การหาค่า SPF/PA และการพัฒนาสูตรกันแดดเพื่อให้ได้ค่าสูง

ถามโดย: warisarap08 เมื่อ: March 10, 2025 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

สูตรครีมกันแดดที่ใช้ Zinc Oxide, Titanium Dioxide, และ BEMT ตามสัดส่วนที่ให้มา มีค่า SPF และ PA ประมาณเท่าใด และต้องปรับปรุงสูตรอย่างไรเพื่อให้ได้ค่า SPF 50+ PA++++?

คำตอบ

การทำความเข้าใจค่า SPF และ PA ในสูตรครีมกันแดดของคุณ

การกำหนดค่า SPF (Sun Protection Factor) และ PA (Protection Factor of UVA) ที่แน่นอนของสูตรครีมกันแดดของคุณนั้น ต้องทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการ กับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ไม่สามารถคำนวณค่าเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำจากรายการส่วนผสมและเปอร์เซ็นต์เพียงอย่างเดียว

เหตุผลคือ:

  • ชนิดและคุณภาพของสารกันแดด: รูปแบบเฉพาะ ขนาดอนุภาค (โดยเฉพาะสำหรับสารกันแดดแบบกายภาพ เช่น Zinc Oxide และ Titanium Dioxide) และการเคลือบผิวของสารกันแดดมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide แต่ละชนิดได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการป้องกันรังสียูวี หรือเพื่อความสวยงาม หรือเพื่อการกระจายตัวที่ดี
  • การกระจายตัว: การที่สารกันแดดกระจายตัวได้ดีทั่วทั้งสูตรมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากสารกันแดดจับตัวเป็นก้อน จะไม่สามารถสร้างชั้นป้องกันที่สม่ำเสมอบนผิวได้ ทำให้ประสิทธิภาพลดลง
  • เบสของสูตร: ส่วนผสมอื่นๆ ในสูตรของคุณ (เช่น น้ำมัน อิมัลซิไฟเออร์ สารเพิ่มความหนืด สารสร้างฟิล์ม) มีผลต่อการเกลี่ย การซึมซับ และการสร้างฟิล์มบนผิว ความสม่ำเสมอและความคงทนของฟิล์มนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการได้ค่า SPF/PA ตามที่ต้องการ
  • การทำงานร่วมกัน: การผสมผสานสารกันแดดบางชนิดอาจให้ผลเสริมฤทธิ์กันได้ แต่สิ่งนี้ก็ต้องได้รับการยืนยันผ่านการทดสอบเช่นกัน

สูตรของคุณมีสารกันแดดหลักดังนี้:

  • Zinc (น่าจะเป็น Zinc Oxide): ที่ความเข้มข้น 20% ถือเป็นปริมาณที่สูง Zinc Oxide เป็นสารกันแดดแบบ Broad-spectrum ที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ประสิทธิภาพของมันขึ้นอยู่กับขนาดอนุภาคและคุณภาพการกระจายตัวอย่างมาก บางชนิด เช่น Zinc Oxide 40nm Dispersion (Water Base) ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้กระจายตัวได้ง่ายในสูตรที่มีน้ำเป็นเบส และให้การป้องกัน UVA/UVB ที่มีประสิทธิภาพ สารชนิดอื่นๆ เช่น Micronized Zinc Oxide แบบผง อาจไม่เหมาะสำหรับครีมกันแดดประสิทธิภาพสูงหากกระจายตัวได้ไม่ดี
  • Titanium (น่าจะเป็น Titanium Dioxide): ที่ความเข้มข้น 0.25% ปริมาณนี้ดูค่อนข้างน้อยสำหรับการมีส่วนช่วยในการป้องกันรังสียูวีอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดที่ใช้ Titanium Dioxide ส่วนใหญ่ป้องกันรังสี UVB โดยมีการป้องกัน UVA บ้างขึ้นอยู่กับขนาดอนุภาค ชนิดเช่น Titanium Dioxide Transparent (15nm, Water-Dispersion) ถูกออกแบบมาสำหรับครีมกันแดดที่มีน้ำเป็นเบสและต้องการความโปร่งใส
  • BEMT (Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine): ที่ความเข้มข้น 10% ถือเป็นปริมาณที่สูงของสารกันแดดเคมีที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการป้องกัน UVA ที่ดีเยี่ยมและมีความคงตัวต่อแสง

