การใช้สารควบคุมความมันในเซรั่มสำหรับสภาพผิวต่างๆ
คำถาม
กำลังพัฒนาสูตรเซรั่มบำรุงผิวหน้า และต้องการใช้สารควบคุมความมัน เช่น Vitamin B3, Zinc PCA, MSM, L-Carnitine, และ Licorice Extract
มีข้อสงสัยหลักสำหรับคนผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง หากใส่สารควบคุมความมันเหล่านี้ลงไปในสูตรแล้ว จะทำให้ผิวของคนกลุ่มนี้แห้งเกินไปหรือไม่คะ?
ขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับอัตราส่วนการใช้ที่แนะนำ การละลาย วิธีการผสม และช่วงค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมแต่ละตัว เมื่อใช้ในสูตรเซรั่มด้วยค่ะ
- Vitamin B3 (Niacinamide)
- Zinc PCA
- Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)
- L-Carnitine (Carnitine)
- Licorice Extract (Licochalcone A)
คำตอบ
ข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสมควบคุมความมัน
สำหรับการใช้ Vitamin B3 (Niacinamide) ชนิด Ultra-Low Niacin ในเซรั่มบำรุงผิวหน้าเพื่อช่วยควบคุมความมันนั้น มีประสิทธิภาพสำหรับคนผิวมันและผิวผสม โดยจะช่วยลดความมันส่วนเกินได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้ใช้อย่างต่อเนื่องค่ะ
การใช้ Vitamin B3 ร่วมกับ Zinc PCA, MSM, L-Carnitine และ Licorice Extract สามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมความมันได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
สำหรับคนผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง การใส่สารควบคุมความมันลงไปนั้นมีจุดประสงค์เพื่อช่วยปรับสมดุลผิว ไม่ได้ทำให้ผิวแห้งเสียสมดุลค่ะ ซึ่งในกรณีผิวแห้ง อาจช่วยให้ผิวมีความสมดุลและดูมีน้ำมีนวลมากขึ้นได้ด้วยกลไกการลดการทำงานของต่อมไขมันที่มากเกินไปค่ะ
รายละเอียดการใช้งานสำหรับแต่ละส่วนผสมมีดังนี้ค่ะ:
Vitamin B3 (Niacinamide)
- อัตราส่วนที่แนะนำ: 1-10% (โดยทั่วไปแนะนำที่ 5% สามารถใช้ได้ถึง 10% ขึ้นอยู่กับเกรดของสารและประสิทธิภาพที่ต้องการ)
- การละลาย: ละลายในน้ำ
- วิธีผสม: ผสมในส่วนของน้ำ (water-phase) สามารถทนความร้อนได้ แต่ไม่ควรใช้ความร้อนนานเกินไป ค่า pH ที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 3-8 โดยช่วงที่ดีที่สุดคือ 4.0-7.0
- หมายเหตุ: มีหลายเกรดให้เลือก เช่น Safe-B3™ และ Extreme-B3™ ซึ่งมีความบริสุทธิ์และความอ่อนโยนแตกต่างกันไปค่ะ
Zinc PCA
- อัตราส่วนที่แนะนำ: 0.2-1.0% (ใช้ 1.0% สำหรับลดความมันและลดการเกิดสิว)
- การละลาย: ละลายในน้ำ (ละลายได้ดีมากในช่วง pH 4-6)
- วิธีผสม: ผสมในส่วนของน้ำ (water-phase) ทนความร้อนได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการให้ความร้อนเป็นเวลานาน ค่า pH ที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 3-7 โดยช่วงที่ดีที่สุดคือ 4-6
Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)
- อัตราส่วนที่แนะนำ: 1-5% (แนะนำที่ 3% สำหรับควบคุมความมัน)
- การละลาย: ละลายในน้ำ
- วิธีผสม: ผสมในส่วนของน้ำ (water-phase) ค่า pH ของสูตรควรอยู่ในช่วง 3-7
L-Carnitine (Carnitine)
- อัตราส่วนที่แนะนำ: 1-5% (แนะนำที่ 3%)
- การละลาย: ละลายในน้ำ
- วิธีผสม: ผสมในส่วนของน้ำ (water-phase) ค่า pH ของสูตรต้องต่ำกว่า 8 (ค่า pH ที่เหมาะสมที่สุดคือ 3.5-8) หาก pH สูงกว่า 8 L-Carnitine อาจเสื่อมสภาพได้ หากจำเป็นให้ปรับ pH ลงมาอยู่ในช่วง 4-7 หลีกเลี่ยงความชื้นเนื่องจากดูดความชื้นได้ง่ายมากค่ะ
Licorice Extract (Licochalcone A)
- มีหลายชนิดขึ้นอยู่กับการละลาย:
- ชนิดละลายน้ำ (เช่น Licochalcone A 1%):
- อัตราส่วนที่แนะนำ: 0.5-3% (แนะนำ 0.5-1.0% สำหรับลดความมันและรักษาสิว)
- การละลาย: ละลายในน้ำ
- วิธีผสม: ผสมในส่วนของน้ำ (water-phase) หรือในอิมัลซิไฟเออร์ ค่า pH ของสูตรควรอยู่ในช่วง 3.5-6.5
- ชนิดละลายใน Glycol (เช่น Licochalcone A 20%):
- อัตราส่วนที่แนะนำ: 0.1-0.3% (แนะนำ 0.1-0.2% สำหรับลดความมันและรักษาสิว)
- การละลาย: ละลายใน Glycol (เช่น Propylene Glycol) ไม่ละลายในน้ำ
- วิธีผสม: ผสมใน Propylene Glycol หรือ Glycol ชนิดอื่น คนหรือปั่นจนใสก่อนนำไปเติมในสูตร ค่า pH ของสูตรควรอยู่ในช่วง 3.5-6.5
- ชนิดละลายน้ำ (เช่น Licochalcone A 1%):
- มีหลายชนิดขึ้นอยู่กับการละลาย:
ในการพัฒนาสูตรเซรั่มของคุณ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH โดยรวมของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเหมาะสมกับผิว (โดยทั่วไปคือ pH 4-7) และเข้ากันได้กับส่วนผสมทั้งหมดที่ใช้ค่ะ ควรปฏิบัติตามหลักการผลิตที่ดีเสมอค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

L-Carnitine (Carnitine)

Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)

Zinc PCA

Hi-LiconeA™ Licorice Extract (Licochalcone A 20%)
