การพัฒนาสูตรโทนเนอร์: ส่วนผสม สัดส่วน และการปรับค่า pH
คำถาม
อ้างอิงจากการพูดคุยเรื่องความจำเป็นของโทนเนอร์ ก่อนหน้านี้ ตอนนี้มีส่วนผสมดังนี้:
- water
- Polysorbate 20
- PEG/PPG-14/4 dimenthicone
- Propylene Glycol
- dipotassium EDTA
- Witch Hazel Extract
ควรเพิ่มอะไรอีกมั้ยคะ แล้วสัดส่วนน่าจะประมาณเท่าไรสำหรับสูตรโทนเนอร์นี้?
คำตอบ
Subject: Re: Just Toner จำเป็นหรือไม่ (Toner Necessity)
สวัสดีค่ะ! มาสรุปคำถามของคุณเกี่ยวกับการทำโทนเนอร์จากรายการส่วนผสมที่คุณมี และจากการพูดคุยก่อนหน้านี้กันนะคะ
คุณเข้าใจถูกต้องค่ะว่าบทบาทดั้งเดิมของโทนเนอร์คือการทำความสะอาดครั้งสุดท้าย ปรับสมดุลค่า pH หลังจากล้างหน้าด้วยสบู่ที่เป็นด่าง และเตรียมผิวสำหรับขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม ตามที่เจ้าหน้าที่ได้อธิบายไป ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยนในปัจจุบันมักจะช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่แล้ว ทำให้ขั้นตอนการปรับสมดุลค่า pH ด้วยโทนเนอร์อาจไม่จำเป็นสำหรับทุกคน ส่วนการ "ทำความสะอาด" ในโทนเนอร์สมัยใหม่มักจะมีน้อยมาก เพราะการทำความสะอาดหลักเสร็จสิ้นไปแล้วในขั้นตอนการล้างหน้า
สำหรับคำถามเฉพาะของคุณ:
- สารทำความสะอาด: คุณถามว่าจะใช้ PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides (Makeup wash) หรือ PEG-7 Glyceryl Cocoate (Coco Wash) เป็นสารทำความสะอาดในโทนเนอร์ได้หรือไม่ ตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวถึง สารเหล่านี้เป็นหลักคือสารสำหรับล้างเครื่องสำอาง ซึ่งออกแบบมาเพื่ออิมัลซิไฟเออร์น้ำมันและสิ่งสกปรก ก่อน การล้างหน้า ไม่นิยมนำมาใช้ในโทนเนอร์ที่ใช้ หลัง ล้างหน้า ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยนสมัยใหม่ควรจะทำความสะอาดสิ่งสกปรกส่วนใหญ่ออกไปได้แล้ว หากคุณยังต้องการการทำความสะอาด ที่อ่อนโยนมาก ในขั้นตอนสุดท้าย สารลดแรงตึงผิวอ่อนๆ เช่น Polysorbate 20 (ซึ่งอยู่ในรายการของคุณ) อาจช่วยขจัดสิ่งตกค้างเล็กน้อยได้ แต่ไม่ใช่บทบาทหลักในบริบทนี้ และไม่จำเป็นอย่างยิ่งหากผลิตภัณฑ์ล้างหน้าของคุณมีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว
- การปรับสมดุลค่า pH: ใช่ค่ะ การปรับสมดุลค่า pH คือการนำค่า pH ของผิวกลับคืนสู่สภาพที่เป็นกรดเล็กน้อยตามธรรมชาติ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ pH 5-6 ค่า pH นี้เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำงานของเกราะป้องกันผิวและเอนไซม์ต่างๆ สารสกัด Witch Hazel ที่คุณรวมไว้มีคุณสมบัติเป็นกรดและช่วยในเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบและปรับค่า pH สุดท้ายของสูตรโทนเนอร์ของคุณโดยใช้เครื่องวัด pH หรือกระดาษวัด pH คุณจะต้องใช้กรดอ่อนๆ (เช่น สารละลาย Citric Acid หรือ Lactic Acid) เพื่อลดค่า pH หรือใช้เบสอ่อนๆ (เช่น สารละลาย Sodium Hydroxide หรือ Triethanolamine) เพื่อเพิ่มค่า pH หากจำเป็น เพื่อให้ได้ค่า pH เป้าหมายที่ 5-6
ทีนี้ มาดูรายการส่วนผสมที่เหลือของคุณสำหรับการทำสูตรกันค่ะ:
- water: ส่วนประกอบหลักของโทนเนอร์
- Polysorbate 20: สารลดแรงตึงผิวแบบไม่มีประจุ (non-ionic surfactant) และสารช่วยละลาย (solubilizer) ช่วยกระจายส่วนผสมอื่นๆ หรือช่วยทำความสะอาดเล็กน้อยได้ เป็นทางเลือกเสริม หากไม่ต้องการคุณสมบัติช่วยละลายหรือทำความสะอาดเพิ่มเติม
- PEG/PPG-14/4 dimenthicone: ซิลิโคนโพลีเมอร์ น่าจะใส่เพื่อปรับความรู้สึกบนผิว (ความลื่น, การปรับสภาพผิว) ไม่ได้มีส่วนช่วยในการทำความสะอาดหรือปรับสมดุลค่า pH คุณสามารถตัดส่วนผสมนี้ออกได้หากต้องการสูตรที่เรียบง่ายขึ้น หรือหากไม่มีส่วนผสมนี้
- Propylene Glycol: สารให้ความชุ่มชื้น (humectant) และตัวทำละลาย ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยให้ส่วนผสมอื่นๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น มีประโยชน์แต่ไม่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำความสะอาด/ปรับสมดุล
