ข้อจำกัดการละลายของ L-Ascorbic Acid ใน Butylene Glycol สำหรับเซรั่มความเข้มข้นสูง
คำถาม
ต้องการทำเซรั่มที่มี L-Ascorbic Acid ความเข้มข้นสูง (10-15%) โดยใช้ Butylene Glycol เป็นเบส เหมือนกับผลิตภัณฑ์บางตัวในตลาด เช่น cellular skin rx Vitamin C+Firming Serum แต่เข้าใจว่า L-Ascorbic Acid ละลายใน Butylene Glycol ได้จำกัด (ประมาณ 5%) ผลิตภัณฑ์ในตลาดทำได้อย่างไรให้มีความเข้มข้นสูงขนาดนั้น และมีข้อจำกัดอะไรบ้างหากพยายามขึ้นสูตรแบบนี้โดยตรง?
คำตอบ
การละลายของ L-Ascorbic Acid ใน Butylene Glycol
จากความรู้ด้านการคิดค้นสูตรและข้อมูลผลิตภัณฑ์ L-ascorbic acid มีข้อจำกัดในการละลายโดยตรงใน Butylene Glycol โดยปกติจะไม่สามารถละลายได้เกินประมาณ 5% การผสมที่ความเข้มข้นสูงกว่านี้ เช่น 10-15% โดยการละลายผง L-ascorbic acid โดยตรงใน Butylene Glycol มักจะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจะไม่ละลายทั้งหมดและอาจเกิดการตกตะกอนได้
ผลิตภัณฑ์ที่มี L-ascorbic acid ความเข้มข้นสูงในเบสไกลคอล เช่น cellular skin rx Vitamin C+Firming Serum มีแนวโน้มที่จะใช้กระบวนการพิเศษหรือกระบวนการที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเพื่อให้เกิดความเสถียรและการละลายที่ดีขึ้น ดังที่กล่าวไว้ในคำตอบของเจ้าหน้าที่ วิธีการเหล่านี้ไม่ใช่การละลายโดยตรงแบบทั่วไป
สำหรับการคิดค้นสูตรที่มี L-ascorbic acid สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาคุณสมบัติของมัน L-ascorbic acid มีประสิทธิภาพสูงแต่ไม่เสถียร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในน้ำ เกรดต่างๆ เช่น Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine), Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine) และ Vitamin C (L-ascorbic acid) (Standard) มีขนาดอนุภาคที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการกระจายตัว แต่ความสามารถในการละลายพื้นฐานในตัวทำละลายอย่าง Butylene Glycol ยังคงมีจำกัด วิตามินซีในรูปแบบอื่น เช่น อนุพันธ์ที่ละลายในน้ำมันได้ หรืออนุพันธ์ที่ละลายในน้ำได้และมีความเสถียรมากกว่า อาจเหมาะสมกว่า ขึ้นอยู่กับสูตรและความเข้มข้นที่ต้องการ
หากคุณต้องการทำเซรั่ม L-ascorbic acid ที่มีความเข้มข้นสูง อาจจำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษ หรือใช้อนุพันธ์ของวิตามินซีทางเลือกที่ออกแบบมาให้ละลายและมีความเสถียรที่ดีขึ้นในเบสต่างๆ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)

Butylene Glycol
