การพัฒนาสูตรโลชั่น/ครีม รอยแตกลาย แผลเป็น: ขั้นตอนการผสมและความเสถียร
คำถาม
สอบถามเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรครีม/โลชั่นสำหรับรอยแตกลายและแผลเป็น โดยต้องการยืนยันว่าขั้นตอนการผสมตามที่อธิบายด้านล่างนี้ถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของการใช้ความร้อนละลาย Shea Butter, การผสมกับ Light Cream Maker, การเติมน้ำและน้ำมัน, และการใช้เครื่องบดกาแฟเป็นเครื่องผสม สำหรับสูตรดังนี้:
สูตร:
- Rose Hip Oil 15%
- Alpha Lipoic Acid 3-5%
- Acetyl L-Carnitine 5%
- Light Cream Maker 1%
- Shea butter (Organic–Refined) 15%
- Phenoxyethanol 1%
- น้ำ (ส่วนที่เหลือ)
ขั้นตอนการผสมที่ต้องการยืนยัน:
- ละลาย Shea Butter โดยใช้ความร้อนและคงอุณหภูมิ (Heat and Hold) ที่ 70 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาที จน Shea Butter ละลายดี
- เมื่อเริ่มเย็นตัวลง ให้นำมาผสมกับ Light Cream Maker (ต้องเขย่าก่อน)
- พอเข้ากันดีกับ Shea Butter ก็เทส่วนน้ำลงไปแล้วคนเร็วๆ
- ถ้าไม่เข้ากัน ให้เอาที่ตีไข่มาตี หรือใช้เครื่องบดเม็ดกาแฟสด (เครื่องเล็กๆ เท่าแก้วน้ำ เหมาะมือดี) ตีจนเนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- จากนั้น ค่อยเทส่วนน้ำมันลงไปคนเร็วๆ ให้เข้ากันจนเป็นเนื้อโลชั่น
- แช่เย็นสัก 1 ชั่วโมง
คำตอบ
วิธีผสมครีมรักษารอยแตกลายและแผลเป็น
สวัสดีค่ะ
เข้าใจปัญหาที่คุณลูกค้าพบค่ะ การทำครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันในปริมาณสูงและส่วนผสมที่ละลายในเฟสน้ำและน้ำมันต่างกัน อาจทำให้เกิดปัญหาเนื้อแยกชั้นหรือไม่เข้ากันได้ค่ะ โดยเฉพาะ Shea Butter ที่เป็นไขธรรมชาติ และ Alpha Lipoic Acid ที่ละลายในน้ำมัน การทำให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวต้องใช้เทคนิคการผสมที่เหมาะสมค่ะ ปัญหาที่พบอาจเกิดจาก Light Cream Maker เพียงอย่างเดียวไม่สามารถประสานน้ำมันปริมาณ 30% (Rose Hip Oil 15% + Shea Butter 15%) ได้อย่างเสถียรเพียงพอ และอาจรวมถึงอุณหภูมิและการคนที่ไม่ต่อเนื่องค่ะ
สูตรปรับปรุง (ตัวอย่าง)
จากสูตรเดิมและสารที่คุณลูกค้ามีอยู่ สามารถปรับปรุงวิธีผสมเพื่อให้ได้เนื้อโลชั่น/ครีมที่เนียนขึ้นได้ โดยแนะนำให้เพิ่ม Glyceryl Stearate และ Cetyl Alcohol ที่คุณลูกค้ามีอยู่ เพื่อช่วยในการสร้างเนื้อครีมและเพิ่มความเสถียรของอิมัลชันค่ะ
- Rose Hip Oil: 15%
- Alpha Lipoic Acid: 3-5%
- Acetyl L-Carnitine: 5%
- Shea Butter (Organic–Refined): 15%
- Glyceryl Stearate: 4%
- Cetyl Alcohol: 2%
- Light Cream Maker: 1% (สามารถคงไว้เพื่อช่วยเรื่องเนื้อสัมผัส หรือจะลองไม่ใส่ดูก่อนก็ได้ค่ะ)
- Phenoxyethanol: 1%
- น้ำ (ส่วนที่เหลือ): ปรับให้ครบ 100%
วิธีผสม (Hot Process)
- ส่วนน้ำ (Water Phase): ชั่งน้ำตามปริมาณที่คำนวณได้ (ส่วนที่เหลือจาก 100%) นำไปให้ความร้อนประมาณ 70-75°C ละลาย Acetyl L-Carnitine ในน้ำร้อน คนให้ละลายเข้ากันดี รักษาอุณหภูมิไว้
- ส่วนน้ำมัน (Oil Phase): ในภาชนะอีกใบ ชั่ง Rose Hip Oil, Shea Butter, Glyceryl Stearate, และ Cetyl Alcohol นำไปให้ความร้อนประมาณ 70-75°C จน Shea Butter และส่วนผสมที่เป็นของแข็งละลายใสเข้ากันดี (ควร Heat and Hold ที่อุณหภูมินี้ประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้ Shea Butter ละลายสมบูรณ์และไม่ตกผลึกกลับมาง่ายๆ) เมื่อส่วนผสมน้ำมันใสแล้ว ค่อยๆ เติม Alpha Lipoic Acid ลงไปในส่วนน้ำมันที่ยังร้อนอยู่ คนหรือใช้เครื่องปั่นขนาดเล็กช่วยให้ Alpha Lipoic Acid ละลายเข้ากับน้ำมัน หากต้องการใช้ Light Cream Maker ให้เติมลงในส่วนน้ำมันตอนนี้และคนให้เข้ากัน
