การเตรียมเซรั่มวิตามินซี วิตามินอี และกรดเฟรูลิก

สำหรับแผนการของคุณในการสร้างเซรั่มที่คล้ายกับสูตรวิตามินซี วิตามินอี และกรดเฟรูลิกของ Skinceutical ส่วนผสมที่คุณเสนอมานั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อย่างไรก็ตาม มีข้อควรพิจารณาที่สำคัญบางประการสำหรับการผสมสูตรให้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับความสามารถในการละลายของกรดเฟรูลิก

ความเป็นไปได้ของสูตรที่คุณเสนอ

สูตรของคุณประกอบด้วย วิตามินซี (L-Ascorbic Acid Ultra-Fine), วิตามินอี (dl-alpha tocopherol), Pure-Ferulic Acid™, น้ำกลั่นบริสุทธิ์, กลีเซอรีน, และ สารสกัดว่านหางจระเข้ แม้ว่าส่วนผสมเหล่านี้จะมีประโยชน์ แต่ Pure-Ferulic Acid™ ชนิดผงไม่ละลายในน้ำ สูตรที่คุณเสนอส่วนใหญ่เป็นสูตรที่ใช้น้ำเป็นเบส (น้ำกลั่นบริสุทธิ์, กลีเซอรีน, สารสกัดว่านหางจระเข้) ซึ่งหมายความว่า Pure-Ferulic Acid™ จะไม่ละลายอย่างถูกต้องในระบบนี้

นอกจากนี้ วิตามินซี (L-Ascorbic Acid) ต้องการค่า pH ที่ต่ำ (โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 3.5 ถึง 4.0) เพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพ คุณจะต้องปรับค่า pH ของสูตรสุดท้ายให้อยู่ในช่วงนี้ วิตามินอี (dl-alpha tocopherol) ละลายในน้ำมัน ดังนั้นคุณจะต้องหาวิธีนำไปผสมในเซรั่มที่ใช้น้ำเป็นเบส อาจใช้ตัวทำละลายที่เหมาะสมในปริมาณเล็กน้อยหรือสารอิมัลซิไฟเออร์

การละลายกรดเฟรูลิก

คุณถามว่า Propylene Glycol สามารถละลาย Pure-Ferulic Acid™ ได้หรือไม่ จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ Pure-Ferulic Acid™ ละลายได้ในตัวทำละลายเช่น Ethoxydiglycol หรือเอทานอล แต่ไม่ละลายในน้ำ Propylene Glycol เป็นตัวทำละลายและสารให้ความชุ่มชื้นที่ละลายในน้ำได้ แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นตัวทำละลายสำหรับ Pure-Ferulic Acid™ ชนิดผง

สำหรับเซรั่มที่ใช้น้ำเป็นเบสเช่นที่คุณกำลังวางแผน วิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากกว่าในการผสมกรดเฟรูลิกคือการใช้ Micromul™ Ferulic Acid นี่คือกรดเฟรูลิกในรูปแบบไมโครอิมัลชันที่ออกแบบมาให้ละลายน้ำได้โดยตรง ทำให้กระบวนการผสมสูตรทำได้ง่ายขึ้น อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ Micromul™ Ferulic Acid โดยทั่วไปคือ 1-5% โดยแนะนำที่ 2-3% เพื่อประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอยและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

คำแนะนำ

เพื่อให้เซรั่มของคุณเป็นไปได้และผสมได้ง่ายขึ้น ควรพิจารณาเปลี่ยนจาก Pure-Ferulic Acid™ เป็น Micromul™ Ferulic Acid นอกจากนี้ คุณจะต้องปรับค่า pH ของเซรั่มสุดท้ายอย่างระมัดระวังให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับ วิตามินซี (L-Ascorbic Acid) (pH 3.5-4.0) และหาวิธีนำ วิตามินอี (dl-alpha tocopherol) ซึ่งละลายในน้ำมันไปผสมในเบสน้ำของคุณ

การที่คุณใส่ กลีเซอรีน และ สารสกัดว่านหางจระเข้ นั้นดีสำหรับการเพิ่มความชุ่มชื้นและคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิวให้กับเซรั่ม