การพัฒนาสูตรโลชั่นเบสน้ำด้วยน้ำสมุนไพรและน้ำมันมะพร้าว

ถามโดย: aoy.thanawadee เมื่อ: June 12, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่เป็นเบสน้ำ โดยใช้น้ำสมุนไพรเป็นส่วนประกอบหลัก และต้องการใส่น้ำมัน (เดิมตั้งใจใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น) จึงขอคำแนะนำในการเลือกใช้น้ำมันและอิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสม ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้อง รวมถึงอุณหภูมิที่ใช้ วิธีการปรับเนื้อให้ได้ลักษณะคล้ายโลชั่น (หรือข้นกว่า) และข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับความคงตัวของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้น้ำสมุนไพร

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องการคำแนะนำในประเด็นต่อไปนี้:

  • ความแตกต่างระหว่าง Fractionated Coconut Oil กับ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ในการนำมาใช้ในสูตรลักษณะนี้
  • คำแนะนำเกี่ยวกับส่วนผสมที่เหมาะสม โดยเฉพาะอิมัลซิไฟเออร์ (พิจารณาสารอื่นแทน Tween 20)
  • ขั้นตอนการผสมโดยละเอียด รวมถึงอุณหภูมิของส่วนน้ำมันและส่วนน้ำ กระบวนการทำอิมัลชัน และช่วงเวลาที่ควรเติมสารกันเสีย เช่น Phenoxyethanol SA
  • วิธีการปรับเนื้อสัมผัสให้ได้ตามต้องการ (คล้ายโลชั่น หรือข้นขึ้น) และการใช้สารสร้างเนื้อเจล เช่น AnyGel
  • ข้อควรพิจารณาที่สำคัญในการรับรอง ความคงตัว และ การกันเสีย ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเมื่อใช้น้ำสมุนไพร รวมถึงการทดสอบที่แนะนำ

คำตอบ

สรุปข้อมูลตามที่ได้พูดคุยกับทีมงานนะคะ:

  1. ความแตกต่างระหว่าง Fractionated Coconut Oil กับ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น:

    • น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น: มีกรดไขมันหลายชนิด รวมถึงกรดไขมันสายยาว ทำให้แข็งตัวที่อุณหภูมิห้อง (ต่ำกว่าประมาณ 24°C) ยังคงกลิ่นมะพร้าวธรรมชาติและสารประกอบที่เป็นประโยชน์อยู่
    • Fractionated Coconut Oil: ผ่านกระบวนการ (fractionation) เพื่อแยกกรดไขมันสายยาวออกไป เหลือส่วนใหญ่เป็น Medium-Chain Triglycerides (MCTs) ทำให้เป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้อง มีความรู้สึกเบา ไม่เหนอะหนะ และมีความคงตัวสูงกว่า (ไม่เหม็นหืนง่าย)
    • ในสูตรของท่านที่เป็นเบสเป็นน้ำ แนะนำให้ใช้ Fractionated Coconut Oil เพราะจะเข้ากับสูตรได้ง่ายกว่าและอิมัลซิไฟเออร์ได้ดีกว่าน้ำมันมะพร้าวทั่วไปที่อาจแข็งตัวได้
  2. ส่วนผสมที่แนะนำสำหรับสูตรของท่าน:

    • ทีมงานแนะนำให้ใช้ Fractionated Coconut Oil แทนน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เพื่อให้เข้ากับสูตรได้ง่ายขึ้น
    • แนะนำให้ใช้ Butter Cream Maker แทน Tween 20 เนื่องจาก Butter Cream Maker สามารถประสานน้ำมัน 5% ในสูตรที่เป็นเบสน้ำได้ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีส่วนผสมของน้ำสมุนไพรที่อาจมีผลต่อความคงตัว
  3. อุณหภูมิและขั้นตอนการผสมสำหรับสูตรที่ปรับปรุงใหม่:

    • ส่วนที่ 1 (ส่วนน้ำมัน): ผสม Fractionated Coconut Oil (3%) และ Butter Cream Maker (3%) เข้าด้วยกัน แล้วให้ความร้อนถึง 70-75°C
    • ส่วนที่ 2 (ส่วนน้ำ): อุ่นน้ำสมุนไพร (93.5%) ให้มีอุณหภูมิใกล้เคียงกัน ประมาณ 70-75°C
    • การทำอิมัลชั่น: ค่อยๆ เทน้ำสมุนไพรที่อุ่นแล้ว (ส่วนที่ 2) ลงในส่วนน้ำมันที่อุ่นแล้ว (ส่วนที่ 1) พร้อมกับปั่นอย่างต่อเนื่อง ปั่นจนได้เนื้อครีม
    • การทำให้เย็นและใส่สารกันเสีย: ปล่อยให้ส่วนผสมเย็นลงจนอุณหภูมิไม่เกิน 50°C จากนั้นเติม Phenoxyethanol SA (0.5%) ลงไป แล้วปั่นให้เข้ากัน
    • ข้อควรทราบ: แนะนำให้ใช้เครื่องปั่นในการผสมเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี การคนด้วยมืออาจทำได้ยาก
  4. ลักษณะเนื้อที่ได้:

    • เนื้อที่ได้จากสูตรที่ปรับปรุงใหม่ (ใช้ Fractionated Coconut Oil 3% และ Butter Cream Maker 3%) จะมีลักษณะคล้ายโลชั่น
    • หากต้องการให้เนื้อข้นขึ้น สามารถเติมสารสร้างเนื้อเจล เช่น AnyGel (0.3-0.5%) ลงในส่วนน้ำและปั่นให้เข้ากันก่อนนำไปผสมกับส่วนน้ำมัน
  5. ข้อควรพิจารณาเรื่องความคงตัว:

    • เนื่องจากน้ำสมุนไพรของท่านมีแนวโน้มที่จะเสีย (สี/กลิ่นเปลี่ยน, มีเชื้อขึ้น) ที่อุณหภูมิห้องหากไม่ใส่สารกันเสีย การใช้ Phenoxyethanol SA จึงมีความสำคัญ
    • แนะนำอย่างยิ่งให้ทดลองผสมในปริมาณน้อยๆ ก่อน แล้วเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน (อุณหภูมิห้อง, ในตู้เย็น) เป็นเวลา 1-3 เดือน เพื่อตรวจสอบความคงตัว (การแยกชั้น, สีเปลี่ยน, กลิ่นเปลี่ยน, การเจริญเติบโตของเชื้อ) ก่อนผลิตจริง สารสกัดจากสมุนไพรอาจมีผลต่อความคงตัวและความข้นของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปได้

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Fractionated Coconut Oil
Fractionated Coconut Oil
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง
Butter Cream Maker™
Butter Cream Maker™
เครื่องสำอาง