การวิเคราะห์สูตรกันแดด ค่า SPF และการปรับเนื้อสัมผัสสำหรับสเปรย์
คำถาม
ดิฉันได้สร้างสูตรผลิตภัณฑ์โดยมีส่วนผสมและสัดส่วนดังนี้ค่ะ:
[b]ส่วนผสม[/b]
SPF Protect Ultra™ II 15%
Polyethylene Wax (Soft) 2%
Safe-B3™ 5%
Allantoin 2%
สารสกัดนมผึ้ง 0.5%
Satin Cream Maker™ 1%
Mild Preserved Eco™ 1%
Coconut Fruit Powder 2%
RiceSorb™ 10%
น้ำ 61.5%
[b]วิธีผสม[/b]
- ผสม SPF Protect Ultra™ II + Polyethylene Wax (Soft) ใช้ความร้อน 70-80 องศา
- ผสม น้ำ + Safe-B3™ + Allantoin + สารสกัดนมผึ้ง + Satin Cream Maker™ ใช้ความร้อน 70-80 องศา
- นำส่วนผสมข้อ 1 เติมลงในส่วนผสมข้อ 2 ปั่นให้เข้ากัน
- พอเย็นเติม Mild Preserved Eco™ ปั่นให้เข้ากัน
- ใส่ Coconut Fruit Powder + RiceSorb™ ปั่นให้เข้ากัน
[b]คำถาม[/b]
- ส่วนผสม,สัดส่วนเหมาะสมไหม และวิธีการผสมถูกไหมคะ (ส่วนผสมข้อ 2 ทนความร้อนได้ทั้งหมดใช่ไหมคะ)
- ในสูตรนี้ Polyethylene Wax จะทำให้ค่า SPF เพิ่มขึ้นไหมคะ ถ้าเพิ่ม ค่า SPF คือเท่าไร
- หากเปลี่ยนเป็น Satin Cream Maker™ 1% เป็น Milk Lotion Maker™ 5% จะเปลี่ยนเนื้อเหลวขึ้น สำหรับบรรจุขวดสเปรย์ ได้ไหมคะ
ขอบคุณคะ
ตะวัน
คำตอบ
การวิเคราะห์สูตรและคำตอบ
จากการส่วนผสมและวิธีการที่คุณให้มา รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบ:
1. ความเหมาะสมของส่วนผสม สัดส่วน วิธีผสม และความทนความร้อนในขั้นตอนที่ 2
- ส่วนผสมและสัดส่วน: ส่วนผสมที่เลือกมีความเหมาะสมสำหรับสภาพผิวเป้าหมาย (ผิวมัน เป็นสิวง่าย) และประเภทผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ (เจลกันแดด) สัดส่วนของส่วนผสมออกฤทธิ์ เช่น Safe-B3™ (Niacinamide) 5% และ สารสกัดนมผึ้ง 0.5% อยู่ในช่วงอัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับคุณสมบัติที่ต้องการ (ควบคุมความมัน ลดสิว ปลอบประโลมผิว) SPF Protect Ultra™ II 15% คาดว่าจะให้ค่า SPF ที่สูง RiceSorb™ เป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับการดูดซับความมัน
- วิธีผสม: แนวทางการรวมส่วนของน้ำมันและน้ำที่ให้ความร้อนแยกกันแล้วนำมาผสมกันเป็นวิธีมาตรฐานในการทำอิมัลชัน อย่างไรก็ตาม มีข้อควรพิจารณาเฉพาะเกี่ยวกับความทนความร้อนและขั้นตอนการผสมที่แนะนำสำหรับส่วนผสมบางชนิดในขั้นตอนที่ 2 ของคุณ:
- Safe-B3™ (Niacinamide): ส่วนผสมนี้ละลายน้ำได้และทนความร้อน แต่ควรหลีกเลี่ยงการให้ความร้อนเป็นเวลานาน การให้ความร้อนถึง 70-80°C ในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างการผสมเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
- Allantoin: Allantoin ละลายได้ในน้ำ และการละลายจะเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิ (ละลายได้สูงสุด 4% ที่ 75°C) การใช้ Allantoin 2% และการให้ความร้อนส่วนของน้ำถึง 70-80°C เหมาะสมสำหรับการละลาย
- สารสกัดนมผึ้ง (Royal Jelly Extract 10-hydroxydecanoic acid): ข้อมูลของส่วนผสมนี้ระบุว่าควรละลายใน ส่วนของน้ำมัน ของสูตร และทนความร้อนได้ถึง 70°C การผสมในส่วนของน้ำและให้ความร้อนถึง 70-80°C ไม่ใช่วิธีที่แนะนำ และอาจส่งผลต่อความเสถียรหรือประสิทธิภาพ
- Satin Cream Maker™: เป็นสารอิมัลชันและสารเพิ่มความข้นที่ไม่ต้องใช้ความร้อน ออกแบบมาเพื่อผสมในส่วนของน้ำ โดยไม่ต้องใช้ความร้อน แม้ว่าความร้อนอาจไม่ทำลาย แต่ก็ไม่จำเป็นและขัดกับวิธีการใช้ที่แนะนำซึ่งมักจะเป็นกระบวนการเย็นหรือเติมในส่วนของน้ำก่อนนำไปรวมกับส่วนของน้ำมัน
- ความทนความร้อนในขั้นตอนที่ 2: เมื่อพิจารณาจากข้อมูลข้างต้น Safe-B3™ และ Allantoin ทนความร้อนในขั้นตอนที่ 2 ได้ แต่สารสกัดนมผึ้งไม่ควรอยู่ในขั้นตอนนี้หรือได้รับความร้อนเกิน 70°C และไม่จำเป็นต้องให้ความร้อน Satin Cream Maker™
