การเพิ่ม Oil Free Titanium Dioxide/Zinc Oxide Nano ในสูตรกันแดด (ผลทดสอบ SPF 40, 100)
คำถาม
จากผลทดสอบค่า SPF แบบ in-vitro ที่พบว่าสูตรที่ใช้ SPF Protect Ultra
20% ได้ค่า SPF ประมาณ 40 และที่ 30% ได้ค่า SPF ประมาณ 100 อยากสอบถามเกี่ยวกับการเพิ่มปริมาณ Oil Free Titanium Dioxide Nano
และ Oil Free Zinc Oxide Nano
ให้มากกว่า 10% ในสูตรกันแดด:
- มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้างในการใช้ความเข้มข้นที่สูงกว่า 10%?
- ปริมาณสูงสุดที่สามารถใส่ได้คือเท่าใด ทั้งตามข้อจำกัดทางกฎหมายและในทางปฏิบัติของการพัฒนาสูตร?
คำตอบ
การเพิ่มปริมาณ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ในสูตรกันแดด
สำหรับคำถามเกี่ยวกับการเพิ่มปริมาณ Oil Free Titanium Dioxide Nano และ Oil Free Zinc Oxide Nano ให้มากกว่า 10% ในสูตร มีข้อดีข้อเสียและปริมาณสูงสุดที่ใช้ได้ดังนี้ครับ
1. ข้อดีและข้อเสียของการใส่มากกว่า 10%
ข้อดี: การเพิ่มความเข้มข้นของสารกันแดดแบบ Physical เหล่านี้โดยทั่วไปจะช่วยเพิ่มระดับการป้องกันรังสี UV ได้สูงขึ้น Zinc Oxide ช่วยป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB ส่วน Titanium Dioxide ป้องกัน UVB เป็นหลักและ UVA บางส่วน การใช้เปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นสามารถช่วยให้ได้ค่า SPF ที่สูงขึ้นและการป้องกัน UVA ที่ดีขึ้นได้
ข้อเสีย:
- ราคา: ต้นทุนของผลิตภัณฑ์จะสูงขึ้นอย่างมากตามความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่เพิ่มขึ้น
- เนื้อสัมผัส: นี่เป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุด สารกันแดดแบบ Physical โดยเฉพาะที่ความเข้มข้นสูง มักจะทำให้เนื้อสูตรข้น เหนอะหนะ และหนักผิวมาก ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่น่าใช้และสวมใส่ไม่สบายผิว
- ความขาววอก: แม้ว่ารูปแบบนาโนจะถูกออกแบบมาเพื่อลดปัญหานี้ แต่ความเข้มข้นที่สูงขึ้นก็ยังสามารถทิ้งคราบขาวที่สังเกตเห็นได้บนผิว โดยเฉพาะกับโทนสีผิวที่เข้มกว่า
- ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นน้อยลง: ดังที่ได้กล่าวถึงในการสนทนาก่อนหน้านี้ ประสิทธิภาพการป้องกันแสงแดดที่เพิ่มขึ้น (โดยเฉพาะค่า SPF) จะน้อยลงอย่างมากเมื่อใช้ความเข้มข้นที่สูงมาก ตัวอย่างเช่น การเพิ่มจาก SPF 30 (ป้องกัน UVB ได้ประมาณ 97%) เป็น SPF 50 (ป้องกันได้ประมาณ 98%) ต้องใช้สารกันแดดเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งมักจะนำไปสู่ปัญหาเนื้อสัมผัสที่กล่าวมาข้างต้น
- ปริมาณการทา: เนื่องจากสูตรที่มีความเข้มข้นสูงอาจมีเนื้อข้นและขาววอก ผู้ใช้อาจทาผลิตภัณฑ์ในปริมาณน้อยกว่าที่จำเป็นเพื่อให้ได้ค่า SPF ตามที่ระบุ ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการป้องกันจริงลดลง
2. ปริมาณที่ใส่ได้มากที่สุด
- ข้อจำกัดตามกฎหมาย: หน่วยงานกำกับดูแล เช่น อย. มีข้อจำกัดเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์สูงสุดของสารกันแดดออกฤทธิ์ที่อนุญาตให้ใช้ในสูตร ตัวอย่างเช่น Active Zinc Oxide มักถูกจำกัดไม่เกิน 25% และ Titanium Dioxide ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน ซึ่งมักจะอยู่ที่ประมาณ 25% นี่คือขีดจำกัดด้านความปลอดภัย
- ข้อจำกัดในทางปฏิบัติ: ปริมาณสูงสุดในทางปฏิบัติมักจะต่ำกว่าขีดจำกัดตามกฎหมายมาก และถูกกำหนดโดยเนื้อสัมผัส ความรู้สึก และความสวยงามของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ต้องการ สูตรที่มีเปอร์เซ็นต์สูงมาก (เช่น Titanium Dioxide 20% และ Zinc Oxide 20%) มักจะมีเนื้อข้นมาก เกลี่ยยาก และทิ้งคราบขาวชัดเจน ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการใช้เป็นเครื่องสำอาง
- ปริมาณการใช้งานทั่วไป: จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ อัตราการใช้งานทั่วไปสำหรับ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide รูปแบบนาโนในสูตรเครื่องสำอางอยู่ระหว่าง 1% ถึง 25-50% ขึ้นอยู่กับรูปแบบของผลิตภัณฑ์ (ผง, ดิสเพอร์ชัน, ขนาดอนุภาค) และระดับ SPF/UVA ที่ต้องการ โดยต้องคำนึงถึงความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ เนื้อสัมผัส และความขาววอกด้วย
โดยสรุป แม้ว่าการเพิ่มเปอร์เซ็นต์จะช่วยเพิ่มการป้องกันได้ แต่ข้อจำกัดในทางปฏิบัติเกี่ยวกับเนื้อสัมผัส ความขาววอก ต้นทุน และประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นน้อยลงเมื่อถึงจุดหนึ่ง หมายความว่ามีจุดที่การเพิ่มปริมาณไม่ได้ให้ประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้ผลิตภัณฑ์ใช้งานได้ยากขึ้น ผู้พัฒนาสูตรจึงต้องหาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพกับความน่าใช้ของผลิตภัณฑ์ ภายใต้ข้อจำกัดตามกฎหมายครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Titanium Dioxide Nanosil