- dipotassium EDTA (หรือ Disodium EDTA): สารคีเลต (chelating agent) ช่วยเพิ่มความเสถียรของสูตรโดยการจับกับไอออนของโลหะ ซึ่งอาจส่งผลต่อความใส ความเสถียร และประสิทธิภาพของสารกันเสีย แนะนำอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก
- สารสกัด Witch Hazel (Witch Hazel Extract): ส่วนผสมหลักสำหรับการปรับสมดุลค่า pH และคุณสมบัติสมานผิว (astringent) เล็กน้อย
ส่วนผสมสำคัญที่ขาดไป: สารกันเสีย
รายการของคุณขาดสารกันเสีย ผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ต้อง มีสารกันเสียแบบ broad-spectrum เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารกันเสียอาจเป็นอันตรายได้ คุณจำเป็นต้องเพิ่มสารกันเสียสำหรับเครื่องสำอางที่เหมาะสมจากร้านค้า ตัวเลือกทั่วไปได้แก่ Phenoxyethanol, Germaben II เป็นต้น
ตัวอย่างสูตรโทนเนอร์แบบมินิมอล (เน้นทำความสะอาดและปรับสมดุล)
นี่คือจุดเริ่มต้นสำหรับสูตรโทนเนอร์แบบเรียบง่ายที่เน้นการปรับสมดุลค่า pH โดยอิงจากรายการของคุณ พร้อมส่วนผสมที่จำเป็นเพิ่มเติม:
- น้ำบริสุทธิ์ (Purified Water): เติมจนครบ 100% (ปรับตามสัดส่วนส่วนผสมอื่นๆ) - เช่น 78.4%
- สารสกัด Witch Hazel (Witch Hazel Extract): 10%
- Propylene Glycol: 5%
- Polysorbate 20: 0.5% (เป็นทางเลือกเสริม - ตัดออกได้หากไม่ต้องการ)
- Disodium EDTA (หรือ Dipotassium EDTA): 0.1%
- สารกันเสีย (เช่น Phenoxyethanol): 1% (ใช้ตามอัตราที่ผู้จำหน่ายแนะนำ)
- สารปรับค่า pH (เช่น สารละลาย Citric Acid หรือ Sodium Hydroxide): ใช้ตามความจำเป็นเพื่อให้ได้ค่า pH 5-6
วิธีการผสม:
- ในภาชนะที่สะอาด ผสมน้ำบริสุทธิ์, Propylene Glycol, และ Disodium EDTA คนจน EDTA ละลายหมด
- เติม Polysorbate 20 (ถ้าใช้) และ สารสกัด Witch Hazel คนให้เข้ากันดี
- เติมสารกันเสียที่เลือกใช้ และคนให้เข้ากันอย่างทั่วถึง
- วัดค่า pH ของส่วนผสมโดยใช้เครื่องวัด pH หรือกระดาษวัด pH
- หากค่า pH อยู่นอกช่วง 5-6 ให้เติมสารปรับค่า pH (กรดเพื่อลดค่า pH, เบสเพื่อเพิ่มค่า pH) ในปริมาณ น้อยมาก คนให้เข้ากัน และวัดค่า pH ซ้ำ ทำซ้ำจนกว่าจะได้ค่า pH ที่ต้องการ (5-6)
- เมื่อค่า pH คงที่ โทนเนอร์ก็พร้อมใช้งาน คุณสามารถกรองได้หากต้องการ ก่อนบรรจุลงในภาชนะที่สะอาด
เกี่ยวกับ Witch Hazel และรูขุมขน:
คุณถามว่าทำไมถึงใช้ Witch Hazel ซึ่งอาจช่วยกระชับรูขุมขน ในโทนเนอร์ ทั้งที่เป้าหมายคือการเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุง ตามที่เจ้าหน้าที่ได้อธิบายไว้ แม้ว่า Witch Hazel จะมีคุณสมบัติสมานผิว (กระชับรูขุมขน) แต่แนวคิดที่ว่าต้อง "เปิด" รูขุมขนเพื่อให้เซรั่มซึมได้ดีนั้นมีความสำคัญน้อยลงในสูตรเครื่องสำอางสมัยใหม่ ส่วนผสมและเบสต่างๆ ได้รับการออกแบบมาให้ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว โดยไม่ขึ้นอยู่กับขนาดรูขุมขนที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ดังนั้น แม้ว่า Witch Hazel อาจช่วยกระชับรูขุมขนเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางการซึมของเซรั่มและครีมที่ได้รับการพัฒนาสูตรมาอย่างดีอย่างมีนัยสำคัญ และประโยชน์ในการปรับสมดุลค่า pH ของมันถือว่ามีความสำคัญมากกว่าในบริบทของโทนเนอร์
การทดแทนส่วนผสม:
- PEG/PPG-14/4 dimenthicone: ตัดออกได้หากไม่มีหรือหากไม่ต้องการ ไม่จำเป็นต้องมีสารทดแทนโดยตรงสำหรับหน้าที่หลักของโทนเนอร์
- สารกันเสีย: เลือกใช้สารกันเสียแบบ broad-spectrum ที่เหมาะสมและมีจำหน่ายในร้านค้า และใช้ตามอัตราที่ผู้จำหน่ายแนะนำ
- Dipotassium EDTA: Disodium EDTA เป็นทางเลือกทั่วไปและทำงานคล้ายกัน ลิงก์ร้านค้าที่คุณให้มาคือ Disodium EDTA (ID 184)
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการทำโทนเนอร์ของคุณนะคะ!
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Propylene Glycol

Polysorbate 20 (Tween 20)

Disodium EDTA
