การใช้ Copper Peptide ร่วมกับ Papaya Enzyme (Papain)

ตามคำตอบก่อนหน้านี้ Copper Peptide และ Papaya Enzyme (Papain) สามารถใช้ร่วมกันได้ อย่างไรก็ตาม มีข้อควรพิจารณาที่สำคัญในการผสมเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งสองมีประสิทธิภาพและคงตัวเมื่อนำมารวมกันในผลิตภัณฑ์เดียว

ข้อมูลสำคัญจากรายละเอียดผลิตภัณฑ์มีดังนี้:

• Copper Peptide (GHK-Cu, Copper Tripeptide-1):

  • ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับการคงตัวคือ 4.5-7.4
  • ไม่ควร มี Disodium EDTA ในสูตร เนื่องจากจะจับกับประจุทองแดงและลดประสิทธิภาพลง
  • ผสมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C
  • เก็บรักษาในตู้เย็น (4-8°C)

• Papaya Enzyme (Papain):

  • ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับการคงตัวคือ 5.5-7.0
  • ควรมี Disodium EDTA 0.1-0.2% ในสูตร เพื่อช่วยป้องกันไอออนโลหะทำลายเอนไซม์
  • หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 40°C
  • ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปควรเก็บในอุณหภูมิต่ำ (6-15°C โดยเฉพาะ 4°C)
  • ประสิทธิภาพของเอนไซม์จะค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อละลายในน้ำ
  • ใช้อัตรา 0.1-1.5% (แนะนำ 1%) และควรใช้อย่างระมัดระวังเนื่องจากมีความเข้มข้นสูง

ความท้าทายในการผสม:

ความท้าทายหลักในการรวมส่วนผสมทั้งสองนี้ในสูตรเดียวคือข้อกำหนดที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับ Disodium EDTA ประสิทธิภาพของ Copper Peptide จะลดลงเมื่อมี EDTA ในขณะที่ความคงตัวของ Papain จะดีขึ้นเมื่อมี EDTA นอกจากนี้ แม้ว่าช่วง pH ที่เหมาะสมจะทับซ้อนกัน (5.5-7.0) แต่การทำให้ทั้งสองคงตัวอย่างเหมาะสมพร้อมกันในขณะที่จัดการกับปัญหา EDTA นั้นเป็นเรื่องยาก

คำแนะนำ:

เนื่องจากความท้าทายทางเทคนิค การใช้ Copper Peptide และ Papaya Enzyme (Papain) ใน ผลิตภัณฑ์แยกกัน และทาในเวลาที่ต่างกัน มักจะเป็นวิธีที่ทำได้จริงและมีประสิทธิภาพมากกว่า วิธีนี้ช่วยหลีกเลี่ยงการโต้ตอบโดยตรงและช่วยให้ส่วนผสมแต่ละชนิดทำงานได้อย่างเต็มที่ในสภาพแวดล้อมของสูตรที่เหมาะสม

หากเลือกใช้ Papain โปรดจำข้อควรระวังจากคำตอบก่อนหน้านี้: ใช้ในปริมาณน้อยและสังเกตการตอบสนองของผิว หยุดใช้เมื่อได้ความนุ่มตามที่ต้องการแล้ว