การวิเคราะห์สูตรครีมสำหรับผิวแห้งมาก พร้อมการปกป้องแสงแดด

การวิเคราะห์ส่วนผสมในครีมสำหรับผิวแห้งมาก

ครีมสูตรนี้มีส่วนผสมที่หลากหลายซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากแสงแดด และให้เนื้อสัมผัสที่น่าใช้

ส่วนผสมหลักที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น:

• Urea (ยูเรีย): เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นส่วนประกอบของ Natural Moisturizing Factor (NMF) ในผิวหนัง ในความเข้มข้นที่ใช้ในเครื่องสำอางทั่วไป (โดยทั่วไป 3-10% สำหรับให้ความชุ่มชื้น) ยูเรียช่วยให้ผิวเก็บน้ำไว้ได้ดีขึ้นและสามารถปรับปรุงเกราะป้องกันผิวได้ ในความเข้มข้นที่สูงขึ้น (มากกว่า 10%) จะมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนด้วย สำหรับผิวที่แห้งมาก ยูเรียโดยทั่วไปมีประโยชน์และช่วยบรรเทาความแห้งกร้านและอาการลอกเป็นขุย ข้อกังวลว่ายูเรียจะ "กัด" หรือระคายเคืองผิวส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นเมื่อใช้ในความเข้มข้นสูงเพื่อการผลัดเซลล์ผิว หรือในผิวที่เกราะป้องกันผิวไม่แข็งแรง ในครีมบำรุงผิวสำหรับกลางวัน ความเข้มข้นน่าจะอยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับการให้ความชุ่มชื้น
• Sodium Lactate (โซเดียมแลคเตท): เป็นส่วนประกอบอีกชนิดหนึ่งของ NMF ในผิวหนัง โซเดียมแลคเตทเป็นสาร Humectant ที่ยอดเยี่ยมซึ่งช่วยให้ผิวเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ ช่วยเสริมการทำงานของยูเรียและ Sodium PCA (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Natural Moisturizing Amino Acids) ได้
• Sodium Hyaluronate (โซเดียมไฮยาลูโรเนต): เป็นรูปแบบหนึ่งของ Hyaluronic Acid สารนี้เป็น Humectant ที่ทรงพลังซึ่งช่วยดึงความชื้นเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและดูอิ่มฟู
• Butyrospermum Parkii Butter (เชียบัตเตอร์) และ Prunus Amygdalus Dulcis Oil (น้ำมันสวีทอัลมอนด์): เป็น Emollients และ Occlusives ช่วยให้ผิวนุ่มเนียนและสร้างเกราะป้องกันบนผิวเพื่อลดการสูญเสียน้ำ ซึ่งสำคัญมากสำหรับผิวที่แห้งมาก
• Dimethicone (ไดเมทิโคน) และ Polymethylsilsesquioxane (โพลีเมทิลซิลเซสควิออกเซน): ซิลิโคนเหล่านี้ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นบนผิวและช่วยสร้างเกราะป้องกันบนผิว ลดการสูญเสียความชื้น Polymethylsilsesquioxane ยังช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสและให้ผลแบบ Soft-focus
• Arginine HCL (อาร์จินีน HCL) และ Natural Moisturizing Amino Acids (กรดอะมิโนให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ): กรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบของ NMF ในผิวหนังเช่นกัน และช่วยให้ความชุ่มชื้นและสนับสนุนเกราะป้องกันผิว
• Hydrogenated Coco-Glycerides (ไฮโดรจิเนตเต็ด โคโค-กลีเซอไรด์): เป็น Emollient ที่ได้จากน้ำมันมะพร้าวและกลีเซอรีน ช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นและทำให้ผิวนุ่ม
• Butylene Glycol Dicaprylate/Dicaprate (บิวทิลีน ไกลคอล ไดคาปริเลต/ไดคาเพรต): เป็น Emollient Ester ที่ให้ความรู้สึกนุ่มลื่น

ส่วนผสมสารกันแดด:

• Butyl Methoxydibenzoylmethane (Avobenzone), Octocrylene (ออกโตไครลีน), Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine (BEMT): เป็นสารกันแดดชนิดเคมีที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV Avobenzone ส่วนใหญ่ปกป้องจากรังสี UVA ในขณะที่ Octocrylene และ BEMT ให้การปกป้องที่กว้างขึ้นรวมถึง UVB และ UVA

ส่วนผสมอื่นๆ:

