ข้อเสนอแนะสูตรกันแดดและการลดต้นทุน
คำถาม
ฉันมีสูตรกันแดดสองสูตรและมีคำถามดังนี้ค่ะ:
สูตรกันแดดผิวหน้า:
- SPF Protect Ultra 20%
- Olive oil 5%
- Homosalate 10%
- Light Cream Maker 2%
- Phenoxyethanol 1%
- Water Guard 5%
- น้ำ
ฉันต้องการค่า SPF 40+ และคุณสมบัติกันน้ำ สามารถทำครีมโดยไม่ใส่น้ำมันได้หรือไม่เมื่อใช้สารกันแดดเหล่านี้? ฉันยังรู้สึกว่าเนื้อครีมข้นไปเมื่อใช้ Light Cream Maker 2% ค่ะ
น้ำมันโรสฮิป: การใช้น้ำมันโรสฮิปกับผิวผสมที่ขาดน้ำจะทำให้เกิดสิวอุดตันหรือไม่?
สูตรกันแดดผิวกาย (สูตรใหม่):
- N-Acetyl-D Glucosamine 4%
- Vitamin B3 2.5%
- Lemon Peel Bioferment 2%
- WaterLock 2%
- MoisT 2.5%
- Titanium Dioxide 15%
- Zinc Oxide 15%
- Light Cream Maker 1.5%
- Phenoxyethanol 1%
- Disodium EDTA 0.2%
- Water Guard 5%
- น้ำ
ฉันต้องการให้สูตรนี้กันเหงื่อ ช่วยให้ผิวขาว กระชับ ชุ่มชื้น และมีการกันแดดที่สูงเนื่องจากมีกระจากกรรมพันธุ์ และต้องการทราบวิธีการลดค่าใช้จ่ายในสูตรกันแดดผิวกายนี้ โดยยังคงคุณสมบัติการกันแดดสูง ค่า SPF/PA สูง กันเหงื่อ และบำรุงผิวไว้ได้ค่ะ
คำตอบ
คำแนะนำสำหรับสูตรกันแดด
สูตรกันแดดผิวหน้า
สูตรกันแดดผิวหน้าที่คุณเสนอคือ:
- SPF Protect Ultra 20%
- Olive oil 5%
- Homosalate 10%
- Light Cream Maker 2%
- Phenoxyethanol 1%
- Water Guard 5%
- น้ำ
คุณต้องการค่า SPF 40+ และคุณสมบัติกันน้ำ
สูตรนี้ใช้สารกันแดดในปริมาณสูง (SPF Protect Ultra และ Homosalate) ซึ่งจะให้ค่า SPF ที่สูงมาก และน่าจะเกิน SPF 40+ ตามที่คุณต้องการ การใส่ Water Guard จะช่วยให้สูตรกันน้ำและกันเหงื่อได้ดี
ในส่วนของเนื้อครีม การใช้ Light Cream Maker 2% อาจทำให้เนื้อครีมข้นมาก การลดปริมาณลงเหลือประมาณ 1-1.2% ตามคำแนะนำ จะช่วยให้ได้เนื้อครีมที่บางเบาและเกลี่ยง่ายขึ้น เหมาะสำหรับทาผิวหน้า
คุณถามว่าสามารถทำครีมโดยไม่ใส่น้ำมันได้หรือไม่ สารกันแดดอย่าง SPF Protect Ultra และ Homosalate เป็นสารที่ละลายหรือกระจายตัวได้ดีในน้ำมัน ดังนั้นการทำครีมที่ไม่มีส่วนของน้ำมันเลยจึงเป็นไปได้ยากเมื่อใช้สารกันแดดเหล่านี้ Olive Oil เป็นน้ำมันชนิดหนึ่งที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและปรับปรุงเนื้อสัมผัสของครีม หากคุณรู้สึกว่าทำให้ผิวมันเกินไป สามารถพิจารณาลดปริมาณลง หรือใช้น้ำมันชนิดอื่นที่บางเบากว่าแทนได้ แต่ยังคงต้องมีส่วนของน้ำมันอยู่บ้างสำหรับสารกันแดด
น้ำมันโรสฮิปสำหรับผิวหน้า
คุณถามว่าการใช้น้ำมันโรสฮิปกับผิวผสมที่ขาดน้ำจะทำให้เกิดสิวอุดตันหรือไม่
น้ำมันโรสฮิปมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้นสูง อย่างไรก็ตาม การที่น้ำมันจะอุดตันผิวหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และระดับความสามารถในการอุดตันของน้ำมันชนิดนั้นๆ (comedogenicity) บางคนที่มีผิวผสมหรือมีแนวโน้มเป็นสิวอาจใช้น้ำมันโรสฮิปได้โดยไม่มีปัญหา ในขณะที่บางคนอาจพบว่าทำให้เกิดสิว การทดสอบผลิตภัณฑ์บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วใบหน้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจสอบว่าน้ำมันโรสฮิปเหมาะกับผิวของคุณหรือไม่
สูตรกันแดดผิวกาย (สูตรใหม่)
สูตรกันแดดผิวกายใหม่ของคุณคือ:
- N-Acetyl-D Glucosamine 4%
- Vitamin B3 2.5%
- Lemon Peel Bioferment 2%
- WaterLock 2%
- MoisT 2.5%
- Titanium Dioxide 15%
- Zinc Oxide 15%
- Light Cream Maker 1.5%
- Phenoxyethanol 1%
- Disodium EDTA 0.2%
- Water Guard 5%
- น้ำ
คุณต้องการให้สูตรนี้กันเหงื่อ ช่วยให้ผิวขาว กระชับ ชุ่มชื้น และมีการกันแดดที่สูงเนื่องจากมีกระจากกรรมพันธุ์
สูตรนี้มีส่วนผสมที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดี:
