การละลายสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมันในสูตรเซรั่มสูตรน้ำ

ถามโดย: sangchai1 เมื่อ: May 27, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรเซรั่มสูตรน้ำ โดยเฉพาะส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน ดังนี้ค่ะ

  1. ส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน เช่น Activated Resorcinol™ ที่เป็นผง เราใช้อะไรมาทำละลายคะ? สามารถใช้กลุ่ม LipidSoft หรือ Glycol ต่างๆ ในสูตรเพื่อทำละลายได้หรือไม่?

    อย่างใน Activated Resorcinol™ ในตัวอย่างสูตรในคำอธิบาย:

    • Water 92.8%
    • LipidSoft 5% (หรือน้ำมันชนิดใดๆ)
    • Light Cream Maker™ 1%
    • Activated Resorcinol™ 1%
    • Disodium EDTA 0.2%

    ตามความเข้าใจ คือ LipidSoft ใช้ทำละลาย Activated Resorcinol™ ใช่ไหมคะ? หลังจากละลายแล้ว ก็ใช้ Light Cream Maker™ เพื่อสร้างเนื้อและประสานน้ำเข้ากับน้ำมันด้วย ใช่หรือไม่คะ?

    (เพิ่มเติม: ลองไปอ่านในกระทู้เก่าๆ เขาบอกว่า ถ้าพวกที่มาในรูปของเหลวแล้ว สามารถผสมลงในสูตรได้เลย ไม่ต้องทำละลายก็ได้)

  2. ส่วนผสมที่บอกว่าละลายในน้ำมัน สามารถละลายใน Glycol ได้หรือไม่คะ?

  3. Glycol ที่บอกว่าละลายในน้ำมันได้ ไม่ได้หมายความว่า น้ำมันละลายใน Glycol ได้ ใช่หรือไม่คะ?

คำตอบ

ข้อเสนอแนะและคำตอบสำหรับสูตร

เป้าหมายของคุณคือการทำเซรั่มไวท์เทนนิ่งสูตรน้ำ โดยมีค่า pH อยู่ระหว่าง 4.5-5.5 โดยใช้ส่วนผสมที่คุณระบุมา ค่า pH ช่วงนี้เหมาะสมกับสารออกฤทธิ์หลายตัวที่คุณเลือกใช้ เช่น Activated Resorcinol (pH ที่เหมาะสมที่สุด 4.5-5.5) และ Repair Activator (pH 4-5.5) รวมถึง Perfect-C (pH ของสูตร 5.0-5.5) ส่วน Pumpkin Renew (pH 4.5-7.0) ก็อยู่ในช่วงนี้ได้เช่นกัน Disodium EDTA (pH 3.0-9.0) และ Phenoxyethanol (pH 2-9) ก็สามารถใช้ได้ Pro Polymer มีคุณสมบัติทนต่ออิเล็กโทรไลต์ ซึ่งเป็นข้อดีเนื่องจากส่วนผสมบางตัวอาจเป็นอิเล็กโทรไลต์ ประสิทธิภาพของ Lactic Acid จะดีที่สุดเมื่อ pH ต่ำกว่า 4.0 ดังนั้นที่ pH 4.5-5.5 ผลการผลัดเซลล์ผิวจะลดลงอย่างมาก แต่ก็ยังคงช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและการปรับ pH ได้ คุณตั้งใจจะใช้ Lactic Acid เพื่อปรับ pH หากจำเป็น ส่วน Triethanolamine ใช้เพื่อเพิ่มค่า pH (ความเป็นด่าง) ดังนั้น Lactic Acid จึงเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องในการลดค่า pH (ความเป็นกรด) เพื่อให้ได้ค่า pH ที่ต้องการ