- รวมเฟส: ค่อยๆ เทส่วนน้ำมัน (Oil Phase) ลงในส่วนน้ำ (Water Phase) ทีละน้อย พร้อมกับใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง (เช่น เครื่องปั่นเหวี่ยง หรือเครื่องตีไข่ไฟฟ้าขนาดเล็ก) ปั่นส่วนผสมตลอดเวลา การใช้แรงปั่นสูงในช่วงนี้สำคัญมากเพื่อให้ Emulsifier ดึงน้ำและน้ำมันเข้ามารวมกันเป็นเนื้อเดียวกัน ปั่นต่อเนื่องจนส่วนผสมเริ่มข้นขึ้นและมีลักษณะเป็นครีมหรือโลชั่น
- ช่วงทำเย็น (Cool Down Phase): หยุดให้ความร้อน และคนหรือปั่นเป็นช่วงๆ ขณะที่ครีมเย็นตัวลง เมื่ออุณหภูมิของครีมลดลงต่ำกว่า 40-60°C จึงเติม Phenoxyethanol ลงไป คนให้เข้ากัน
- ปรับเนื้อ: หากเนื้อยังไม่เนียนหรือมีเม็ดเล็กๆ อาจใช้เครื่องปั่นความเร็วสูงปั่นซ้ำอีกครั้งเมื่อครีมเย็นตัวลงจนถึงอุณหภูมิห้อง
สารที่คุณลูกค้ามีและสามารถใช้สร้างเนื้อโลชั่น/ครีมได้:
- Glyceryl Stearate และ Cetyl Alcohol: เป็น Emulsifier และ Thickener ที่ดี เหมาะสำหรับสูตรที่มีน้ำมันปริมาณสูง ควรใช้ร่วมกันและใช้ความร้อนในการผสม
- Light Cream Maker: เป็น Emulsifier ที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้ความร้อนมาก แต่จากประสบการณ์ที่พบปัญหา อาจไม่เพียงพอสำหรับปริมาณน้ำมัน 30% ในสูตรนี้ หรืออาจต้องใช้ในปริมาณที่สูงขึ้น และต้องผสมด้วยแรงปั่นที่เพียงพอ
- Polysorbate 20: เป็น Solubilizer/Emulsifier ที่อ่อนโยนกว่า เหมาะสำหรับประสานน้ำมันหรือน้ำหอมในปริมาณน้อยๆ (มักไม่เกิน 5-10%) อาจไม่เหมาะเป็น Emulsifier หลักสำหรับสูตรที่มีน้ำมัน 30% แต่อาจใช้เสริมได้ในบางกรณี
สารที่คุณลูกค้ามีแต่ไม่ใช่ Emulsifier หลักสำหรับสูตรนี้:
- Hyaluronic Acid Standard + Nano: เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและสร้างเนื้อเจลในเฟสน้ำ ไม่ได้ช่วยประสานน้ำกับน้ำมัน
- Silicone gel, Pro Polymer, Xanthan Gum: เป็นสารสร้างเนื้อ (Thickener/Gel Maker) ในเฟสน้ำหรือซิลิโคน ไม่ได้ทำหน้าที่เป็น Emulsifier หลักในการรวมน้ำกับน้ำมัน
- Glyceryl (Vegetable): น่าจะเป็น Glycerin เป็นสารให้ความชุ่มชื้น ไม่ใช่ Emulsifier
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- การ Heat and Hold Shea Butter ที่ 70°C ประมาณ 15-20 นาที ช่วยให้ Shea Butter ละลายสมบูรณ์และลดโอกาสการตกผลึกกลับมาเป็นเม็ดค่ะ
- การปั่นด้วยเครื่องปั่นความเร็วสูงในช่วงที่รวมเฟสเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำอิมัลชันให้เนียนและเสถียร เครื่องตีไข่ไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือเครื่องปั่นแบบ Immersion Blender จะให้แรงปั่นที่ดีกว่าการคนด้วยมือหรือเครื่องบดกาแฟค่ะ
- เป็นเรื่องปกติที่ครีมที่มีส่วนผสมของไขธรรมชาติอย่าง Shea Butter ในปริมาณสูงจะแข็งตัวขึ้นในที่เย็นและเหลวลงในที่ร้อน อย่างไรก็ตาม การแยกชั้นเป็นตะกอนแสดงว่าอิมัลชันไม่สมบูรณ์
ลองปรับวิธีผสมตามขั้นตอน Hot Process โดยใช้ Glyceryl Stearate และ Cetyl Alcohol ร่วมด้วย และใช้เครื่องปั่นความเร็วสูงในการรวมเฟสดูนะคะ น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ค่ะ
หากยังมีปัญหา สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Shea Butter (Refined , Deodorised)

Light Cream Maker™

Phenoxyethanol (Extra Pure)

L-Carnitine (Carnitine)

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Cetyl Alcohol

Polysorbate 20 (Tween 20)

Alpha Lipoic Acid (ALA) (Powder)

Xanthan Gum (ชนิดเจลใส, เนื้อเนียนไม่ยืด)

Shea Butter (Ultra Soft)

Pro Polymer™ (Gel Maker)

ALA Ready™ (Alpha Lipoic Acid Oil Base)

Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)

Rose Hip Oil (Virgin, Fresh)
