การพัฒนาสูตรโฟมล้างหน้าเนื้อครีม (แนว Vichy Normaderm)
คำถาม
ต้องการพัฒนาสูตรโฟมล้างหน้าเนื้อครีมที่คล้ายกับ Vichy Normaderm ซึ่งชื่นชอบเพราะให้ความรู้สึกสะอาด สบายผิว ไม่แห้งตึง เป็นสูตร Hypoallergenic และ Non-Comedogenic และมีค่า pH ประมาณ 7 แต่เคยลองทำแล้วได้เนื้อเหลวเป็นน้ำ อยากได้คำแนะนำในการพัฒนาสูตรโดยใช้วัตถุดิบจาก MySkinRecipes โดยพิจารณาส่วนผสมเช่น Myristic Acid, Stearic Acid, Lauric Acid, Palmitic Acid, Potassium Hydroxide, Glycerin, Glyceryl Stearate SE, Coco-Glucoside, Salicylic Acid, และ Tetrasodium EDTA มีวัตถุดิบใดบ้างจาก MySkinRecipes (เช่น รหัสสินค้า 2436, 32834, 901, 1016, 636, 143, 174, 178, 7594, 8445) ที่เหมาะสม และมีกระบวนการผสมเบื้องต้นอย่างไร รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเนื้อเหลวเป็นน้ำและการปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วงประมาณ 7?
คำตอบ
การทำโฟมล้างหน้าเนื้อครีมคล้าย Vichy Normaderm
จากรายการส่วนผสมของผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าเนื้อครีม Vichy Normaderm ที่ท่านชื่นชอบ ซึ่งออกแบบมาสำหรับผิวมัน เป็นสิวง่าย และรูขุมขนกว้าง และจากประสบการณ์ของท่านที่รู้สึกว่าสะอาด สบายผิว ไม่แห้งตึง เป็นสูตร Hypoallergenic และ Non-Comedogenic โดยมีค่า pH ที่วัดได้ประมาณ 7 เราสามารถสรุปแนวทางการพัฒนาสูตรที่คล้ายคลึงกันได้โดยใช้ส่วนผสมที่มีใน MySkinRecipes
โฟมล้างหน้าประเภทนี้อาศัยปฏิกิริยาสะพอนนิฟิเคชัน (Saponification) ของกรดไขมันกับเบสเพื่อสร้างสบู่ ซึ่งทำหน้าที่ทำความสะอาดและสร้างฟอง ในสูตรต้นฉบับระบุ Myristic Acid, Stearic Acid, Lauric Acid และ Palmitic Acid เป็นกรดไขมัน และ Potassium Hydroxide เป็นเบส นอกจากนี้ยังมี Glycerin เป็นสารให้ความชุ่มชื้น, Glyceryl Stearate SE เป็นสารอิมัลซิไฟเออร์/สารเพิ่มความข้น, Coco-Glucoside เป็นสารลดแรงตึงผิวร่วมที่อ่อนโยน, Salicylic Acid เป็นสารออกฤทธิ์ และ Tetrasodium EDTA เป็นสารคีเลต
นี่คือส่วนผสมที่เกี่ยวข้องที่มีใน MySkinRecipes ที่ท่านสามารถนำมาใช้ได้:
- กรดไขมัน (Fatty Acids): ส่วนผสมเหล่านี้จะทำปฏิกิริยากับเบสเพื่อเกิดเป็นสบู่ทำความสะอาด
- Myristic Acid (รหัสสินค้า: 2436)
- Stearic Acid (Stearic: 50-56%, Palmitic: 41-50%) (รหัสสินค้า: 32834)
- Lauric Acid (99%) (รหัสสินค้า: 901)
- Palmitic Acid (FEMA-2832) (รหัสสินค้า: 1016)
- เบส (Base): ใช้ในการทำปฏิกิริยาสะพอนนิฟิเคชันกับกรดไขมัน
- Sodium Hydroxide (รหัสสินค้า: 636)
แม้ว่าในสูตรต้นฉบับจะใช้ Potassium Hydroxide แต่ Sodium Hydroxide ก็เป็นเบสทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการทำปฏิกิริยาสะพอนนิฟิเคชัน ท่านจะต้องคำนวณปริมาณที่เหมาะสมในการทำให้กรดไขมันเป็นกลางอย่างระมัดระวัง
- Sodium Hydroxide (รหัสสินค้า: 636)
- สารให้ความชุ่มชื้น (Humectant): ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น
- Glycerin (USP/Food Grade) (รหัสสินค้า: 143)
กลีเซอรีนช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและไม่รู้สึกแห้งหลังการล้างหน้า
- Glycerin (USP/Food Grade) (รหัสสินค้า: 143)
- สารอิมัลซิไฟเออร์/สารเพิ่มความข้น (Emulsifier/Thickener): ช่วยสร้างและคงตัวเนื้อครีม
- Glyceryl Stearate SE / Glyceryl Monostearate SE (GMS SE) (รหัสสินค้า: 174)
