การแก้ไขปัญหาการขึ้นเนื้อครีมด้วย Light Lotion Maker

การแก้ไขปัญหาการขึ้นเนื้อครีมด้วย Light Lotion Maker

จากสูตรและวิธีการที่คุณลูกค้าแจ้งมา ปัญหาหลักที่ทำให้เนื้อครีมไม่ขึ้นน่าจะเกิดจาก การเติมสารสร้างเนื้อและสารก่อเจลที่ละลายน้ำในขั้นตอนที่ไม่ถูกต้อง ครับ

สารต่างๆ เช่น Colem TT, Natto Gum, Double Hyaluron Liquid Acid และ Skin Tight MD TM Liquid มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความหนืดและโครงสร้างในเฟสน้ำ สารเหล่านี้ต้องการน้ำและความร้อน (ในกรณี Hot Process) ที่เพียงพอเพื่อให้เกิดการพองตัว (Hydration) และสร้างโครงข่ายความหนืดในเฟสน้ำอย่างสมบูรณ์ ก่อน ที่จะนำเฟสน้ำและเฟสน้ำมันมาผสมกันเพื่อทำอิมัลชัน การเติมสารเหล่านี้ในขั้นตอนท้ายๆ โดยเฉพาะหลังจากพยายามทำอิมัลชันไปแล้ว หรือขณะที่เนื้อครีมกำลังเย็นตัว จะทำให้สารเหล่านี้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ในการช่วยเพิ่มความหนืดและพยุงอนุภาคของน้ำมันในเฟสน้ำ ทำให้เนื้อครีมไม่ขึ้นหรือไม่คงตัวได้ครับ

Light Lotion Maker (ID 5938) เป็นอิมัลซิไฟเออร์ชนิด O/W ที่มีประสิทธิภาพ สามารถใช้น้ำมันได้ถึง 40% และให้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ใช้ได้ทั้งกระบวนการร้อนและเย็น การใช้ร่วมกับ Emulium Delta MB ซึ่งเป็น O/W อิมัลซิไฟเออร์อีกตัว (โดยทั่วไปใช้ใน Hot Process) เป็นเรื่องปกติที่ทำได้เพื่อเสริมความเสถียรและปรับปรุงเนื้อสัมผัส อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการทำอิมัลชันขึ้นอยู่กับการเตรียมเฟสน้ำและเฟสน้ำมันที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการทำให้สารสร้างเนื้อที่ละลายน้ำพองตัวอย่างสมบูรณ์

นอกจากนี้ การให้ความร้อนกับ Cyclopentasiloxane ในเฟสน้ำมัน อาจทำให้สารบางส่วนระเหยไป ซึ่งอาจส่งผลต่อสัดส่วนในสูตรได้ครับ

แนวทางการปรับปรุงแก้ไขที่แนะนำ:

ปรับลำดับขั้นตอนการผสมใหม่ โดยยึดหลักการทำอิมัลชันแบบ O/W ทั่วไป ดังนี้ครับ

1. เตรียมเฟสน้ำ (Water Phase):

   • รวมส่วนผสมทั้งหมดที่ละลายน้ำได้ในส่วนที่ 1 (น้ำกลั่น, Disodium EDTA, Allantoin, Ectoine, Energy-Blend, GABA, Colem TT, Ethy Ascobic Acid, Double Hyaluron Liquid Acid) และส่วนผสมที่ละลายน้ำในส่วนที่ 2 (Yerba Santa Protein, 1,2-Hexanediol, Natto Gum, Carota Sativa Root Extract, Skin Tight MD TM Liquid) เข้าด้วยกันในภาชนะที่ทนความร้อน
   • คนผสมให้เข้ากัน และให้ความร้อนแก่เฟสน้ำนี้จนอุณหภูมิประมาณ 45-50 องศาเซลเซียส
   • คนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สารผงและสารสร้างเนื้อทั้งหมดละลายและพองตัวจนเต็มที่ สังเกตว่าเฟสน้ำจะเริ่มมีความหนืดขึ้น ขั้นตอนนี้สำคัญมากครับ

2. เตรียมเฟสน้ำมัน (Oil Phase):

   • รวมส่วนผสมทั้งหมดในส่วนที่ 3 (Jojoba Oil, Active & Natural Extract >> SpecKare® EyeS 100, LipidSoft™ Lite, Light Lotion Maker, Emulium® Delta MB, Cyclopentasiloxane) เข้าด้วยกันในภาชนะที่ทนความร้อนอีกใบ
   • คนผสมให้เข้ากัน และให้ความร้อนแก่เฟสน้ำมันนี้จนอุณหภูมิประมาณ 45-50 องศาเซลเซียส เพื่อช่วยละลายอิมัลซิไฟเออร์ (Light Lotion Maker และ Emulium Delta MB) และส่วนผสมอื่นๆ ในเฟสน้ำมัน

3. ขั้นตอนการทำอิมัลชัน:

   • เมื่อทั้งสองเฟสมีอุณหภูมิใกล้เคียงกัน (45-50 องศาเซลเซียส) ให้ค่อยๆ เทเฟสน้ำมันลงในเฟสน้ำ พร้อมกับใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง (เช่น Homogenizer หรือเครื่องปั่นที่ให้แรงเฉือนสูง) ปั่นตลอดเวลา ในขณะที่เทเฟสน้ำมันลงไปจนหมด การใช้แรงเฉือนสูงในขั้นตอนนี้สำคัญมากในการสร้างอิมัลชันที่ละเอียดและคงตัว
   • ปั่นต่อเนื่องด้วยความเร็วปานกลางถึงสูงในขณะที่ปล่อยให้เนื้อครีมเย็นตัวลง

4. ขั้นตอนการเติมสารที่ไวต่อความร้อนและสารอื่นๆ:

   • เมื่ออุณหภูมิของเนื้อครีมลดลงต่ำกว่า 40 องศาเซลเซียส จึงค่อยเติมสารที่ระบุว่าหลีกเลี่ยงความร้อนเกิน 40 องศา (Pep®-Radiance, Pep®-Eye, Dipeptide-2) รวมถึง AHC-Pep™
   • เติมสารอื่นๆ ในส่วนที่ 4 (Mild Preserved Eco, Apple Blossom)
   • คนผสมให้เข้ากันจนเนื้อครีมเนียนเป็นเนื้อเดียว

สรุป:

ข้อผิดพลาดหลักคือการเติมสารสร้างเนื้อผิดขั้นตอน ควรละลายและพองสารสร้างเนื้อทั้งหมดในเฟสน้ำก่อนทำอิมัลชัน และใช้เครื่องปั่นที่ให้แรงเฉือนสูงในขณะรวมเฟสน้ำและน้ำมัน การปรับปรุงขั้นตอนตามที่แนะนำนี้จะช่วยให้คุณได้เนื้อครีมตามที่ต้องการครับ