ข้อเสนอแนะสูตรไนท์ครีม: เนื้อสัมผัสและความเหมาะสมกับผิวแห้ง
คำถาม
ฉันได้พัฒนาสูตรไนท์ครีมสำหรับผิวแห้งขาดน้ำ โดยเน้นการลดริ้วรอย ยกกระชับ และผิวขาวใส สูตรมีส่วนผสมออกฤทธิ์ดังนี้:
- Tranexamic Acid
- Yeast Radiance
- Safe-B3
- GlucoBright
- Acetyl Hexapeptide-8
- Pep-Coll
- Pitera
- Snow Algae
- Avocado Oil
- Phospholipid
- Water-Film (3%)
- L-Carnosine
- Laurocapram (2%)
ปัญหาที่พบคือ เนื้อครีมที่ได้มีความเหนียวเหนอะหนะและหนักผิว ซึ่งไม่น่าใช้ ฉันไม่แน่ใจว่าสูตรนี้ให้ความชุ่มชื้นเพียงพอสำหรับผิวแห้งหรือไม่
ขอคำแนะนำสำหรับสูตรนี้ด้วยค่ะ:
- เหตุใดเนื้อสูตรจึงเหนียวเหนอะหนะ และมีวิธีปรับปรุงอย่างไร?
- ควรปรับสูตรอย่างไรให้เหมาะกับผิวแห้งและให้ความชุ่มชื้นมากขึ้น?
- มีคำแนะนำการใช้ส่วนผสมเฉพาะอย่าง Water-Film (โดยเฉพาะเรื่องการเกิดขุย) และ L-Carnosine (การซึมสู่ผิว) เพิ่มเติมหรือไม่?
- มีข้อเสนอแนะอื่นๆ ในการปรับปรุงสูตรนี้อีกหรือไม่?
คำตอบ
ข้อเสนอแนะสำหรับสูตรไนท์ครีมสำหรับผิวแห้งของคุณ
ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรไนท์ครีมสำหรับผิวแห้งขาดน้ำ ที่เน้นการลดริ้วรอย ยกกระชับ และผิวขาวใสค่ะ
สูตรของคุณมีการเลือกใช้ส่วนผสมออกฤทธิ์ที่หลากหลายและมีประโยชน์สำหรับปัญหาผิวที่คุณกล่าวมา เช่น Tranexamic Acid, Yeast Radiance, Safe-B3, GlucoBright, เปปไทด์ต่างๆ (Acetyl Hexapeptide-8, Pep-Coll), Pitera และ Snow Algae ส่วนผสมเหล่านี้คัดเลือกมาได้ดีเพื่อจัดการกับปัญหาผิวของคุณค่ะ
จากสูตรที่คุณให้มาและข้อเสนอแนะเดิม มีบางประเด็นที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ
- ปริมาณส่วนผสมและเนื้อสัมผัส: สูตรของคุณมีส่วนผสมออกฤทธิ์ในความเข้มข้นค่อนข้างสูง แม้ว่าจะมีประโยชน์ แต่การใส่ส่วนผสมออกฤทธิ์จำนวนมากเช่นนี้อาจทำให้เนื้อสูตรเหนียวเหนอะหนะได้ ดังที่ได้มีข้อเสนอแนะไปก่อนหน้านี้ สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าเบสของสูตรโดยรวมสามารถรองรับปริมาณส่วนผสมเหล่านี้ได้ โดยยังคงเนื้อสัมผัสที่น่าใช้และเหมาะสำหรับไนท์ครีม
- ความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้ง: สำหรับผิวแห้งขาดน้ำ การเพิ่มส่วนของน้ำมัน (oil phase) หรือเพิ่มสารให้ความนุ่มลื่น (emollients) มักจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความรู้สึกสบายผิวได้ดีขึ้น สูตรของคุณมี Avocado Oil และ Phospholipid แต่คุณอาจพิจารณาเพิ่มเปอร์เซ็นต์ของ Avocado Oil หรือเพิ่มน้ำมันบำรุงผิวอื่นๆ หรือบัตเตอร์ที่เหมาะสำหรับไนท์ครีม เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของผิวแห้งมากขึ้น เปอร์เซ็นต์ที่หายไปในสูตรของคุณ (8%) น่าจะเป็นส่วนของเบส ซึ่งควรปรับให้เหมาะสมกับผิวแห้งค่ะ
- การใช้ Water Film: คำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับ Water Film ระบุว่าควรใช้ร่วมกับ Glycerin หรือ MOIST24 ในความเข้มข้นอย่างน้อย 1.5 เท่าของปริมาณ Water Film เพื่อป้องกันการเกิดขุยและให้ประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากคุณใช้ Water Film 3% คุณจะต้องใช้ Glycerin หรือ MOIST24 อย่างน้อย 4.5% การเพิ่ม Glycerin ในสูตรของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้ Water Film ทำงานได้อย่างถูกต้องและให้ความชุ่มชื้นสูงสุดโดยไม่ทำให้เกิดขุย
- การนำพา L-Carnosine: คำอธิบายสำหรับ L-Carnosine แนะนำให้ใช้สารนำพา เช่น Laurocapram, Butylene Glycol หรือ Ethoxydiglycol ที่ประมาณ 3% เพื่อช่วยให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น คุณได้ใส่ Laurocapram 2% ซึ่งช่วยได้ระดับหนึ่ง การเพิ่ม Glycerin ตามคำแนะนำสำหรับ Water Film ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นโดยรวมและอาจช่วยในการนำพาส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ดีอย่าง L-Carnosine ด้วย
โดยสรุป การเลือกส่วนผสมออกฤทธิ์ของคุณยอดเยี่ยมมากสำหรับการดูแลเรื่องริ้วรอย ความกระชับ และความกระจ่างใส อย่างไรก็ตาม เพื่อปรับปรุงสูตรให้เหมาะสมที่สุดสำหรับผิวแห้งขาดน้ำและให้เนื้อสัมผัสที่ดี ควรพิจารณาปรับปริมาณส่วนผสมโดยรวม เพิ่มส่วนของน้ำมัน/สารให้ความนุ่มลื่น และที่สำคัญคือเพิ่ม Glycerin เพื่อสนับสนุนการทำงานของ Water Film และเพิ่มความชุ่มชื้นโดยรวมค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Avocado Oil (Refined)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Glycerin (USP/Food Grade)

Pro Polymer™ (Gel Maker)

Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)

Rice Vitamin (Inositol, Vitamin B8)

Dipalmitoyl Hydroxyproline (DPHP)

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

Water-Film™ (Galactoarabinan)

Tranexamic Acid (Trans-White™)

Snow Algae

Yeast Radiance™

L-Carnosine

Laurocapram (Water Soluble)