คำแนะนำสำหรับวิธีผสม: เพื่อปรับปรุงสูตรและให้แน่ใจว่าส่วนผสมมีความเสถียร ควรพิจารณาปรับปรุงวิธีผสม สารสกัดนมผึ้งควรเติมในส่วนของน้ำมันและให้ความร้อนไม่เกิน 70°C Satin Cream Maker™ ควรเติมในส่วนของน้ำโดยไม่ต้องใช้ความร้อน หรือเติมก่อนนำส่วนของน้ำไปรวมกับส่วนของน้ำมัน หากมีการให้ความร้อนส่วนของน้ำสำหรับส่วนผสมอื่น ส่วนผสมเช่น Mild Preserved Eco™ และ RiceSorb™ ควรเติมในขั้นตอนการทำให้เย็นลงตามที่คุณได้ทำอย่างถูกต้องแล้ว
2. Polyethylene Wax และการเพิ่มค่า SPF
Polyethylene Wax มีคุณสมบัติช่วยปรับปรุงการกันน้ำและเพิ่มค่า SPF ของสูตรกันแดด โดยช่วยในการกระจายตัวและการสร้างฟิล์มของสารกันแดดบนผิว ข้อมูลของ Polyethylene Wax ยืนยันคุณสมบัตินี้
อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถระบุค่า SPF ที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน จากการใช้ Polyethylene Wax 2% ในสูตรของคุณได้โดยไม่ต้องทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ค่า SPF สุดท้ายของผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นผลลัพธ์ที่ซับซ้อนจากการทำงานร่วมกันของส่วนผสมทั้งหมด ความเข้มข้น วิธีการผลิต และวิธีการทา แม้ว่า Polyethylene Wax จะมีส่วนช่วยในประสิทธิภาพโดยรวมและอาจช่วยเพิ่มค่า SPF แต่ไม่มีการคำนวณมาตรฐานที่สามารถทำนายค่า SPF ที่เพิ่มขึ้นได้อย่างแม่นยำจากการเติมเพียงอย่างเดียว SPF Protect Ultra™ II 15% คาดว่าจะให้ค่า SPF 50+ และ PA++ และ Polyethylene Wax จะช่วยให้การป้องกันนี้มีประสิทธิภาพและคงอยู่ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการกันน้ำ
3. การเปลี่ยน Emulsifier เป็น Milk Lotion Maker™ เพื่อให้เนื้อเหลวขึ้นสำหรับบรรจุขวดสเปรย์
ได้ การเปลี่ยนจาก Satin Cream Maker™ 1% เป็น Milk Lotion Maker™ 5% เป็นแนวทางที่เป็นไปได้เพื่อให้ได้เนื้อผลิตภัณฑ์ที่เหลวขึ้น เหมาะสำหรับการบรรจุในขวดสเปรย์
- Satin Cream Maker™ ออกแบบมาเพื่อสร้างเนื้อครีม และใช้ในความเข้มข้นที่ต่ำกว่าเพื่อเพิ่มความข้น
- Milk Lotion Maker™ เป็นสารอิมัลชันชนิดน้ำที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อสร้างเนื้อโลชั่นเหลว (Milky Lotion) และสามารถรองรับปริมาณน้ำมันที่สูงขึ้นได้ (สูงสุด 40%) การใช้ที่ 5% อยู่ในช่วงอัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับการสร้างอิมัลชันที่เหลวขึ้น
ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ: ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น Milk Lotion Maker™ ต้องผสมใน ส่วนของน้ำมัน และให้ความร้อนประมาณ 70°C เพื่อให้ละลายและเกิดอิมัลชันที่เหมาะสม หากคุณทำการเปลี่ยนแปลงนี้ คุณต้องปรับวิธีผสมของคุณเพื่อรวม Milk Lotion Maker™ เข้ากับส่วนของน้ำมันที่ให้ความร้อน (พร้อมกับ SPF Protect Ultra™ II, Polyethylene Wax, และสารสกัดนมผึ้ง) ก่อนที่จะนำไปรวมกับส่วนของน้ำ
โดยสรุป การเปลี่ยนไปใช้ Milk Lotion Maker™ 5% ควรช่วยให้คุณได้เนื้อผลิตภัณฑ์ที่สามารถฉีดพ่นได้ แต่ต้องแน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามคำแนะนำการผสมที่ถูกต้องสำหรับ Milk Lotion Maker™ และปรับกระบวนการผลิตโดยรวมให้เหมาะสม
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Allantoin

Satin Cream Maker™

RiceSorb™ (Rice Starch ข้าวญี่ปุ่น ซับความมัน)

สารสกัดนมผึ้ง 10-hydroxydecanoic acid (98% Purity)

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

Milk Lotion Maker™

SPF Protect Ultra™ II

Polyethylene Wax (Hard, Melting Point 88C)
