ใช่ค่ะ เป็นไปได้ที่จะเพิ่มส่วนผสมสารกันแดดลงในสูตรครีมทาตอนกลางวันของคุณ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์แบบรวมและทำให้ขั้นตอนการดูแลผิวง่ายขึ้น แต่วิธีนี้ก็มีความท้าทายในการคิดค้นสูตร โดยหลักๆ คือเรื่องเนื้อสัมผัสและความรู้สึกบนผิว โดยเฉพาะเมื่อใส่สารออกฤทธิ์หลายชนิดพร้อมกัน ตามที่คุณได้รับคำแนะนำมา

นี่คือรายละเอียดของสูตรที่คุณเสนอและข้อควรพิจารณาตามส่วนผสมและคำแนะนำที่ได้รับ:

ข้อควรพิจารณาทั่วไปสำหรับการรวมสารออกฤทธิ์และสารกันแดด:

• เนื้อสัมผัสและความรู้สึกบนผิว: สารกรองแสงกันแดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเข้มข้นสูงซึ่งจำเป็นสำหรับ SPF 40 อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อเนื้อสัมผัส ทำให้ผลิตภัณฑ์รู้สึกหนักหรือเหนอะหนะมากขึ้น การเพิ่มสารออกฤทธิ์หลายชนิดจะยิ่งเพิ่มปริมาณของแข็งหรือกึ่งของแข็งทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้ปัญหานี้รุนแรงขึ้น สำหรับผิวผสมและผิวที่อุดตันง่าย มักจะชอบเนื้อสัมผัสที่บางเบาและไม่เหนอะหนะ
• ความเข้ากันได้และความเสถียรของส่วนผสม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันได้ในสูตรเดียวกันและมีความเสถียรเมื่อเวลาผ่านไป คำอธิบายสำหรับส่วนผสมบางชนิด เช่น Activated Resorcinol™ ระบุถึงความไวต่อแสงและค่า pH และแนะนำให้ใช้ Disodium EDTA เพื่อความเสถียร สารกรองแสงกันแดดก็ต้องการสูตรที่เสถียรเพื่อรักษาประสิทธิภาพด้วย
• ปริมาณน้ำ: คำแนะนำที่คุณได้รับเกี่ยวกับปริมาณน้ำที่น้อยกว่า 75% นั้นมีความเกี่ยวข้อง ปริมาณน้ำที่เพียงพอหรือเบสที่เป็นน้ำมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการละลายสารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำได้หลายชนิด และช่วยให้ผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่ายและซึมซาบได้ดี ซึ่งส่งผลให้รู้สึกบางเบาขึ้น ส่วนผสมเช่น Butylene Glycol, Glycerin และ Ethoxydiglycol ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายและสารให้ความชุ่มชื้น ซึ่งช่วยในเรื่องนี้ แต่ก็เพิ่มปริมาณส่วนผสมทั้งหมดด้วย
• ประสิทธิภาพ: แม้ว่าการรวมผลิตภัณฑ์จะสะดวก แต่ต้องแน่ใจว่าความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์แต่ละชนิดและระดับ SPF เพียงพอสำหรับผลลัพธ์ที่ต้องการ การรวมสารออกฤทธิ์หลายชนิดในเปอร์เซ็นต์ปานกลางในสูตรที่ยังมีสารกันแดดในเปอร์เซ็นต์สูง จำเป็นต้องมีการปรับสมดุลอย่างระมัดระวัง

การวิเคราะห์สูตรที่คุณเสนอ:

สูตรทั้งสองของคุณมีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่หลากหลายซึ่งมุ่งเป้าไปที่ปัญหาต่างๆ เช่น การทำให้ผิวกระจ่างใส (SPF Protect Ultra™, BB Microsilk, Azelaic Acid, Vitamin B3, N-Acetyl Glucosamine, Activated Resorcinol™), การปลอบประโลม/ให้ความชุ่มชื้น (Vitamin B3, Natural Betaine, Chamomile, Allantoin, Aloe Vera Gel), การซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว (Vitamin B3, Repair Activator) และอาจช่วยลดปัญหาสิว (Azelaic Acid, Vitamin B3, Nano Silver)

