การเพิ่มสารออกฤทธิ์ชนิดผงและของเหลวลงในเบสเซรั่ม

ถามโดย: adtrues เมื่อ: July 11, 2012 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการเพิ่มส่วนผสมเหล่านี้ลงในเบสเซรั่ม เช่น KA White Night Serum:

  • Alpha Arbutin
  • Vitamin C (Magnesium Ascorbyl Phosphate)
  • Glucosamine (N-acetyl-D)
  • Licorice Extract

สำหรับส่วนผสมที่เป็นผง (Alpha Arbutin, Vitamin C (Magnesium Ascorbyl Phosphate), Glucosamine (N-acetyl-D)) เจ้าหน้าที่แนะนำให้นำมาละลายในน้ำกลั่นก่อน หมายถึงนำผงทั้งหมดมาผสมรวมกันก่อนแล้วค่อยๆ เติมน้ำกลั่นเพื่อทำละลาย หรือว่าละลายแต่ละตัวในน้ำกลั่นแล้วค่อยนำไปผสมในเบสคะ

แล้วถ้าใช้ Licorice Extract ที่เป็นของเหลวเป็นตัวทำละลายแทนน้ำกลั่นได้หรือไม่คะ จะได้ไม่ต้องไปเจือจางเบสด้วย

ถามเพิ่มเผื่อไว้นิดหนึ่งด้วยค่ะ ว่าถ้าไม่ใช้น้ำกลั่นผสม ใช้น้ำขวดที่มีขายตามท้องตลาดได้หรือเปล่า เพราะไม่รู้จะไปหาซื้อน้ำกลั่นจากไหน เข้าใจว่าน้ำกลั่นสำหรับรถยนต์ก็คงใช้ไม่ได้แน่ๆ

คำตอบ

สูตรที่ 1: เซรั่มเพื่อผิวขาว

ส่วนผสมที่จะเพิ่ม:

  • Alpha Arbutin
  • Vitamin C (Magnesium Ascorbyl Phosphate)
  • Glucosamine (N-acetyl-D)
  • Licorice Extract
  • ข้อควรทราบ:* เจ้าหน้าที่แนะนำว่าไม่ควรเพิ่ม Vitamin B3 (Niacinamide) อีก เนื่องจากมีอยู่ในเบส KA White Night Serum อยู่แล้ว การเพิ่มอีกอาจไม่จำเป็นและอาจก่อให้เกิดปัญหาได้

สามารถผสมส่วนผสมเหล่านี้ลงในเบสได้หรือไม่?
ได้ โดยทั่วไปแล้ว Alpha Arbutin, Magnesium Ascorbyl Phosphate, N-acetyl-D Glucosamine และ Licorice Extract สามารถนำมาผสมลงในเบสเซรั่มได้ หากค่า pH สุดท้ายเหมาะสม

วิธีการผสม ลำดับ และข้อควรระวัง:

  1. เตรียมส่วนผสมที่เป็นผง: Alpha Arbutin, Magnesium Ascorbyl Phosphate และ N-acetyl-D Glucosamine เป็นผง ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ จะต้องนำไปละลายในน้ำกลั่น ก่อน นำไปผสมกับเบส
    • ใช้น้ำกลั่นในปริมาณน้อยที่สุด เท่าที่พอจะละลายผงทั้งหมดได้ การใช้น้ำมากเกินไปจะทำให้เบสเจือจาง
    • ค่อยๆ เติมผงทีละชนิดลงในน้ำกลั่น ใส่ผงชนิดแรก คนจนละลายหมด จากนั้นใส่ผงชนิดที่สอง คนจนละลายหมด ทำเช่นนี้จนครบทุกชนิด
    • สำคัญ: ห้ามใช้น้ำประปา เพราะอาจมีแร่ธาตุที่ส่งผลต่อความเสถียรของส่วนผสม ห้ามใช้ Licorice Extract ที่เป็นของเหลวมาละลายผง ให้ใช้น้ำกลั่นเท่านั้น สามารถใช้น้ำกลั่นสำหรับเติมหม้อน้ำรถยนต์คุณภาพดีที่หาซื้อได้ตามปั๊มน้ำมันได้ หากไม่สามารถหาน้ำกลั่นเกรดเครื่องสำอางได้
  2. เติม Licorice Extract: Licorice Extract เป็นของเหลว สามารถเติมลงในส่วนผสมของผงที่ละลายน้ำแล้ว หรือจะเติมลงในเบสโดยตรงก็ได้
  3. ผสมกับเบส: ค่อยๆ เทส่วนผสมของผงที่ละลายน้ำแล้วและ Licorice Extract ลงในเบสเซรั่ม KA White Night Serum คนช้าๆ และเบาๆ ให้เข้ากันดี หลีกเลี่ยงการคนแรงๆ ที่อาจทำให้เกิดฟองอากาศมากเกินไป
  4. ตรวจสอบและปรับค่า pH: นี่เป็นขั้นตอนที่ สำคัญมาก ต่อความเสถียรและประสิทธิภาพ
    • เจ้าหน้าที่แนะนำให้ค่า pH สุดท้ายอยู่ในช่วง 6.0 ถึง 6.5
    • Alpha Arbutin เสถียรในช่วง pH 3.5-6.5
    • Magnesium Ascorbyl Phosphate เสถียรในช่วง pH 7-9
    • N-acetyl-D Glucosamine เสถียรในช่วง pH 3-7
    • Licorice Extract เสถียรในช่วง pH 3.5-6.5
    • ค่า pH 6.0-6.5 เป็นค่ากลางที่ช่วยให้ Alpha Arbutin, N-acetyl-D Glucosamine และ Licorice Extract มีความเสถียรพอสมควร แม้ว่าจะต่ำกว่าช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Magnesium Ascorbyl Phosphate เล็กน้อย คุณจะต้องใช้กระดาษวัดค่า pH หรือเครื่องวัดค่า pH เพื่อตรวจสอบค่า pH ของส่วนผสมสุดท้าย หากค่า pH ไม่อยู่ในช่วง 6.0-6.5 คุณอาจต้องปรับค่าโดยใช้สารละลายกรดเจือจาง (เช่น สารละลายกรดซิตริก) เพื่อลดค่า pH หรือสารละลายด่างเจือจาง (เช่น สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์) เพื่อเพิ่มค่า pH ค่อยๆ เติมทีละน้อย คนให้เข้ากัน แล้ววัดค่า pH ใหม่
  5. สังเกตการณ์: หลังจากผสมเสร็จ ให้สังเกตเซรั่มว่ามีการเปลี่ยนแปลงเนื้อสัมผัส สี หรือการแยกชั้นหรือไม่ ภายใน 24-48 ชั่วโมง

การเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด:

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมละลายและกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
  • รักษาค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่แนะนำ (6.0-6.5)
  • เก็บผลิตภัณฑ์ที่ผสมเสร็จแล้วในที่ที่เหมาะสม (หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน ควรเก็บในที่เย็น) เพื่อรักษาความเสถียรของส่วนผสม

สูตรที่ 2: เซรั่มลดริ้วรอย ยกกระชับ

ส่วนผสมที่จะเพิ่ม:

  • Sea Kelp Bioferment
  • Hydrolyzed Soy Protein
  • ข้อควรทราบ:* เจ้าหน้าที่แนะนำว่าไม่ควรเพิ่ม DMAE Bitartrate ลงในเบสนี้ เนื่องจากมีสภาพเป็นกรดและเข้ากันไม่ได้กับเบส เว้นแต่จะมีการปรับค่า pH อย่างมากด้วยด่าง ซึ่งอาจส่งผลต่อความเสถียรของส่วนผสมอื่นหรือเบสเอง

สามารถผสมส่วนผสมเหล่านี้ลงในเบสได้หรือไม่?
ได้ Sea Kelp Bioferment (Sea Kelp Extract) และ Hydrolyzed Soy Protein (Tryptic-Soy) สามารถนำมาผสมลงในเบสเซรั่ม KA White Night Serum ได้

วิธีการผสม ลำดับ และข้อควรระวัง:

  1. ค่อยๆ เติมส่วนผสม: Sea Kelp Extract และ Tryptic-Soy เป็นของเหลว/สารแขวนลอย เจ้าหน้าที่แนะนำให้ค่อยๆ เติมลงในเบสโดยตรง
  2. คนให้เข้ากัน: เติมส่วนผสมทีละน้อย คนเบาๆ ให้เข้ากันดี จากนั้นค่อยๆ เติมเพิ่ม ทำเช่นนี้จนกว่าจะเติมปริมาณที่ต้องการครบ
  3. สังเกตเนื้อสัมผัสและความรู้สึกบนผิว: ขณะที่เติมส่วนผสม ให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของเนื้อสัมผัสและความข้นของเซรั่ม เจ้าหน้าที่แนะนำให้ค่อยๆ เติมและทดสอบความรู้สึกบนผิว เพื่อให้แน่ใจว่าคุณชอบผลลัพธ์ เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้อาจเปลี่ยนเนื้อสัมผัสของเบสได้
  4. ความเข้ากันได้ของ pH: Sea Kelp Extract ทนความร้อนได้ถึง 60°C และละลายน้ำได้ Tryptic-Soy สามารถกระจายตัวในน้ำได้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเข้ากันได้กับระบบที่เป็นน้ำ เบสเซรั่ม KA White Night Serum น่าจะมีค่า pH ที่เหมาะสมกับส่วนผสมที่มีอยู่ (รวมถึง Niacinamide ซึ่งเสถียรในวงกว้าง โดยมีค่าที่เหมาะสมที่สุดคือ 4-7) การเพิ่ม Sea Kelp Extract และ Tryptic-Soy มีแนวโน้มที่จะไม่ทำให้ค่า pH เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเท่ากับการเพิ่ม DMAE Bitartrate อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบค่า pH สุดท้าย (โดยตั้งเป้าให้ใกล้เคียงกับค่า pH เดิมของเบส หรือปรับเล็กน้อยหากจำเป็นสำหรับความเสถียรของส่วนผสม แม้ว่าช่วง pH ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับสองตัวนี้จะสำคัญน้อยกว่าสำหรับสารทำให้ขาว) ก็ยังเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดี
  5. สังเกตการณ์: หลังจากผสมเสร็จ ให้สังเกตเซรั่มว่ามีการเปลี่ยนแปลงเนื้อสัมผัส สี หรือการแยกชั้นหรือไม่ ภายใน 24-48 ชั่วโมง

การเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด:

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอในเบส
  • เก็บผลิตภัณฑ์ที่ผสมเสร็จแล้วในที่ที่เหมาะสม (หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน ควรเก็บในที่เย็น)

คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับการผสมส่วนผสมจำนวนมาก

การเพิ่มส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิดลงในเบสสำเร็จรูปต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับความเข้ากันได้ ขีดจำกัดความเข้มข้น และปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้น แม้ว่าการผสมส่วนผสมหลายชนิดเข้าด้วยกันจะให้ประโยชน์ที่ครอบคลุม แต่การเพิ่มมากเกินไป หรือเกินอัตราการใช้ที่แนะนำ อาจนำไปสู่:

  • ความไม่เสถียร: สูตรอาจแยกชั้น เปลี่ยนสี หรือสูญเสียประสิทธิภาพ
  • ประสิทธิภาพลดลง: ส่วนผสมอาจรบกวนการทำงานของกันและกัน
  • การระคายเคืองผิว: ความเข้มข้นสูงเกินไป หรือการผสมที่ไม่เข้ากัน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์บนผิว
  • เนื้อสัมผัสที่ไม่พึงประสงค์: ความรู้สึกและลักษณะของผลิตภัณฑ์อาจได้รับผลกระทบในทางลบ

คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ให้ค่อยๆ เติมส่วนผสมและทดสอบความรู้สึกบนผิว เป็นคำแนะนำที่ดีเยี่ยม โดยทั่วไปแล้ว การเริ่มต้นด้วยความเข้มข้นที่ต่ำกว่า และส่วนผสมจำนวนน้อยกว่า สังเกตผลลัพธ์ แล้วค่อยปรับเปลี่ยนหากจำเป็น จะดีกว่าเสมอ พิจารณาอัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับส่วนผสมแต่ละชนิด และใช้ภายในขีดจำกัดเหล่านั้น

ด้วยการทำตามขั้นตอนเหล่านี้ และใส่ใจกับข้อกำหนดเฉพาะของส่วนผสมแต่ละชนิดและเบส คุณจะสามารถสร้างเซรั่มที่ปรับแต่งเองได้ ซึ่งมีทั้งประสิทธิภาพและมีความเสถียร

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)
Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Sea Kelp Extract
Sea Kelp Extract
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Magnesium Ascorbyl Phosphate
Magnesium Ascorbyl Phosphate
เครื่องสำอาง
Tryptic-Soy™
Tryptic-Soy™
เครื่องสำอาง