ข้อมูลเฉพาะของส่วนผสม

  • Licorice Extract (Licochalcone A): จากคำอธิบายผลิตภัณฑ์ของ Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble) คุณสมบัติหลักคือช่วยลดการอักเสบของผิว ลดรอยแดงจากสิว ลดการระคายเคือง ลดความมันของผิว และลดสิว คำอธิบายระบุไว้อย่างชัดเจนว่า "Licochalcone A ไม่ได้มีไว้สำหรับทำให้ผิวขาว" ดังนั้น การใช้เพื่อลดการระคายเคืองตามที่คุณกล่าวถึงในคำตอบจึงถูกต้อง แต่จะไม่ช่วยเรื่องผลของไวท์เทนนิ่งในเซรั่ม
  • Pentylene Glycol: คุณเสนอใช้ Pentylene Glycol 10% คำอธิบายผลิตภัณฑ์ของ Pentylene Glycol ระบุอัตราการใช้ที่ 1-10% แม้ว่า 10% จะอยู่ในช่วงที่อนุญาต แต่คำอธิบายระบุประโยชน์ต่างๆ เช่น ช่วยเสริมประสิทธิภาพสารกันเสีย (แนะนำ 3%) ช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิว (2-4%) และช่วยกักเก็บน้ำ (3-5%) ซึ่งได้ผลดีที่ความเข้มข้นต่ำกว่า คำตอบในกระทู้ที่แนะนำ 3% น่าจะเพื่อปรับปรุงสูตรให้เนื้อสัมผัสดีขึ้นหรือลดต้นทุน โดยไม่สูญเสียประโยชน์หลักของ Pentylene Glycol ในฐานะสารให้ความชุ่มชื้น ตัวทำละลาย และสารเสริมประสิทธิภาพสารกันเสีย คุณสามารถใช้ 10% ได้ แต่ 3-5% อาจเพียงพอขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่ต้องการและสมดุลโดยรวมของสูตร
  • Butylene Glycol: Butylene Glycol 5% ที่คุณเสนออยู่ในอัตราการใช้ปกติที่ 1-20% Butylene Glycol ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายและสารให้ความชุ่มชื้น คล้ายกับ Pentylene Glycol และ Propylene Glycol แต่ถือว่าอ่อนโยนกว่า การใช้ไกลคอลหลายชนิดเป็นเรื่องปกติในเครื่องสำอางเพื่อสร้างเนื้อสัมผัส ความสามารถในการละลาย และความรู้สึกบนผิวที่เฉพาะเจาะจง การเพิ่ม Butylene Glycol จะช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการเป็นตัวทำละลายและสารให้ความชุ่มชื้น การจะเพิ่มหรือลด หรือตัดออก ขึ้นอยู่กับเนื้อสัมผัสและความสามารถในการให้ความชุ่มชื้นที่คุณต้องการในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ไม่มีคำตอบเดียวที่ "ถูกต้อง" แต่ 5% เป็นระดับมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ

การละลายสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมันและการทำอิมัลชัน

คุณมีสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมันสองตัวคือ Ascorbyl Tetraisopalmitate และ Activated Resorcinol.

