การวิเคราะห์และปัญหาการขึ้นสูตรครีมบำรุงผิวกลางวัน
คำถาม
ดิฉันได้พัฒนาสูตรครีม/เซรั่มบำรุงผิวสำหรับกลางวัน 2 สูตร และต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการช่วยให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ผิวชุ่มน้ำ ฟื้นฟูรอยดำที่เกิดจากสิว และลดการอักเสบของสิว กรุณาตรวจสอบสูตรดังนี้:
สูตรที่ 1:
- Ethyl Ascorbic acid 3%
- Vitamin C (Ultra fine) 15%
- Hyaluronic Acid 0.3%
- WaterLock 0.3%
- Hi-Quercetin® 3%
- AcneBee 5%
- ส่วนที่เหลือน้ำ
สูตรที่ 2:
- Active Resveratrol™
- Vitamin C (Ultra fine)
- Lactic Acid
- Azelaic Acid
- AcneBee
- ส่วนที่เหลือน้ำ
มีปัญหาในการขึ้นสูตรอย่างไรบ้าง และส่วนผสมเหล่านี้มีประสิทธิภาพตามที่ต้องการหรือไม่?
คำตอบ
การวิเคราะห์สูตรครีมบำรุงผิวกลางวันของคุณ
ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรครีมบำรุงผิวกลางวัน 2 สูตร และสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการช่วยให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ผิวชุ่มน้ำ ฟื้นฟูรอยดำที่เกิดจากสิว และลดการอักเสบของสิว
จากการตรวจสอบส่วนผสมและหลักการการทำสูตร มีข้อแนะนำดังนี้ค่ะ
การวิเคราะห์สูตรที่ 1
สูตรนี้มีส่วนผสมที่ดีหลายชนิดที่ช่วยเรื่องที่คุณต้องการ:
- Ethyl Ascorbic Acid: วิตามินซีอนุพันธ์ที่มีความเสถียร ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดรอยดำ
- Hyaluronic Acid และ WaterLock: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและเรียบเนียน
- Hi-Quercetin®: มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูผิว ลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับสิว และอาจช่วยป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น
- AcneBee: (คาดว่าเป็นสารสกัดที่ช่วยเรื่องสิว) จะช่วยจัดการปัญหาสิวและการอักเสบ
อย่างไรก็ตาม สูตรนี้ยังมีข้อควรปรับปรุงที่สำคัญ:
- ไม่มีสารสร้างเนื้อ/สารประสาน: สูตรส่วนใหญ่เป็นน้ำและสารออกฤทธิ์ หากไม่มีสารสร้างเนื้อหรือสารประสาน สูตรจะไม่สามารถขึ้นเนื้อครีมที่คงตัวได้ จำเป็นต้องเพิ่มสารสร้างเนื้อ/สารประสาน เช่น Pro Polymer หรือ Light Cream Maker เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการและช่วยให้ส่วนผสมเข้ากัน
- วิตามินซีที่ไม่เหมาะสม: Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra fine) ไม่เสถียรอย่างยิ่งในสูตรที่เป็นน้ำและจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว แนะนำให้ใช้ในสูตรที่ไม่มีน้ำเท่านั้น เนื่องจากสูตรของคุณมี Ethyl Ascorbic Acid ซึ่งละลายน้ำได้และมีความเสถียรอยู่แล้ว จึงควรตัด L-Ascorbic Acid (Ultra fine) ออกไป
- Hi-Quercetin® สำหรับกลางวัน: แม้จะมีประโยชน์ แต่ Hi-Quercetin® มีสีเหลืองเข้ม ซึ่งอาจทำให้เนื้อสูตรมีสีเข้มและทิ้งสีเหลืองชั่วคราวบนผิวหลังทา จึงเหมาะกับการใช้ในสูตรกลางคืนมากกว่า
- ไม่มีสารกันเสีย: สูตรที่เป็นน้ำจำเป็นต้องมีสารกันเสียเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ การเพิ่มสารกันเสียแบบ Broad-spectrum เช่น Phenoxyethanol SA เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความปลอดภัยและอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์
หากปรับปรุงสูตรให้ถูกต้อง โดยเพิ่มสารสร้างเนื้อ/สารประสานและสารกันเสีย และใช้วิตามินซีชนิดที่เสถียร (Ethyl Ascorbic Acid) สูตรนี้จะช่วยในเรื่อง:
- สีผิวสม่ำเสมอและลดรอยดำ: Ethyl Ascorbic Acid ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดรอยสิว
- ผิวชุ่มน้ำ: Hyaluronic Acid และ WaterLock ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
- ลดการอักเสบ: Hi-Quercetin® และ AcneBee มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
- ผิวเรียบเนียน: ความชุ่มชื้นและการลดการอักเสบมีส่วนช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
การวิเคราะห์สูตรที่ 2
สูตรนี้ก็มีส่วนผสมที่น่าสนใจสำหรับเป้าหมายของคุณ:
- Active Resveratrol™: มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านริ้วรอย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน และต้านการอักเสบ
