การใช้ TEA และ Vitamin E ในสูตรครีม
คำถาม
สำหรับสูตรเครื่องสำอางประเภทครีมทั่วไป มีคำถามเกี่ยวกับการใช้ Triethanolamine และ Vitamin E ดังนี้:
1. ถ้าในสูตร 90% มีส่วนผสมเป็นสารสังเคราะห์ ที่เหลือเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น Shea Butter จำเป็นต้องใช้สาร 2 ตัวนี้หรือไม่ มีวิธีพิจารณาเลือกใช้สาร 2 ตัวนี้อย่างไร
2. ถ้าในสูตรเป็นสารสังเคราะห์ทั้งหมด จำเป็นต้องใช้สาร 2 ตัวนี้หรือไม่ครับ
3. ขั้นตอนการใส่สาร Triethanolamine และ Vitamin E ในสูตรควรทำในขั้นตอนใดครับ
คำตอบ
สวัสดีค่ะ/ครับ
ขอตอบคำถามเกี่ยวกับ Triethanolamine (TEA) และ Vitamin E (Tocopheryl Acetate) ในสูตรเครื่องสำอางค์นะคะ/ครับ
จากข้อมูลที่ได้รับและหลักการทั่วไปในการทำสูตร สามารถตอบคำถามได้ดังนี้ค่ะ/ครับ:
ความจำเป็นในการใช้ TEA และ Vitamin E ในสูตรครีมที่มีส่วนผสมสังเคราะห์ 90% และธรรมชาติ 10% (เช่น Shea Butter)
- TEA (Triethanolamine): โดยทั่วไปแล้ว Triethanolamine ไม่มีความจำเป็นสำหรับสูตรเครื่องสำอางทั่วไป เนื่องจากส่วนผสมส่วนใหญ่มักมีค่า pH เป็นกลางหรือเป็นกรดเล็กน้อยอยู่แล้ว และ Triethanolamine อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ จึงควรหลีกเลี่ยงหากไม่จำเป็นต้องใช้เพื่อปรับค่า pH ให้สูงขึ้นอย่างเฉพาะเจาะจงค่ะ/ครับ
- Vitamin E (Tocopheryl Acetate): การเติม Vitamin E ในระดับประมาณ 0.1% ของสูตร จะช่วยทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพจากการเกิดออกซิเดชันของส่วนผสมที่เป็นน้ำมัน โดยเฉพาะส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น Shea Butter ซึ่งจะช่วยยืดอายุของผลิตภัณฑ์ได้ค่ะ/ครับ
ความจำเป็นในการใช้ TEA และ Vitamin E ในสูตรที่เป็นสารสังเคราะห์ทั้งหมด
- TEA (Triethanolamine): เช่นเดียวกับข้อ 1 Triethanolamine โดยทั่วไปไม่จำเป็นสำหรับสูตรที่เป็นสารสังเคราะห์ทั้งหมด หากไม่ต้องการปรับค่า pH ให้สูงขึ้นอย่างเฉพาะเจาะจงค่ะ/ครับ
- Vitamin E (Tocopheryl Acetate): สารสังเคราะห์ที่เป็นน้ำมันก็สามารถเกิดการเสื่อมสภาพจากการเกิดออกซิเดชันได้เช่นกันค่ะ/ครับ อย่างไรก็ตาม สำหรับสูตรที่เป็นสารสังเคราะห์ทั้งหมด อาจพิจารณาใช้สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า Vitamin E เช่น Protec™ OX เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของส่วนผสมน้ำมันสังเคราะห์ค่ะ/ครับ
ขั้นตอนการใส่ TEA และ Vitamin E ในสูตร
- TEA (Triethanolamine): Triethanolamine ทำหน้าที่เป็นสารปรับค่า pH มักจะถูกเติมใน ขั้นตอนสุดท้าย ของการผลิต หลังจากที่ผสมส่วนผสมหลักอื่นๆ เข้ากันดีแล้ว เพื่อค่อยๆ ปรับค่า pH ของสูตรให้ได้ตามช่วงที่ต้องการค่ะ/ครับ
- Vitamin E (Tocopheryl Acetate): Vitamin E เป็นสารที่ละลายในน้ำมันและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มักจะถูกเติมใน ส่วนของน้ำมัน (Oil Phase) ในระหว่างการให้ความร้อน หรือเติมในช่วง Cooling Phase (ขณะที่สูตรกำลังเย็นตัวลง) ที่อุณหภูมิต่ำกว่าประมาณ 40-50°C เพื่อป้องกันการสลายตัวจากความร้อนสูงและช่วยรักษาคุณสมบัติของสารค่ะ/ครับ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ/ครับ หากมีคำถามเพิ่มเติมสอบถามได้เลยค่ะ/ครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Shea Butter (Refined , Deodorised)