  • การละลาย Activated Resorcinol: Activated Resorcinol เป็นผงที่ละลายได้ในน้ำมัน ตามตัวอย่างสูตรที่ให้ไว้ในคำอธิบาย คุณควรละลายผง Activated Resorcinol ในส่วนประกอบที่เป็นน้ำมัน (เช่น LipidSoft) ก่อนนำไปผสมกับส่วนของน้ำ
  • การละลาย Ascorbyl Tetraisopalmitate: Ascorbyl Tetraisopalmitate เป็นวิตามินซีที่ละลายในน้ำมันในรูปของเหลว (น้ำมันใส) สามารถผสมเข้ากับส่วนผสมที่เป็นน้ำมันในสูตรของคุณได้โดยตรง
  • บทบาทของ LipidSoft และ Emulsifier: ความเข้าใจของคุณถูกต้อง LipidSoft (ซึ่งเป็นสารให้ความนุ่มลื่น/น้ำมัน) เหมาะสำหรับใช้ละลายผง Activated Resorcinol จากนั้นจำเป็นต้องมีอิมัลซิไฟเออร์เพื่อรวมส่วนของน้ำมันที่มีสารออกฤทธิ์ที่ละลายอยู่และ Ascorbyl Tetraisopalmitate เข้ากับส่วนของน้ำ เพื่อให้ได้เซรั่มหรือครีมที่คงตัว
  • สารที่ละลายในน้ำมันใน Glycols: ตามคำตอบของเจ้าหน้าที่ การที่สารที่ละลายในน้ำมันจะละลายในไกลคอลได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสารและไกลคอลนั้นๆ แม้ว่าบางตัว เช่น Oxyresveratrol จะละลายได้ในไกลคอล แต่คำอธิบายของ Activated Resorcinol ระบุไว้ว่าละลายได้ในน้ำมันเท่านั้น ส่วน Ascorbyl Tetraisopalmitate เป็นน้ำมันอยู่แล้ว ดังนั้น สำหรับสูตรของคุณ การละลาย Activated Resorcinol ในน้ำมันเป็นวิธีที่แนะนำตามข้อมูลผลิตภัณฑ์
  • น้ำมันละลายใน Glycols: โดยทั่วไป น้ำมันไม่ละลายในไกลคอล ไกลคอลเป็นตัวทำละลายที่มีขั้วมากกว่า ในขณะที่น้ำมันไม่มีขั้ว ความสามารถในการละลายขึ้นอยู่กับคู่ของสารนั้นๆ

อิมัลซิไฟเออร์ทางเลือกแทน Pro Polymer

หากคุณไม่ต้องการใช้ Pro Polymer คุณจะต้องใช้อิมัลซิไฟเออร์โดยเฉพาะเพื่อรวมส่วนของน้ำและน้ำมันเข้าด้วยกัน และอาจต้องใช้สารเพิ่มความหนืดแยกต่างหากหากต้องการเนื้อสัมผัสที่ข้น

  • Light Cream Maker: นี่เป็นทางเลือกที่เหมาะสมมาก คำอธิบายผลิตภัณฑ์ของ Light Cream Maker ระบุว่าเป็นอิมัลซิไฟเออร์และสารเพิ่มความหนืดชนิด Oil-in-Water ที่ทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ความร้อน สามารถทำอิมัลชันน้ำมันได้ถึง 20% และทนต่ออิเล็กโทรไลต์ได้บ้าง อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 0.5-3% โดยทั่วไปใช้ 1-1.5% เพื่อให้ได้เนื้อครีม นี่จะเป็นตัวเลือกที่ใช้งานง่ายสำหรับเซรั่มสูตรน้ำของคุณที่มีส่วนของน้ำมัน
  • Laureth-23: คุณกล่าวถึง Laureth-23 คำอธิบายยืนยันว่าเป็นอิมัลซิไฟเออร์ชนิดแข็ง (HLB 17-18 เหมาะสำหรับ O/W) ใช้ในอัตรา 1-5% (สูงสุด 6%) อย่างไรก็ตาม ต้องใช้ความร้อน 60-70°C เพื่อหลอมและผสมเข้ากับส่วนของน้ำมันก่อนนำไปทำอิมัลชันกับน้ำ ข้อกังวลของคุณเกี่ยวกับการอุดตันนั้นรับทราบ แต่คำอธิบายผลิตภัณฑ์ไม่ได้กล่าวถึงผลข้างเคียงนี้ หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนและต้องการกระบวนการที่ง่ายกว่า Light Cream Maker จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

การดูดซึม

สูตรของคุณมีส่วนผสมที่สามารถช่วยเพิ่มการดูดซึมและซึมเข้าสู่ผิวได้:

