สูตรโทนเนอร์ที่แนะนำ

จากการวิเคราะห์รายการส่วนผสมในผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ที่คุณใช้ ลำดับส่วนผสมมักจะเรียงจากความเข้มข้นมากไปน้อย การที่ Aloe barbadensis leaf juice อยู่ก่อน Witch Hazel Extract แสดงว่าในผลิตภัณฑ์นั้นมีความเข้มข้นของสารสกัดว่านหางจระเข้สูงกว่าสารสกัดวิชฮาเซล ซึ่งแตกต่างจากคำแนะนำทั่วไปที่ว่าโทนเนอร์บางสูตรควรมีวิชฮาเซลมากกว่า 50% แต่ก็เป็นสูตรที่ใช้ได้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่ต้องการ

คุณต้องการสร้างสูตรที่ใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์เดิม โดยให้สารสกัดว่านหางจระเข้มีความเข้มข้นสูงกว่าวิชฮาเซล และได้ระบุความเข้มข้นที่ต้องการสำหรับ Niacinamide (5%), Allantoin (0.5%), และ Phenoxyethanol (0.5%) รวมถึงต้องการใส่ Caprylyl Glycol ด้วย

นี่คือโครงสร้างสูตรที่แนะนำ โดยอิงตามความต้องการของคุณและอัตราการใช้ทั่วไปของส่วนผสมเหล่านี้ เพื่อให้ได้โทนเนอร์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับผลิตภัณฑ์เดิมของคุณที่ว่านหางจระเข้มีความเข้มข้นสูงกว่าวิชฮาเซล:

• Distilled Water (น้ำกลั่นบริสุทธิ์): ส่วนที่เหลือให้ครบ 100%
• Aloe Vera Extract (สารสกัดว่านหางจระเข้ 10:1 FullAssay™): 4%
• Witch Hazel (Distillate - Alcohol Free, Paraben Free) (วิชฮาเซล สกัดด้วยไอน้ำ ปราศจากแอลกอฮอล์และพาราเบน): 2%
• Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) (วิตามินบี 3 ชนิด Safe-B3™): 5%
• Allantoin (อัลลันโทอิน): 0.5%
• Phenoxyethanol (Extra Pure) (สารกันเสีย Phenoxyethanol ชนิด Extra Pure): 0.5%
• Caprylyl Glycol (1,2-Octanediol): 0.5%

ในสูตรนี้:

• น้ำกลั่นบริสุทธิ์เป็นส่วนประกอบหลัก (ประมาณ 87.5%)
• สารสกัดว่านหางจระเข้ใช้ที่ 4% ซึ่งสูงกว่าวิชฮาเซลที่ 2% เพื่อให้เป็นไปตามลำดับส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เดิมของคุณ
• วิชฮาเซลใช้ที่ 2%
• Niacinamide ใช้ที่ 5% ตามที่คุณต้องการ ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสำหรับคุณสมบัติต่างๆ
• Allantoin ใช้ที่ 0.5% ตามที่คุณต้องการ ซึ่งเป็นอัตราการใช้ที่แนะนำเนื่องจากข้อจำกัดด้านการละลายในน้ำที่อุณหภูมิห้อง
• Phenoxyethanol ใช้ที่ 0.5% ตามที่คุณต้องการ
• Caprylyl Glycol ใช้ที่ 0.5%

สำหรับคำถามเรื่องสารกันเสีย Phenoxyethanol เป็นสารกันเสียที่นิยมใช้และมีประสิทธิภาพต่อแบคทีเรีย ส่วน Caprylyl Glycol มักใช้เป็นสารเสริมประสิทธิภาพสารกันเสีย (preservative booster) และเป็นตัวทำละลาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารกันเสียอย่าง Phenoxyethanol และเสริมระบบการกันเสียโดยรวม การใช้ทั้ง Phenoxyethanol และ Caprylyl Glycol ร่วมกัน (เช่น Phenoxyethanol 0.5% และ Caprylyl Glycol 0.5%) จะช่วยให้ระบบการกันเสียครอบคลุมกว้างขึ้น ทั้งแบคทีเรีย ยีสต์ และรา เมื่อเทียบกับการใช้ Phenoxyethanol เพียงอย่างเดียว การใส่ Caprylyl Glycol จึงเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะหากต้องการให้สูตรใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์เดิมของคุณ

คำแนะนำจาก C7 ที่ให้ละเว้นสารกันเสียเนื่องจากวิชฮาเซลมีสารกันเสียจากโรงงานนั้น โดยทั่วไปไม่แนะนำสำหรับสูตรที่มีส่วนผสมซับซ้อนซึ่งมีการเติมสารสกัดและวิตามินอื่นๆ เข้าไป เพราะการเติมส่วนผสมเหล่านี้อาจนำไปสู่การปนเปื้อนของจุลินทรีย์ได้ และสารกันเสียที่มีอยู่ในวิชฮาเซลเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะปกป้องผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปทั้งหมดตลอดอายุการใช้งาน การใส่ระบบสารกันเสียที่แข็งแรง เช่น Phenoxyethanol และ Caprylyl Glycol จึงเป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อความคงตัวและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์