- N-Acetyl-D Glucosamine และ Vitamin B3 เป็นสารที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสและลดจุดด่างดำได้ดีเมื่อใช้ร่วมกัน
- Lemon Peel Bioferment ช่วยเสริมเรื่องความกระจ่างใสและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
- WaterLock และ MoisT (น่าจะเป็นสารให้ความชุ่มชื้น เช่น Trehalose หรือ MOIST72) จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น
- Water Guard ช่วยให้สูตรกันเหงื่อได้ดี
การใช้ Titanium Dioxide 15% และ Zinc Oxide 15% รวมกัน 30% จะให้การป้องกันแสงแดดในวงกว้าง (UVA/UVB) ที่สูงมาก ซึ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่มีปัญหากระ อย่างไรก็ตาม ปริมาณ Titanium Dioxide ที่สูงถึง 15% โดยเฉพาะชนิด 200nm อาจทำให้เกิดคราบขาวบนผิวได้ค่อนข้างมาก ซึ่งอาจเป็นข้อสังเกตสำหรับสูตรที่ใช้ทาในชีวิตประจำวัน (ต่างจากการทาไปว่ายน้ำที่มักยอมรับคราบขาวได้)
การลดค่าใช้จ่ายในสูตรกันแดดผิวกาย
เพื่อลดค่าใช้จ่ายในสูตรกันแดดผิวกาย พร้อมคงคุณสมบัติการกันแดดสูง กันเหงื่อ และบำรุงผิวไว้ได้ สามารถพิจารณาปรับระบบสารกันแดดได้
สารกันแดดแบบ Physical อย่าง Titanium Dioxide และ Zinc Oxide โดยเฉพาะในปริมาณสูง อาจมีราคาสูงและทำให้เกิดคราบขาวได้ วิธีหนึ่งที่นิยมใช้เพื่อให้ได้ค่า SPF/PA สูง โดยลดคราบขาวและอาจลดต้นทุนได้ คือการใช้สารกันแดดแบบ Chemical ร่วมด้วย
แทนที่จะใช้ Titanium Dioxide 15% และ Zinc Oxide 15% คุณอาจลองใช้การผสมผสานดังนี้:
- ลดปริมาณ Zinc Oxide ลง (เช่น 10-15%) เพื่อคงการป้องกัน UVA ที่ดีและมีส่วนช่วย SPF
- ใช้สารกันแดดแบบ Chemical Blend เช่น SPF Protect Ultra หรือ SPF Protect Plus (เช่น 10-20%) เพื่อเพิ่มค่า SPF และการป้องกัน UVA โดยไม่ทำให้เกิดคราบขาวมากนัก SPF Protect Plus อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า SPF Protect Ultra
- อาจเพิ่ม Homosalate (เช่น 5-10%) เพื่อเสริมการป้องกัน UVB และช่วยละลายสารกันแดดชนิดอื่น
วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้ค่า SPF/PA ที่สูง โดยใช้ปริมาณสารกันแดดรวมที่น้อยลงเมื่อเทียบกับการใช้ Physical Filter เพียงอย่างเดียว ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนและปรับปรุงเนื้อสัมผัส/ลักษณะภายนอกของผลิตภัณฑ์ได้
คุณสามารถคงสารบำรุงผิว (N-Acetyl-D Glucosamine, Vitamin B3, Lemon Peel Bioferment, WaterLock, MoisT) ไว้ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เรื่องความกระจ่างใส ความกระชับ และความชุ่มชื้นตามที่คุณต้องการ ปริมาณ Light Cream Maker, Phenoxyethanol, Disodium EDTA และ Water Guard ในสูตรใหม่ดูเหมาะสมกับคุณสมบัติที่ต้องการแล้ว
การปรับเปลี่ยนระบบสารกันแดดตามคำแนะนำนี้จะช่วยให้คุณสร้างสูตรกันแดดผิวกายที่คุ้มค่า มีประสิทธิภาพสูง กันเหงื่อได้ และยังคงคุณสมบัติการบำรุงผิวที่คุณต้องการไว้ได้
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Olive Oil (Extra Virgin)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Light Cream Maker™

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Disodium EDTA

TreMoisture™ (Trehalose)

Lemon Peel Bioferment (Lemon Skin™)

Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™

WaterLock™ (Polyquaternium-51)

Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)

Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum

Homosalate

Coenzyme Q10 (98%, Powder, Oil-Soluble)

SPF Protect Ultra™ II

WaterGuard™ Spray

Rose Hip Oil (Virgin, Fresh)
