ทำความเข้าใจปัญหาผิวของคุณและแนวทางแก้ไขที่แนะนำ

เข้าใจว่าพี่สาวของคุณกำลังประสบปัญหาผิวอย่างหนักจากการหยุดใช้สเตียรอยด์ ทั้งอาการหน้าแห้ง แสบ คัน ครีมเดิมที่เคยใช้มีส่วนผสมหลักที่ช่วยปลอบประโลมผิว ได้แก่:

• Evening Primrose Oil
• Tiliroside
• glycerophosphoinositol
• Chamomilla recutita flower extract (ซึ่งคือ Alpha-Bisabolol)
• Aloe Vera Extract

ทาง Staff ได้แนะนำสูตรทางเลือกที่ปรับปรุงแล้ว ซึ่งออกแบบมาสำหรับผิวแพ้ง่ายและมีปัญหา เช่น ผิวที่ติดสเตียรอยด์หรือผิวที่เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (eczema) สูตรนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยบรรเทาอาการและฟื้นฟูผิว ส่วนผสมหลักในสูตรที่แนะนำ ได้แก่:

• Glycyrrhetinic Acid 3%: มีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบและปลอบประโลมผิว
• Allantoin 0.25%: ช่วยปลอบประโลมผิวและส่งเสริมการสมานผิว
• Hyaluronic Acid Nano 0.1%: ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้ง
• Ceramide Complex 10%: สำคัญอย่างยิ่งในการซ่อมแซมและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ซึ่งมักจะอ่อนแอลงหลังจากการใช้สเตียรอยด์
• Atopic-Telmesteine™ 3%: เป็นส่วนผสมหลักที่ถูกกล่าวถึงว่ามีประโยชน์สำหรับสภาพผิวที่เป็นภูมิแพ้ผิวหนัง
• shea butter 5% (สามารถเพิ่มได้ถึง 10% สำหรับผิวที่แห้งมาก): เป็นสารให้ความนุ่มชุ่มชื้นแก่ผิว

ส่วนผสมเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อจัดการกับปัญหาหลักๆ ของผิวที่เกิดจากการหยุดสเตียรอยด์ โดยช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการระคายเคือง ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวที่เสียหายขึ้นมาใหม่ การผสมผสานนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ประโยชน์ที่คล้ายคลึงกับครีมเดิมที่คุณเคยใช้

สำหรับคำถามเพิ่มเติมของคุณ:

• การใช้ร่วมกับครีมกันแดด: สามารถใช้ร่วมกับครีมกันแดดได้ตามปกติ โดยทาครีมบำรุงนี้ก่อน รอให้ซึมเข้าสู่ผิวจนหมด แล้วจึงทาครีมกันแดดตาม
• วิธีการผสม: ทาง Staff ได้ให้ลิงก์สำหรับศึกษาพื้นฐานการผสมครีมสำหรับมือใหม่ (http://www.myskinrecipes.com/topic174.html) คุณควรปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของการผสมเครื่องสำอาง ซึ่งโดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับการรวมส่วนผสมที่เป็นน้ำและน้ำมัน (หากทำเนื้อครีมที่มีส่วนของน้ำมัน เช่น Shea butter) และการทำอิมัลชันหากจำเป็น รวมถึงการเติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อนในขั้นตอนการเย็นตัวลง
• การปรับค่า pH: สูตรที่ให้มาไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าต้องปรับค่า pH หรือไม่ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วในการผลิตเครื่องสำอาง การตรวจสอบและปรับค่า pH สุดท้ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับผิว (โดยทั่วไปจะมีความเป็นกรดเล็กน้อย ประมาณ 4.5-6.0) เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีเพื่อให้มั่นใจในความเสถียรของผลิตภัณฑ์และความเข้ากันได้กับผิว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับส่วนผสมเฉพาะที่ใช้และเบสของผลิตภัณฑ์ด้วย