• Cetearyl Alcohol (เซเทียริล แอลกอฮอล์), Glyceryl Stearate SE (ไกลเซอริล สเตียเรต SE), Sodium Cetearyl Sulfate (โซเดียม เซเทียริล ซัลเฟต), Sodium Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer (โซเดียม อะคริเลตส์/C10-30 อัลคิล อะคริเลต ครอสโพลีเมอร์), Polyglyceryl-3 Methylglucose Distearate (โพลีกลีเซอริล-3 เมทิลกลูโคส ไดสเตียเรต): ส่วนใหญ่น่าจะเป็นสารอิมัลซิไฟเออร์และสารเพิ่มความข้นที่ช่วยสร้างเนื้อครีมและทำให้น้ำกับน้ำมันเข้ากันได้ดี
• 1,2-Hexanediol (1,2-เฮกเซนไดออล), Ethylhexylglycerin (เอทิลเฮกซิลกลีเซอรีน), Phenoxyethanol (ฟีน็อกซีเอทานอล): เป็นสารกันเสียหรือสารเสริมประสิทธิภาพสารกันเสียที่ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ 1,2-Hexanediol ยังมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นและช่วยในการนำพาสารเข้าสู่ผิว
• BHT (บีเอชที): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ใช้เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของน้ำมันและส่วนผสมอื่นๆ ที่ไวต่อการเกิดออกซิเดชัน
• Trisodium EDTA (ไตรโซเดียม อีดีทีเอ): เป็นสารคีเลตที่ช่วยเพิ่มความเสถียรและอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์โดยการจับกับไอออนของโลหะ
• Lactic Acid (กรดแลคติก): เป็น Alpha Hydroxy Acid (AHA) ในความเข้มข้นต่ำ กรดแลคติกทำหน้าที่เป็น Humectant ในความเข้มข้นสูงขึ้น (โดยทั่วไปมากกว่า 5% และขึ้นอยู่กับค่า pH) จะช่วยในการผลัดเซลล์ผิว การมีอยู่ของกรดแลคติกในสูตรนี้อาจมีส่วนช่วยทั้งในการให้ความชุ่มชื้นและการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงสภาพผิวที่แห้งและหมองคล้ำได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับผิวที่แห้งมากและอาจมีเกราะป้องกันผิวที่ไม่สมบูรณ์ ผลของการผลัดเซลล์ผิวของกรดแลคติก (ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและค่า pH ของผลิตภัณฑ์) อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
• Chondrus Crispus (คอนดรัส คริสปัส): น่าจะใช้เป็นสารเพิ่มความข้นหรือสารสร้างฟิล์ม และมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นด้วย
• Glycine Soja Germ Extract (สารสกัดจมูกถั่วเหลือง): มีไอโซฟลาโวน เช่น Genistein ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและอาจช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิว

เกี่ยวกับยูเรียและผิวแห้ง:

สำหรับผิวที่แห้งมาก ยูเรียโดยทั่วไปเป็นส่วนผสมที่มีประโยชน์ในความเข้มข้นที่เหมาะสม (โดยทั่วไป 5-10% สำหรับการให้ความชุ่มชื้น) ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและสามารถปรับปรุงการทำงานของเกราะป้องกันผิวได้ ข้อกังวลว่ามันจะ "กัด" หรือระคายเคืองผิวจะเกี่ยวข้องมากกว่าเมื่อใช้ในความเข้มข้นสูงเพื่อการผลัดเซลล์ผิว หรือหากเกราะป้องกันผิวเสียหายอย่างรุนแรง สูตรนี้มีส่วนผสมอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและเป็น Emollients ซึ่งควรช่วยลดโอกาสการเกิดความแห้งกร้านหรือการระคายเคือง ทำให้เหมาะสำหรับผิวที่แห้งมาก อย่างไรก็ตาม ความไวของผิวแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป ดังนั้นจึงควรทดสอบผลิตภัณฑ์บนพื้นที่เล็กๆ ก่อนใช้ทั่วใบหน้าหากคุณมีข้อกังวล

เกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์:

ไม่สามารถระบุเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอนของส่วนผสมแต่ละชนิดในสูตรครีมนี้ได้ สูตรเครื่องสำอางเป็นข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ และเปอร์เซ็นต์ที่แม่นยำถูกกำหนดโดยผู้ผลิตเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและความเสถียรของผลิตภัณฑ์ตามที่ต้องการ คำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับส่วนผสมแต่ละชนิดมักจะระบุช่วงอัตราการใช้งานทั่วไป แต่เปอร์เซ็นต์จริงในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปอาจแตกต่างกันไป

โดยสรุป ครีมนี้ดูเหมือนจะถูกพัฒนามาอย่างดีสำหรับผิวที่แห้งมาก โดยผสมผสานสาร Humectants, Emollients และ Occlusives หลายชนิดเข้าด้วยกันเพื่อให้ความชุ่มชื้นและสนับสนุนเกราะป้องกันผิว พร้อมทั้งมีการป้องกันแสงแดด การมียูเรียในความเข้มข้นที่เหมาะสมสำหรับการให้ความชุ่มชื้นเป็นประโยชน์ต่อผิวแห้ง