• สูตร 1 (เริ่มต้นด้วยน้ำ): เริ่มต้นด้วยน้ำ 45% ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่ค่อนข้างต่ำเมื่อต้องการเนื้อสัมผัสที่บางเบา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมี SPF Protect Ultra™ 17% และส่วนผสมที่เป็นผง/ของเหลวอื่นๆ
• สูตร 2 (เริ่มต้นด้วย Aloe base heavy): เริ่มต้นด้วย Aloe Vera Gel (Heavy) 45.5% เบสนี้มีน้ำ สารสกัดว่านหางจระเข้ วิตามินบี 5 โปรโพลิเมอร์ อัลลันโทอิน และสารกันเสียอยู่แล้ว แม้ว่าจะเป็นเบสที่ดีที่มีสารออกฤทธิ์บางชนิด แต่ก็มีส่วนทำให้ปริมาณส่วนผสมที่ไม่ใช่น้ำทั้งหมดเพิ่มขึ้นตั้งแต่เริ่มต้น

ในทั้งสองสูตร เปอร์เซ็นต์รวมของส่วนผสมอื่นๆ นอกเหนือจากน้ำ (หรือเบส) ค่อนข้างสูง (ประมาณ 55% ในสูตร 1 และประมาณ 54.5% ในสูตร 2 โดยไม่รวมปริมาณน้ำในเบส Aloe Vera Gel) ความเข้มข้นที่สูงของส่วนผสมต่างๆ เหล่านี้ รวมถึง SPF Protect Ultra™ 17% มีแนวโน้มที่จะเป็นสาเหตุของความข้นหรือความรู้สึกบนผิวที่ไม่สบายตัวเท่าที่ควร ตามที่ระบุในคำแนะนำ

การตอบคำแนะนำที่ได้รับ:

• ปริมาณน้ำ: ข้อกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำที่น้อยกว่า 75% ซึ่งส่งผลต่อการนำพาสารออกฤทธิ์นั้นถูกต้องในแง่ที่ว่า "ปริมาณสารออกฤทธิ์ที่สูง" ในเฟสน้ำที่ต่ำกว่าอาจส่งผลกระทบต่อเนื้อสัมผัส และความง่ายในการเกลี่ยและการซึมซาบของผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม การมีตัวทำละลาย/ตัวนำพา เช่น Butylene Glycol และ Ethoxydiglycol สามารถช่วยในการละลายและการนำพาสารออกฤทธิ์ได้ แม้จะมีปริมาณน้ำน้อยก็ตาม
• Butylene Glycol vs. Ethoxydiglycol: ตามที่กล่าวในคำแนะนำ Ethoxydiglycol โดยทั่วไปให้ความรู้สึกบางเบากว่า Butylene Glycol และสามารถเป็นตัวนำพาที่มีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับส่วนผสมบางชนิด การแทนที่ Butylene Glycol ด้วย Ethoxydiglycol อาจช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสและอาจรวมถึงการนำพาสารออกฤทธิ์ แต่ก็มักจะมีราคาสูงกว่าด้วย อัตราการใช้สูงสุดที่อนุญาตสำหรับ Ethoxydiglycol ในผลิตภัณฑ์แบบ Leave-on คือ 2.6% ในปัจจุบัน
• Pitera เป็นสารทดแทนน้ำ: การใช้ Galactomyces Ferment Filtrate (Pitera) เป็นส่วนหนึ่งของเฟสน้ำเป็นข้อเสนอแนะที่ดีสำหรับการเพิ่มคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ในขณะที่ยังคงสูตรให้ค่อนข้างบางเบา

คำแนะนำและการปรับเปลี่ยน:

1. จัดลำดับความสำคัญและปรับความเข้มข้น: สำหรับผิวผสมและผิวที่อุดตันง่าย เนื้อสัมผัสที่บางเบาเป็นสิ่งสำคัญ พิจารณาการลดเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมบางชนิดลงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนผสมที่ทำให้เกิดความข้นหรือความรู้สึกหนัก แต่ยังคงความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่คุณต้องการมากที่สุดไว้ในระดับที่มีประสิทธิภาพ (เช่น Vitamin B3, Azelaic Acid, Activated Resorcinol™)
2. ปรับปรุงเบส: หากใช้เบส Aloe Vera Gel (Heavy) ให้ทำความเข้าใจส่วนประกอบของมัน (รวมถึงปริมาณน้ำและสารเพิ่มความข้น/สารออกฤทธิ์ที่มีอยู่) เมื่อคำนวณเปอร์เซ็นต์รวมของคุณ คุณอาจต้องปรับปริมาณน้ำเพิ่มเติมหรือส่วนผสมเบสอื่นๆ
3. พิจารณาความเข้มข้นของสารกันแดด: SPF Protect Ultra™ 17% เป็นปริมาณที่มากและจะส่งผลอย่างมากต่อเนื้อสัมผัส ตรวจสอบให้แน่ใจว่าความเข้มข้นนี้จำเป็นสำหรับระดับ SPF ที่คุณต้องการ (SPF Protect Ultra™ II ที่ 15% ระบุว่าให้ SPF50) การใช้ความเข้มข้นขั้นต่ำที่มีประสิทธิภาพสำหรับ SPF เป้าหมายของคุณสามารถช่วยในเรื่องเนื้อสัมผัสได้
4. ประเมินสารเพิ่มความข้น (Pro Polymer): Pro Polymer เป็นสารสร้างเนื้อเจล ปริมาณที่ใช้จะส่งผลโดยตรงต่อความหนืด หากเนื้อสัมผัสข้นเกินไป อาจจำเป็นต้องลดเปอร์เซ็นต์ของ Pro Polymer ลง หรืออาจพิจารณาสารเพิ่มความข้นชนิดอื่นที่ให้ความรู้สึกบางเบากว่า
5. ทดลองใช้ตัวทำละลาย/ตัวนำพา: หากเนื้อสัมผัสเป็นข้อกังวลหลัก การทดลองแทนที่ Butylene Glycol ด้วย Ethoxydiglycol ในอัตราการใช้ที่เหมาะสม อาจเป็นประโยชน์ทั้งในด้านความรู้สึกและการนำพาสารออกฤทธิ์
6. เพิ่ม Pitera: การแทนที่ส่วนหนึ่งของเฟสน้ำด้วย Galactomyces Ferment Filtrate (Pitera) สามารถเพิ่มประโยชน์ต่อผิวในขณะที่ยังคงสูตรให้ค่อนข้างบางเบา
7. วิธีการผสม: ปฏิบัติตามคำแนะนำการผสมที่แนะนำสำหรับส่วนผสมแต่ละชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ SPF Protect Ultra™ (ต้องใช้ความร้อนในการละลาย) และ Pro Polymer (ต้องกระจายอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้จับตัวเป็นก้อน) ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Activated Resorcinol™ ละลายในเฟสน้ำมันอย่างถูกต้อง และค่า pH อยู่ในช่วงที่แนะนำ (4.5-5.5) พร้อมกับ Disodium EDTA เพื่อความเสถียร

การสร้างผลิตภัณฑ์เดียวที่มี SPF สูงและสารออกฤทธิ์หลายชนิดต้องใช้การคิดค้นสูตรอย่างระมัดระวังเพื่อสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ ความเสถียร และความรู้สึกบนผิวที่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพผิวของคุณ คุณอาจต้องทดลองกับเปอร์เซ็นต์และชนิดของส่วนผสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด