ข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำงานของ BHA (ละลายสิวอุดตัน vs. ผลัดเซลล์ผิว) และความเข้ากันได้ของส่วนผสมในสูตรเจล
ถามโดย: chayapop18909
เมื่อ: January 20, 2018
ประเภทผลิตภัณฑ์:
เครื่องสำอาง
คำถาม
จากข้อความของสตาฟในกระทู้ก่อนหน้าที่ระบุว่า BHA ไม่จำเป็นต้องมีความเป็นกรดสูง (pH 4-6 เพียงพอ) เพื่อละลายสิวอุดตัน แต่ต้องการ pH ต่ำเพื่อผลัดเซลล์ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ผมมีคำถามดังนี้ครับ:
- รบกวนช่วยอธิบายเพิ่มเติมถึงความแตกต่างระหว่าง "ผลัดเซลล์ผิว" กับ "ละลายสิวอุดตัน" ได้ไหมครับ เพราะจากความเข้าใจของผมคือ การละลายสิวอุดตันเป็นผลมาจากการผลัดเซลล์ผิว หรือว่าความเข้าใจนี้ไม่ถูกต้องครับ
- เกี่ยวกับสูตรเจลที่วางแผนจะทำ ซึ่งมีส่วนผสมของ BHA, Niacinamide (Vitamin B3), และสารสกัดชาเขียว:
- 2.1 จากข้อมูลในเว็บ สารทั้ง Niacinamide และสารสกัดชาเขียว เคลมว่าสามารถช่วยลดความมัน (sebum) บนใบหน้าได้ การที่ผมเลือกใช้ทั้งสองตัวถือว่าซ้ำซ้อนเกินความจำเป็นหรือไม่ครับ มันเคลมว่าลด sebum ได้ แต่ผมยังไม่ได้ศึกษาว่าสารทั้งสองมันใช้กลไกเดียวกันหรือเปล่าในการลดความมัน
- 2.2 สารสกัดจากชาเขียวข้อมูลในเว็บเขียนว่า pH ที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 4-6.5 แต่ BHA ที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 3-4 แปลว่าถ้าผมจะทำเจล BHA ที่ pH อยู่ในช่วง 3-4 ก็ไม่ควรใส่สารสกัดจากชาเขียวหรือเปล่าครับ
คำตอบ
คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของ BHA และสูตรที่คุณวางแผนจะทำ
สวัสดีค่ะ
ขอขอบคุณสำหรับคำถามเกี่ยวกับการใช้ BHA และการรักษาสิวค่ะ
คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของ BHA: คุณเข้าใจถูกต้องที่ต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างความสามารถของ BHA ในการ "ละลายสิวอุดตัน" และ "ผลัดเซลล์ผิว" จากคำอธิบายของทีมงาน กลไกทั้งสองนี้มีความเกี่ยวข้องกันแต่ก็มีความแตกต่างกันค่ะ:
- การละลายสิวอุดตัน (Comedolytic effect): BHA มีคุณสมบัติ Lipophilic (ชอบน้ำมัน) ทำให้สามารถซึมเข้าไปในรูขุมขนและละลายไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งก่อตัวเป็นสิวอุดตันได้ คุณสมบัตินี้เป็นธรรมชาติของโครงสร้างทางเคมีของ BHA และไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่า pH มากนัก นี่คือเหตุผลที่ BHA ยังคงช่วยละลายสิวอุดตันได้แม้ในค่า pH ที่สูงขึ้น (เช่น 4-6) ซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคืองน้อยกว่า
- การผลัดเซลล์ผิว: BHA ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่อยู่ชั้นบนสุดโดยการสลายพันธะระหว่างเซลล์ผิว การทำงานด้านการผลัดเซลล์ผิวนี้ขึ้นอยู่กับค่า pH เช่นเดียวกับ AHA ค่า pH ที่ต่ำกว่า (เช่น 3-4) จะช่วยให้การผลัดเซลล์มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ว่าการผลัดเซลล์ผิวจะมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดสิวอุดตันใหม่โดยการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งอาจอุดตันรูขุมขนได้ แต่การละลายสิวอุดตันที่มีอยู่แล้วโดยตรงนั้นส่วนใหญ่มาจากคุณสมบัติ Lipophilic ของ BHA ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ไวต่อ pH น้อยกว่า
ดังนั้น แม้ว่าการผลัดเซลล์ผิวจะมีส่วนช่วยป้องกันสิวอุดตัน แต่ความสามารถของ BHA ในการละลายสิวอุดตันที่มีอยู่แล้วเป็นคุณสมบัติที่แยกต่างหากและไวต่อ pH น้อยกว่า การทำสูตรที่ pH สูงขึ้นจะเน้นไปที่คุณสมบัติ Comedolytic โดยลดการระคายเคืองลง แต่ประสิทธิภาพการผลัดเซลล์ผิวก็จะลดลงด้วย
คำถามเกี่ยวกับสูตรที่คุณวางแผนจะทำ (BHA, Niacinamide, สารสกัดชาเขียว):
- 2.1 การใช้ซ้ำซ้อนในการลดความมัน: การใช้ Niacinamide (Vitamin B3) และ สารสกัดชาเขียว ร่วมกันเพื่อควบคุมความมันนั้นไม่ถือว่าซ้ำซ้อนค่ะ เป็นเรื่องปกติและมักจะเป็นประโยชน์ในการใช้ส่วนผสมหลายชนิดที่ทำงานเพื่อควบคุมหรือลดการผลิต/การดูดซับความมันผ่านกลไกที่แตกต่างกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและครอบคลุมมากขึ้น ส่วนผสมเหล่านี้สามารถทำงานเสริมฤทธิ์กันได้ค่ะ
- 2.2 ความเข้ากันได้ของ pH: ข้อมูลระบุว่าสารสกัดชาเขียวมีค่า pH ที่เหมาะสมในช่วง 4-6.5 ในขณะที่ BHA มีค่า pH ที่เหมาะสมในช่วง 3-4 สำหรับการผลัดเซลล์ผิว ทางทีมงานได้ยืนยันว่าค่า pH 4 เป็นค่าที่ยอมรับได้สำหรับสารสกัดชาเขียว ดังนั้น การทำเจลของคุณที่ pH 4 จะช่วยให้ทั้ง BHA (สำหรับคุณสมบัติ Comedolytic และการผลัดเซลล์บางส่วน) และสารสกัดชาเขียวทำงานได้ภายในหรือใกล้เคียงช่วงที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ทีมงานยังได้ให้ข้อสังเกตว่าสารสกัดชาเขียวมีสีเข้ม และแนะนำให้พิจารณาส่วนผสมอื่นๆ ในการลดความมัน เช่น Zinc PCA, L-Carnitine, หรือ AcneBee เป็นทางเลือก หากสีเป็นข้อกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในเวลากลางวันค่ะ
หวังว่าคำตอบนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยของคุณนะคะ!
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง

Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
เครื่องสำอาง

Hi-EGCG™ (Green Tea Extract)
เครื่องสำอาง