วิธีการตั้งเป้าหมาย SPF 50+ PA++++

เพื่อให้ได้ SPF 50+ PA++++ คุณต้องมั่นใจว่าสูตรของคุณให้การป้องกันรังสี UV ในวงกว้างและสูงมาก แม้ว่าสูตรปัจจุบันของคุณจะมีพื้นฐานที่ดีด้วยความเข้มข้นสูงของ Zinc Oxide และ BEMT แต่การจะไปถึงระดับสูงนี้ได้ต้องอาศัยการปรับปรุงอย่างละเอียดและการทดสอบ:

  1. เลือกชนิดสารกันแดดที่เหมาะสม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ที่คุณใช้เป็นเกรดเครื่องสำอางที่เหมาะสำหรับการป้องกันรังสียูวี และมีขนาดอนุภาคและการเคลือบผิวที่เหมาะสมกับประเภทสูตรที่คุณต้องการ (เช่น ใช้แบบ Dispersion เพื่อให้ผสมง่ายขึ้น)
  2. ปรับความเข้มข้น: แม้ว่าความเข้มข้นปัจจุบันของคุณจะสูงอยู่แล้ว แต่อาจต้องมีการปรับเล็กน้อย หรือต้องคำนึงถึงเปอร์เซ็นต์ของสารกันแดด ที่ออกฤทธิ์จริง ในรูปแบบ Dispersion
  3. ปรับปรุงการกระจายตัว: เน้นกระบวนการผสมเพื่อให้แน่ใจว่าสารกันแดดแบบกายภาพกระจายตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบและไม่จับตัวเป็นก้อน การเลือกใช้อิมัลซิไฟเออร์และสารปรับความหนืดมีความสำคัญอย่างยิ่งในจุดนี้
  4. เสริมการสร้างฟิล์ม: ส่วนผสมที่ช่วยให้ครีมกันแดดสร้างฟิล์มที่สม่ำเสมอ คงทน และอาจกันน้ำได้บนผิว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมาก
  5. การทดสอบในห้องปฏิบัติการ: ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการผลิตสูตรที่คุณปรับปรุงแล้ว และส่งไปทดสอบ SPF และ PA ในห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง (แบบ in vivo หรือ in vitro ที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว) นี่เป็นวิธีเดียวที่จะยืนยันระดับการป้องกันที่แท้จริงได้ คุณอาจต้องปรับสูตรตามผลการทดสอบและทดสอบซ้ำจนกว่าจะได้ค่า SPF 50+ PA++++ ตามที่ต้องการ

สรุปคือ แม้ว่าสูตรของคุณจะมีสารกันแดดที่มีประสิทธิภาพในปริมาณที่มาก แต่ค่า SPF และ PA ที่แท้จริงจะทราบได้จากการทดสอบเท่านั้น หากต้องการให้ได้ SPF 50+ PA++++ ให้เน้นการปรับปรุงชนิดและการกระจายตัวของสารกันแดด ปรับปรุงเบสของสูตรโดยรวมเพื่อให้สร้างฟิล์มได้ดีที่สุด และทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการอย่างเข้มงวด

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Zinc Oxide (Micronized)
Zinc Oxide (Micronized)
เครื่องสำอาง
Titanium Dioxide Nanosil
Titanium Dioxide Nanosil
เครื่องสำอาง
Titanium Dioxide Transparent (15nm, Water-Dispersion)
Titanium Dioxide Transparent (15nm, Water-Dispersion)
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide 40nm Dispersion (Water Base)
Zinc Oxide 40nm Dispersion (Water Base)
เครื่องสำอาง