การวิเคราะห์สูตรเอสเซนส์เนื้อบางเบาของคุณ

นี่คือการวิเคราะห์สูตรเอสเซนส์เนื้อบางเบาที่คุณเสนอมา เพื่อช่วยลดรอยฝ้าตื้น จุดด่างดำ และรอยสิว โดยตอบคำถามเฉพาะของคุณดังนี้ค่ะ

1. ส่วนผสมเข้ากันได้หรือไม่

ส่วนผสมที่คุณเลือกมาโดยรวมแล้วมีประโยชน์ในการจัดการกับปัญหาจุดด่างดำ รอยดำ และช่วยปรับปรุงสภาพผิว ส่วนผสมหลายตัว เช่น Safe-B3 (Niacinamide), Hydro-White, 4MSK, Tranexamic Acid, GlucoBright, French Pine Bark Extract, Centella Asiatica Extract (Madecassoside), Japanese Cedar และ PiteraEx เป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดการอักเสบ และช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรพิจารณาบางประการเกี่ยวกับความเข้ากันได้และความคงตัวของสูตร:

  • ความคงตัว: Hydro-White และ Tranexamic Acid มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนสีได้ และจำเป็นต้องใช้สารช่วยคงตัว เช่น ActiveProtec™ OX (0.5-1.0%) เพื่อความคงตัวในระยะยาว ซึ่งสูตรของคุณยังไม่ได้ใส่ส่วนผสมนี้
  • เนื้อสัมผัส: 4MSK เป็นอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งอาจส่งผลต่อความหนืดของสูตร และอาจลดประสิทธิภาพในการสร้างเนื้อเจลของ 4D Hyaluronic Acid ได้
  • สารกันเสีย: แม้ว่า Chamomile Water จะมีสารกันเสีย (phenoxyethanol 0.8%) แต่ปริมาณรวมในสูตรสุดท้าย (69.4%) อาจไม่เพียงพอที่จะรักษาสูตรทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปริมาณน้ำสูงและมีสารสกัดจากพืชหลายชนิด ควรเพิ่มระบบสารกันเสียแบบครอบคลุม (broad-spectrum preservative) เพื่อให้แน่ใจว่าสูตรมีความคงตัวทางจุลินทรีย์

ในด้านการทำงาน ส่วนผสมออกฤทธิ์ต่างๆ ทำงานเสริมกันได้ดีสำหรับวัตถุประสงค์ที่ต้องการค่ะ

2. ค่า pH ของ Safe-B3 มีผลกระทบต่อสูตรหรือไม่

Safe-B3 (Niacinamide) มีค่า pH อยู่ในช่วง 6-7.5 ซึ่งอยู่ในช่วง pH ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำงาน (4.0-7.0) และช่วงที่ยอมรับได้ (3-8) ค่า pH ของส่วนผสมแต่ละตัวมีส่วนทำให้เกิดค่า pH สุดท้ายของสูตร ส่วนผสมออกฤทธิ์หลายตัวในสูตรของคุณทำงานได้ดีที่สุดในช่วง pH ที่เป็นกรดเล็กน้อยถึงกลางๆ (เช่น Madecassoside 4-6.5, Japanese Cedar 3.5-6.5, GlucoBright 3-7, Safe-B3 4-7 ที่เหมาะสม, Tranexamic Acid 3-8, 4D Hyaluronic Acid 3-9) ควรตรวจสอบค่า pH สุดท้ายของสูตรที่ผสมแล้ว และปรับให้อยู่ในช่วง 5.0-6.5 เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและความคงตัวสูงสุดของส่วนผสมส่วนใหญ่ พร้อมทั้งลดโอกาสการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น

ดังนั้น ค่า pH ของ Safe-B3 เองไม่ได้เป็นปัญหา แต่คุณต้องแน่ใจว่าค่า pH สุดท้าย ของสูตรเหมาะสมกับส่วนผสมทั้งหมดค่ะ