  • Pentylene Glycol: คำอธิบายของ Pentylene Glycol ระบุว่าสามารถทำหน้าที่เป็นสารช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิว (penetration enhancer) ที่ความเข้มข้น 2-4% การใช้ 10% (หรือแม้แต่ 3-5%) ก็จะช่วยในส่วนนี้
  • สารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมัน: Ascorbyl Tetraisopalmitate มีข้อสังเกตเฉพาะว่ามีการดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่า (superior percutaneous absorption) เนื่องจากมีลักษณะที่ละลายในน้ำมัน ทำให้สามารถซึมเข้าสู่ชั้นไขมันภายในผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ Activated Resorcinol ซึ่งละลายในน้ำมัน ก็จะได้รับประโยชน์จากส่วนของน้ำมันในการซึมเข้าสู่ผิวเช่นกัน
  • Glycols และ Glycerin: Butylene Glycol, Pentylene Glycol และ Glycerin เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว ซึ่งสามารถปรับปรุงสภาพโดยรวมของเกราะป้องกันผิวและสนับสนุนการดูดซึมของส่วนผสมอื่นๆ โดยอ้อม ส่วนของน้ำมัน แม้จะมีปริมาณน้อย ก็สามารถช่วยนำพาสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมันเข้าสู่ชั้นไขมันของผิวได้ การดูดซึมและเนื้อสัมผัสโดยรวมจะขึ้นอยู่กับสูตรสุดท้าย รวมถึงชนิดและปริมาณของอิมัลซิไฟเออร์และสารเพิ่มความหนืดที่ใช้

โดยรวมแล้ว การผสมผสานของสารให้ความชุ่มชื้น ตัวทำละลาย และสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมันในสูตรที่คุณเสนอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรวม Pentylene Glycol และส่วนของน้ำมันสำหรับสารไวท์เทนนิ่ง แสดงให้เห็นว่าสูตรควรจะดูดซึมได้ดีและช่วยให้สารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมันเข้าถึงชั้นไขมันของผิวได้

นี่คือสรุปประเด็นสำคัญสำหรับสูตรของคุณ:

  • Licorice Extract (Licochalcone A) ใช้สำหรับลดการระคายเคือง ไม่ใช่ไวท์เทนนิ่ง
  • Pentylene Glycol 10% ใช้ได้ แต่ 3-5% อาจให้ประโยชน์เพียงพอแล้ว
  • ละลายผง Activated Resorcinol ในน้ำมัน (เช่น LipidSoft) และผสมน้ำมัน Ascorbyl Tetraisopalmitate กับส่วนของน้ำมัน
  • ใช้อิมัลซิไฟเออร์ เช่น Light Cream Maker (ไม่ต้องใช้ความร้อน, 0.5-3%) หรือ Laureth-23 (ต้องใช้ความร้อน, 1-5%) เพื่อรวมส่วนของน้ำมันและน้ำเข้าด้วยกัน
  • Butylene Glycol 5% เป็นระดับมาตรฐานและช่วยเรื่องการละลายและความชุ่มชื้น
  • สูตรมีส่วนผสมที่ช่วยสนับสนุนการดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ดี

พิจารณาปรับปริมาณ Pentylene Glycol ตามเนื้อสัมผัสที่คุณต้องการ และเลือกอิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมกับกระบวนการผลิตและความชอบของคุณเกี่ยวกับการใช้ความร้อน

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Triethanolamine 99%
Triethanolamine 99%
เครื่องสำอาง
Laureth-23
Laureth-23
เครื่องสำอาง
Light Cream Maker™
Light Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Lactic Acid (AHA) 88%
Lactic Acid (AHA) 88%
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Pro Polymer™ (Gel Maker)
Pro Polymer™ (Gel Maker)
เครื่องสำอาง
Butylene Glycol
Butylene Glycol
เครื่องสำอาง
Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol)
Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol)
เครื่องสำอาง
Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
เครื่องสำอาง
Artocarpus Lakoocha Wood Extract (Oxyresveratrol 98%)
Artocarpus Lakoocha Wood Extract (Oxyresveratrol 98%)
เครื่องสำอาง
Pentylene Glycol (Low-Odor)
Pentylene Glycol (Low-Odor)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ B (Dibutyl adipate)
LipidSoft™ B (Dibutyl adipate)
เครื่องสำอาง