การพัฒนาสูตรโลชั่นทาตัวและคำถามเกี่ยวกับส่วนผสม
ถามโดย: qalua
เมื่อ: July 25, 2013
ประเภทผลิตภัณฑ์:
เครื่องสำอาง
คำถาม
ดิฉันต้องการทำโลชั่นทาตัวค่ะ ตอนนี้กำลังลองทำสูตรสำหรับปัญหาจุดด่างดำที่ลอกออกได้ รอยแผลเป็น และรอยแตกลาย โดยใช้ Cetyl alcohol
และ IPM
แต่สูตรยังไม่ดีนักค่ะ
IPM
ชื่อเต็มคืออะไร และมีหน้าที่อะไรคะ?B3 (Niacinamide)
และGlucosamine
ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้หรือไม่ และสามารถใส่รวมกับDouble Hyaluronic Acid
ในสูตรเดียวกันได้ไหมคะ?- นอกจาก
Double Hyaluronic Acid
แล้ว จำเป็นต้องใช้สารให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ เช่นBeta glucan
หรือSea Kelp
อีกหรือไม่คะ? - ช่วยแนะนำแหล่งซื้อวัตถุดิบบางตัวที่อาจไม่มีขายในท้องถิ่นได้ไหมคะ?
คำตอบ
คำตอบสำหรับคำถามของคุณจากข้อมูลในกระทู้:
สำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับ B3 (Niacinamide), Glucosamine, Beta glucan และ Sea Kelp:
B3 (Niacinamide) และ Glucosamine สำหรับกระตุ้นคอลลาเจน และสามารถเพิ่มในสูตร Double Hya ได้หรือไม่:
- ใช่ค่ะ B3 และ N-Acetyl Glucosamine ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ อย่างไรก็ตาม ตามที่ cosmeceutical7 กล่าวไว้ สารเหล่านี้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะแก้ไขริ้วรอยที่มีอยู่ได้ แต่จะช่วยรักษาคอลลาเจนให้แข็งแรง สำหรับการแก้ไขริ้วรอย จำเป็นต้องใช้กลุ่มเปปไทด์ (เช่น Matrixyl 3000 และ Argireline) หรือสารทางเลือกอื่นๆ เช่น DMAE, ALA หรือ Vitamin A
- จากสูตรที่ siranant.pooliam แชร์ ซึ่งมีทั้ง B3, Glucosamine และ Hyaluronic Acid แสดงว่าส่วนผสมเหล่านี้สามารถนำมารวมกันได้ค่ะ
จำเป็นต้องใช้สารให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ นอกจาก Double Hya อีกหรือไม่:
- ตามข้อมูลจาก cosmeceutical7 หากคุณรู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นเพียงพอแล้วจากการใช้ Double Hyaluron คุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้ส่วนผสมอื่นๆ เช่น Beta glucan หรือ Sea Kelp เพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ความชุ่มชื้น ค่ะ
- Beta glucan มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย หรือผู้ที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ (seborrheic dermatitis)
- Sea Kelp ให้สารอาหารแก่ผิวได้หลากหลายกว่าแค่การให้ความชุ่มชื้น
- คำแนะนำคือ หาก Hyaluronic Acid เพียงพอสำหรับความต้องการด้านความชุ่มชื้นของผิวคุณแล้ว การนำงบประมาณไปลงทุนกับส่วนผสมที่เน้นแก้ไขปัญหาที่คุณกังวลโดยตรง เช่น ริ้วรอย จะคุ้มค่ากว่าค่ะ เว้นแต่งบประมาณไม่จำกัด
ยินดีด้วยนะคะที่ชอบผลิตภัณฑ์ Double Hyaluron + Green tea extract และสูตร Matrixyl/Argireline ค่ะ ตามที่ cosmeceutical7 ได้กล่าวไว้ การเห็นผลเรื่องริ้วรอยจากเปปไทด์อย่าง Matrixyl 3000 และ Argireline อาจต้องใช้เวลานานกว่า 10 วัน ดังนั้น การใช้อย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ ควบคู่กับการป้องกันแสงแดดค่ะ