3. ผสม 1-12 ตามลำดับได้เลยไหมคะ

ลำดับการผสมที่เสนอมา (1-12) ไม่ เหมาะสม เนื่องจากส่วนผสมแต่ละตัวมีความสามารถในการละลายและทนความร้อนแตกต่างกัน Hydro-White ต้องใช้ความร้อน (60-80°C) ในการละลาย ในขณะที่ส่วนผสมอื่นๆ อีกหลายตัว (4MSK, Madecassoside, PiteraEx) ควรหลีกเลี่ยงความร้อนสูง หรือควรเติมในขั้นตอนที่อุณหภูมิต่ำลง

ขั้นตอนการผสมที่เหมาะสมกว่าควรแยกส่วนผสมตามคุณสมบัติของมัน:

  1. ในบีกเกอร์ ให้รวมเบสน้ำ (Chamomile Water) กับส่วนผสมที่ละลายในน้ำและทนความร้อนได้บางส่วน เช่น Ethoxydiglycol, Safe-B3, Tranexamic Acid, GlucoBright, Japanese Cedar และ French Pine Bark Extract คนให้ละลาย
  2. ค่อยๆ ให้ความร้อนกับส่วนผสมนี้ถึง 60-80°C เพื่อช่วยละลาย Hydro-White เติม Hydro-White และคนจนละลายหมด ระวังอย่าให้ความร้อนเกิน 60°C เป็นเวลานานหลังจากเติม 4MSK
  3. นำออกจากความร้อน และปล่อยให้ส่วนผสมเย็นลงถึงอุณหภูมิห้อง (ต่ำกว่า 40°C)
  4. เติม 4D Hyaluronic Acid และคนจนได้เนื้อเจลตามที่ต้องการ
  5. ในภาชนะเล็กๆ แยกต่างหาก ละลายหรือกระจายส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน เช่น Centella Asiatica Extract (Madecassoside) และ PiteraEx ในเบสน้ำที่เย็นแล้วปริมาณเล็กน้อย จากนั้นเติมส่วนผสมนี้ลงในส่วนผสมหลักและคนให้เข้ากันดี
  6. เติมระบบสารกันเสีย (เพิ่มเติมจากที่มีใน Chamomile Water) และ ActiveProtec™ OX (แนะนำอย่างยิ่งเพื่อความคงตัว)
  7. ตรวจสอบและปรับค่า pH สุดท้ายให้อยู่ในช่วง 5.0-6.5

ลำดับการผสมที่ปรับปรุงนี้จะช่วยให้ส่วนผสมที่ต้องการความร้อนละลายได้อย่างถูกต้อง ในขณะที่ส่วนผสมที่ไวต่อความร้อนจะถูกเติมในอุณหภูมิที่ปลอดภัย

สรุปแล้ว สูตรของคุณมีส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพสำหรับเป้าหมายที่คุณต้องการ แต่จำเป็นต้องเพิ่มสารช่วยคงตัว (ActiveProtec™ OX) และระบบสารกันเสียที่ครอบคลุม พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับขั้นตอนการผสมและการปรับค่า pH สุดท้ายเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและความคงตัวสูงสุดค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)
Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)
เครื่องสำอาง
Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)
Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)
เครื่องสำอาง
Tranexamic Acid (Trans-White™)
Tranexamic Acid (Trans-White™)
เครื่องสำอาง
Japanese Cedar (Cryptomeria Japonica Bud Extract)
Japanese Cedar (Cryptomeria Japonica Bud Extract)
เครื่องสำอาง
4MSK (Potassium Methoxysalicylate)
4MSK (Potassium Methoxysalicylate)
เครื่องสำอาง
Chamomile Water (Anthemis Nobilis)
Chamomile Water (Anthemis Nobilis)
เครื่องสำอาง
Dermal Respiratory Factor
Dermal Respiratory Factor
เครื่องสำอาง
4D Hyaluronic Acid
4D Hyaluronic Acid
เครื่องสำอาง
Hydro-White™ (Hydroquinone-Replacer)
Hydro-White™ (Hydroquinone-Replacer)
เครื่องสำอาง