การพัฒนาสูตรโลชั่นบำรุงผิวกายเนื้อเซรั่มพร้อมสารออกฤทธิ์และสารกันแดด

ถามโดย: wanlrem123 เมื่อ: June 06, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการพัฒนาสูตรโลชั่นบำรุงผิวกายในรูปแบบเซรั่ม (ปริมาณ 500ml) โดยมีส่วนประกอบดังนี้:

  • Vitamin C
  • Vitamin B3
  • Ferulic Acid
  • MSH White Absorb
  • Active Resveratrol
  • Ethoxydiglycol
  • Propylene Glycol
  • Laureth-23
  • SPF Protect Plus ที่ SPF 50

ขอคำแนะนำว่าควรเพิ่มหรือลดส่วนประกอบใด ใช้ส่วนประกอบใดเพิ่มเติม และควรใช้ในสัดส่วนเท่าใด

คำตอบ

คำแนะนำการทำโลชั่นบำรุงผิวกายรูปแบบเซรั่ม

คุณต้องการสร้างโลชั่นบำรุงผิวกาย (500ml) ที่มีส่วนประกอบของ Vitamin C (L-ascorbic acid), Vitamin B3 (Niacinamide), Ferulic Acid, MSH White Absorb, Active Resveratrol, Ethoxydiglycol, Propylene Glycol, Laureth-23, และ SPF Protect Plus ที่ SPF 50

นี่คือคำแนะนำสำหรับการผสมส่วนประกอบเหล่านี้ในรูปแบบโลชั่นเนื้อเซรั่ม โดยพิจารณาจากคุณสมบัติและอัตราการใช้งานที่แนะนำ:

  • Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine): อัตราการใช้งานที่แนะนำคือ 3-15% สำหรับการปรับผิวให้กระจ่างใสอย่างเห็นผล ควรใช้อัตรา 10-15% โปรดทราบว่า L-ascorbic acid ต้องการค่า pH ที่ต่ำ (2.0-4.0) เพื่อความเสถียร ซึ่งอาจเป็นข้อท้าทายในการผสมกับส่วนประกอบอื่นๆ
  • Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): อัตราการใช้งานที่แนะนำคือ 1-10% ความเข้มข้น 5-10% มีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย ลดรอยแดง/ดำ (hyperpigment) และควบคุมความมัน พร้อมทั้งเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง
  • Ferulic Acid: Pure-Ferulic Acid™ แนะนำที่ 0.5-1% ต้องละลายในตัวทำละลาย เช่น Ethoxydiglycol หรือ ethanol อีกทางเลือกคือ Micromul™ Ferulic Acid (แนะนำที่ 2-3%) ซึ่งละลายน้ำได้ ทำให้ผสมในเบสเซรั่ม/โลชั่นได้ง่ายกว่า
  • MSH White™: อัตราการใช้งานที่แนะนำคือ 0.5-2% จำเป็นต้องละลายในน้ำมันหรือแอลกอฮอล์ที่อุณหภูมิสูงกว่า 60°C หรือในสารละลายที่มีค่า pH สูง (>8) ซึ่งต้องมีขั้นตอนการผสมที่ระมัดระวัง
  • Active Resveratrol: Pure Trans-Resveratrol (Powder) แนะนำที่ 0.5-3% ละลายใน ethanol และตัวทำละลายอินทรีย์อื่นๆ แต่ไม่ละลายในน้ำ Micromul™ Resveratrol (แนะนำที่ 0.5-5%) เป็นไมโครอิมัลชั่นที่ละลายน้ำได้ ใช้งานในเบสเซรั่ม/โลชั่นได้ง่ายกว่ามาก
  • Ethoxydiglycol: อัตราการใช้งานที่แนะนำคือ 1-10% ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายและตัวนำพา โปรดทราบว่าข้อกำหนด อย. ปัจจุบันสำหรับผลิตภัณฑ์ทาทิ้งไว้บนผิวหนังคือไม่เกิน 2.6%
  • Propylene Glycol: อัตราการใช้งานที่แนะนำคือ 1-20% ทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและตัวทำละลาย
  • Laureth-23: อัตราการใช้งานที่แนะนำคือ 1-5% เป็นสารประสานเนื้อครีม (emulsifier) ที่หลอมเหลวที่อุณหภูมิสูงกว่า 60°C และผสมในส่วนของน้ำมัน การมีส่วนประกอบนี้บ่งชี้ว่ารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมในการรวมส่วนประกอบที่ละลายน้ำและละลายน้ำมันเข้าด้วยกันคืออิมัลชั่น (โลชั่น หรือ โลชั่นเนื้อเซรั่ม)
  • SPF Protect Plus™: อัตราการใช้งานที่แนะนำคือ 1-20% การคำนวณค่า SPF คือ 1% ของ SPF Protect Plus™ ให้ค่า SPF ประมาณ 1.1 ในทางทฤษฎี การจะให้ได้ SPF 50 จะต้องใช้ประมาณ 45.45% แต่เนื่องจากอัตราการใช้งานสูงสุดที่แนะนำคือ 20% ดังนั้น การให้ได้ SPF 50 ด้วย SPF Protect Plus™ เพียงอย่างเดียวภายใต้อัตราการใช้งานที่แนะนำจึงเป็นไปไม่ได้ การใช้ที่อัตรา 20% จะให้ค่า SPF ประมาณ 22 หากต้องการ SPF 50 อย่างเคร่งครัด คุณอาจต้องพิจารณาสารกันแดดทางเลือกอื่น หรือสารกันแดดเพิ่มเติมที่เข้ากันได้กับเบสของสูตรและข้อกำหนดทางกฎหมาย