ส่วนผสมนี้สำคัญในการสร้างเนื้อครีมที่ต้องการ
- Glyceryl Stearate SE / Glyceryl Monostearate SE (GMS SE) (รหัสสินค้า: 174)
- สารลดแรงตึงผิวร่วม (Co-Surfactant): สารลดแรงตึงผิวที่อ่อนโยนเพื่อเสริมฟองและความอ่อนโยน
- Coco Glucoside (รหัสสินค้า: 178)
- สารออกฤทธิ์ (Active Ingredient): สำหรับการผลัดเซลล์ผิวและดูแลสิว
- Liquid Salicylic Acid (40% Active Salicylic, Cationic For Wash-Off) (รหัสสินค้า: 7594)
Salicylic Acid ชนิดนี้ละลายน้ำได้และเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์แบบล้างออก
- Liquid Salicylic Acid (40% Active Salicylic, Cationic For Wash-Off) (รหัสสินค้า: 7594)
- สารคีเลต (Chelating Agent): ช่วยเพิ่มความคงตัวของสูตร
- Tetrasodium EDTA (รหัสสินค้า: 8445)
ช่วยป้องกันปัญหาที่เกิดจากไอออนโลหะในน้ำ
- Tetrasodium EDTA (รหัสสินค้า: 8445)
กระบวนการผสมเบื้องต้น
การทำโฟมล้างหน้าเนื้อครีมเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาสะพอนนิฟิเคชัน โดยทั่วไปมีขั้นตอนดังนี้:
- ให้ความร้อนส่วนของกรดไขมัน/น้ำมัน: รวมกรดไขมัน (Myristic Acid, Stearic Acid, Lauric Acid, Palmitic Acid) และ Glyceryl Stearate SE แล้วให้ความร้อนจนหลอมละลายและเข้ากัน
- ให้ความร้อนส่วนของน้ำ: ให้ความร้อนน้ำที่มี Glycerin และ Tetrasodium EDTA
- เตรียมสารละลายเบส: ค่อยๆ ละลาย Sodium Hydroxide ในน้ำปริมาณเล็กน้อย การทำเช่นนี้จะเกิดความร้อน ดังนั้นควรใช้ภาชนะที่ทนความร้อนและมีอากาศถ่ายเทสะดวก ปล่อยให้เย็นลงเล็กน้อย
- การทำปฏิกิริยาสะพอนนิฟิเคชัน: ค่อยๆ เติมสารละลายเบสลงในส่วนของกรดไขมัน/น้ำมันที่ร้อนพร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง ในขั้นตอนนี้สบู่จะก่อตัวขึ้น และส่วนผสมจะเริ่มข้นขึ้นเป็นเนื้อครีม
- การทำให้เย็นและเติมส่วนผสมอื่นๆ: เมื่อปฏิกิริยาสะพอนนิฟิเคชันเสร็จสมบูรณ์และส่วนผสมเย็นลงแล้ว ให้เติม Coco Glucoside และ Liquid Salicylic Acid คนต่อไปจนเข้ากันดี
- การปรับค่า pH: วัดค่า pH ของผลิตภัณฑ์สุดท้าย ซึ่งมักจะเป็นด่าง ค่อยๆ ปรับค่า pH ลงมาให้อยู่ในช่วงประมาณ 7 โดยใช้สารละลายกรดเจือจาง (เช่น Citric Acid หรือ Lactic Acid) ขั้นตอนนี้สำคัญต่อความเข้ากันได้กับผิวและการทำให้ pH ใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ต้นฉบับที่ท่านชื่นชอบ
การที่ท่านเคยลองทำแล้วได้เนื้อเหลวเป็นน้ำ อาจบ่งชี้ถึงปัญหาในกระบวนการสะพอนนิฟิเคชัน (สัดส่วนกรดไขมันต่อเบสไม่ถูกต้อง) หรือขั้นตอนการทำอิมัลชัน/เพิ่มความข้น การชั่งตวงที่แม่นยำและการให้ความร้อนและการคนอย่างถูกต้องในระหว่างกระบวนการสะพอนนิฟิเคชันและการเย็นตัวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้เนื้อครีมที่ต้องการ
การพัฒนาสูตรเครื่องสำอางต้องอาศัยการทดลอง ควรเริ่มต้นจากการทำในปริมาณน้อยๆ และปรับเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสม โดยเฉพาะกรดไขมันและเบส รวมถึงอิมัลซิไฟเออร์ เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสและฟองที่ต้องการ พร้อมทั้งรักษาค่า pH เป้าหมายให้อยู่ในช่วงประมาณ 7
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Glycerin (USP/Food Grade)

Coco Glucoside

Sodium Hydroxide

Lauric Acid (99%)

Palmitic Acid (FEMA-2832)

Myristic Acid (FEMA-2764)

Tetrasodium EDTA