- Vitamin C (Ultra fine): (เช่นเดียวกับสูตรที่ 1) ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและกระตุ้นคอลลาเจน
- Lactic Acid: เป็น AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนและสีผิวสม่ำเสมอขึ้น
- Azelaic Acid: ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยดำ ควบคุมความมัน และลดปัญหาสิวและการอักเสบ
- AcneBee: (คาดว่าเป็นสารสกัดที่ช่วยเรื่องสิว) ช่วยจัดการปัญหาสิวและการอักเสบ
เช่นเดียวกับสูตรที่ 1 สูตรนี้ก็ยังมีข้อควรปรับปรุง:
- ไม่มีสารสร้างเนื้อ/สารประสาน: เหมือนกับสูตรแรก สูตรนี้เป็นเบสที่เป็นน้ำที่ขาดสารสร้างเนื้อ/สารประสานเพื่อสร้างเนื้อครีมและทำให้สูตรคงตัว จำเป็นต้องเพิ่มสารสร้างเนื้อ/สารประสาน (เช่น Pro Polymer หรือ Light Cream Maker) และสารกันเสีย
- วิตามินซีที่ไม่เหมาะสม: อีกครั้งที่ L-Ascorbic Acid (Ultra fine) ไม่เสถียรในน้ำ ควรเปลี่ยนไปใช้วิตามินซีอนุพันธ์ที่ละลายน้ำได้และมีความเสถียรแทน หากต้องการรวมไว้ในสูตร (เช่น Ethyl Ascorbic Acid หรือ Ascorbyl Glucoside)
- ความเข้ากันได้กับ Electrolyte: Lactic Acid และ Azelaic Acid เป็น Electrolyte ซึ่งอาจส่งผลต่อความหนืดของสารสร้างเนื้อบางชนิด ควรเลือกสารสร้างเนื้อ/สารประสานที่เข้ากันได้กับ Electrolyte (เช่น Pro Polymer หรือ Light Cream Maker สามารถทน Electrolyte ได้ แต่หากใช้ในปริมาณมาก อาจต้องปรับสัดส่วนหรือวิธีการผสม)
- ความไวต่อแสง: Active Resveratrol™ ไวต่อแสง UV ควรบรรจุผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในภาชนะทึบแสงเพื่อรักษาประสิทธิภาพ
- ไม่มีสารกันเสีย: จำเป็นต้องมีสารกันเสีย เช่น Phenoxyethanol SA เพื่อความปลอดภัยและความคงตัวของสูตร
หากปรับปรุงสูตรให้ถูกต้อง โดยเพิ่มสารสร้างเนื้อ/สารประสานที่เข้ากับ Electrolyte ได้ดี และเพิ่มสารกันเสีย รวมถึงใช้วิตามินซีอนุพันธ์ที่เสถียร สูตรนี้มีศักยภาพที่จะช่วยในเรื่อง:
- ผิวเรียบเนียนและสีผิวสม่ำเสมอ: Lactic Acid ช่วยผลัดผิว ในขณะที่ Resveratrol และ Azelaic Acid ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดรอยดำ/รอยสิว
- ลดรอยดำจากสิวและการอักเสบ: Azelaic Acid และ AcneBee ช่วยจัดการปัญหาสิวและรอยดำโดยตรง Resveratrol ก็มีคุณสมบัติต้านการอักเสบด้วย
- ผิวชุ่มน้ำ: แม้จะไม่ได้เน้นเรื่องความชุ่มชื้นเท่าสูตรที่ 1 แต่เบสของสูตรและส่วนผสมอื่นๆ ก็ช่วยให้ความชุ่มชื้นได้
สรุป
ทั้งสองสูตรมีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวที่คุณต้องการได้ ทั้งเรื่องความเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ รอยสิว และการอักเสบ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองสูตรจำเป็นต้องมีการปรับปรุงที่สำคัญเพื่อให้เป็นเนื้อครีมบำรุงกลางวันที่ใช้งานได้จริงและมีความคงตัว
การปรับปรุงที่จำเป็นสำหรับทั้งสองสูตร:
- เพิ่มสารสร้างเนื้อ/สารประสานที่เหมาะสม (เช่น Pro Polymer, Light Cream Maker)
- เพิ่มสารกันเสียแบบ Broad-spectrum (เช่น Phenoxyethanol SA)
- เปลี่ยน Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra fine) เป็นวิตามินซีอนุพันธ์ที่ละลายน้ำได้และมีความเสถียร (เช่น Ethyl Ascorbic Acid หรือ Ascorbyl Glucoside)
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:
- สำหรับสูตรที่ 1 ควรพิจารณาว่าสีของ Hi-Quercetin® เหมาะกับการใช้กลางวันของคุณหรือไม่ หรือจะเก็บไว้ใช้ในสูตรกลางคืนแทน
- สำหรับสูตรที่ 2 ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารสร้างเนื้อ/สารประสานที่เลือกเข้ากันได้กับ Electrolyte (Lactic Acid, Azelaic Acid) และควรบรรจุผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในภาชนะทึบแสงเนื่องจาก Resveratrol ไวต่อแสง
การปรับปรุงเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้ครีมบำรุงกลางวันที่เสถียรและมีประสิทธิภาพตามที่คุณต้องการค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Active Resveratrol™

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Light Cream Maker™

Lactic Acid (AHA) 88%

Azelaic Acid (Liquid Azelaic™)

Pro Polymer™ (Gel Maker)

WaterLock™ (Polyquaternium-51)

Double Hyaluron Liquid