ข้อควรพิจารณาในการทำสูตร:

เนื่องจากมีส่วนประกอบที่ละลายน้ำและละลายน้ำมันผสมกัน รวมถึงมีสารประสานเนื้อครีม (Laureth-23) และสารกันแดด (SPF Protect Plus™ ละลายน้ำมัน) เบสรูปแบบอิมัลชั่นเนื้อเซรั่ม หรือโลชั่นเนื้อบางเบา จะเหมาะสมกว่าเซรั่มแบบธรรมดา

เพื่อให้กระบวนการทำสูตรง่ายขึ้น ควรพิจารณาใช้ Micromul™ Ferulic Acid และ Micromul™ Resveratrol เนื่องจากละลายน้ำได้

ช่วงเปอร์เซ็นต์ที่แนะนำ (เป็นส่วนหนึ่งของปริมาณทั้งหมด 500ml):

  • Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine): 10-15%
  • Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): 5-10%
  • Micromul™ Ferulic Acid: 2-3%
  • MSH White™: 0.5-2%
  • Micromul™ Resveratrol: 0.5-5%
  • Ethoxydiglycol: ไม่เกิน 2.6% (ตามข้อกำหนด อย. สำหรับผลิตภัณฑ์ทาทิ้งไว้)
  • Propylene Glycol: 5-10%
  • Laureth-23: 3-5%
  • SPF Protect Plus™: ไม่เกิน 20% (หมายเหตุ: จะให้ค่า SPF ประมาณ 22)

เปอร์เซ็นต์ที่เหลือจะเป็นส่วนประกอบของเบสสูตร เช่น น้ำ สารให้ความนุ่มลื่นอื่นๆ สารเพิ่มความข้น สารกันเสีย และสารปรับค่า pH เพื่อให้ครบ 100% (500ml) การจัดการค่า pH ที่ต่ำซึ่งจำเป็นสำหรับความเสถียรของ L-Ascorbic Acid จะต้องได้รับการดูแลอย่างรอบคอบในสูตรโดยรวม

สรุปการปรับ/เพิ่มเติม:

  • พิจารณาใช้ Micromul™ Ferulic Acid และ Micromul™ Resveratrol เพื่อให้การทำสูตรง่ายขึ้น
  • โปรดทราบว่า SPF Protect Plus™ ที่อัตราการใช้งานสูงสุดที่แนะนำ (20%) จะไม่สามารถให้ค่า SPF 50 ได้ คุณอาจต้องยอมรับค่า SPF ที่ต่ำลง หรือพิจารณาตัวเลือกสารกันแดดอื่นๆ
  • สูตรนี้มีแนวโน้มที่จะต้องใช้เบสแบบอิมัลชั่นเนื่องจากส่วนประกอบต่างๆ
  • จัดการค่า pH อย่างระมัดระวังเพื่อความเสถียรของ L-Ascorbic Acid

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Pure-Ferulic Acid™
Pure-Ferulic Acid™
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
เครื่องสำอาง
Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)
Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)
เครื่องสำอาง
Propylene Glycol
Propylene Glycol
เครื่องสำอาง
Laureth-23
Laureth-23
เครื่องสำอาง
SPF Protect Plus™
SPF Protect Plus™
เครื่องสำอาง
MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)
MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)
เครื่องสำอาง
Trans-Resveratrol (Powder, 98%)
Trans-Resveratrol (Powder, 98%)
เครื่องสำอาง
Micromul™ Resveratrol (Resveratrol microemulsion)
Micromul™ Resveratrol (Resveratrol microemulsion)
เครื่องสำอาง
Micromul™ Ferulic Acid (Microemulsion Ferulic Acid)
Micromul™ Ferulic Acid (Microemulsion Ferulic Acid)
เครื่องสำอาง