ความเข้ากันได้ของวิตามินซีและไนอะซินาไมด์: ค่า pH, อนุพันธ์, และความเสถียร
คำถาม
จากการวิจัยล่าสุด ฉันต้องการทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิตามินซีและไนอะซินาไมด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ว่า L-Ascorbic Acid
ไม่ควรใช้ร่วมกับ Niacinamide
แต่สามารถลงเป็นเลเยอร์ได้ หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีอนุพันธ์วิตามินซีที่อยู่ในค่า pH กลาง ซึ่งหลายแบรนด์ได้รวม VitC
กับ Niacinamide
เข้าด้วยกันตามข้อมูลที่วิจัยมานี้ สามารถทำได้จริงใช่หรือไม่?
- ค่า
pH
กลางที่ว่านั้นคือเท่าไหร่? - การรวมกันนี้จะมีผลทำให้ความเสถียรของตัวใดตัวหนึ่งเปลี่ยนไปในระยะยาวหรือไม่?
- และมีวิธีใดบ้างที่จะช่วยคงความเสถียรของสูตรไว้ได้?
คำตอบ
ในเรื่องความเข้ากันได้ของวิตามินซีและไนอะซินาไมด์ ข้อมูลที่คุณวิจัยมานั้นถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ค่ะ นี่คือข้อเท็จจริงจากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านการคิดค้นสูตร:
ความเข้ากันได้ของวิตามินซี (L-Ascorbic Acid) และไนอะซินาไมด์
ในอดีต มีคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการรวม L-Ascorbic Acid กับ Niacinamide ในสูตรเดียวกัน เนื่องจากมีข้อกังวลหลักสองประการ:
- ค่า pH ที่ไม่ตรงกัน: L-Ascorbic Acid ต้องการค่า pH ที่เป็นกรดสูง (โดยทั่วไปคือ 2.0-4.0) เพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพ ในขณะที่ Niacinamide แม้จะเสถียรในช่วงที่กว้างกว่า (ค่า pH ที่เหมาะสมคือ 4.0-7.0) แต่ก็สามารถเปลี่ยนเป็นกรดนิโคตินิก (ซึ่งทำให้เกิดอาการหน้าแดงและระคายเคือง) ได้ที่ค่า pH ที่ต่ำมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัมผัสกับความร้อน
- การเสื่อมสภาพ: ที่ค่า pH ที่สูงขึ้น L-Ascorbic Acid จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันอย่างรวดเร็วและสูญเสียประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม วิทยาศาสตร์เครื่องสำอางสมัยใหม่ได้ค้นพบวิธีที่จะรวมส่วนผสมเหล่านี้เข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การลงเป็นเลเยอร์และอนุพันธ์วิตามินซีที่มีค่า pH กลาง
- การลงเป็นเลเยอร์: การทาผลิตภัณฑ์ที่มี L-Ascorbic Acid และ Niacinamide แยกกันเป็นเลเยอร์สามารถลดการทำปฏิกิริยาโดยตรงได้ แต่ก็ไม่ได้กำจัดโอกาสที่ค่า pH บนผิวจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์
อนุพันธ์วิตามินซีที่ค่า pH "กลาง": สิ่งสำคัญคือการใช้อนุพันธ์วิตามินซีที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพในช่วงค่า pH ที่ "กลาง" ซึ่งเข้ากันได้กับ Niacinamide
ค่า pH "กลาง" คือเท่าไหร่? สำหรับ Niacinamide ค่า pH ที่เหมาะสมคือ 4.0-7.0 สำหรับอนุพันธ์วิตามินซีที่เข้ากันได้กับ Niacinamide ค่า pH "กลาง" โดยทั่วไปจะหมายถึงช่วงที่ส่วนผสมทั้งสองสามารถคงความเสถียรได้ จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ของเรา ช่วงค่า pH ที่เหมาะสมคือ 7.0-8.0
คำแนะนำของเราสำหรับการรวมกัน:
แม้ว่าอนุพันธ์วิตามินซีบางชนิดที่มีความเสถียร เช่น Ethyl Ascorbic Acid, Ascorbyl Glucoside (AA-2G) และ Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) จะเสถียรที่ค่า pH ที่เป็นกลางถึงกรดเล็กน้อย แต่แนวทางผลิตภัณฑ์ของเราแนะนำ ไม่ให้ ใช้ร่วมกับวิตามินบี 3 (Niacinamide) ในสูตรเดียวกัน เพื่อให้มั่นใจถึงความเสถียรและประสิทธิภาพสูงสุดอย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำ Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) และ Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการรวมกับ Niacinamide อนุพันธ์เหล่านี้มีความเสถียรสูงและทำงานได้ดีที่สุดในช่วงค่า pH 7.0-9.0 (โดย 7.0-8.0 เป็นค่าที่เหมาะสมที่สุด) ซึ่งทับซ้อนกับช่วงค่า pH ที่ Niacinamide เสถียรพอดี และไม่มีข้อมูลระบุความไม่เข้ากันกับ Niacinamide ในข้อมูลผลิตภัณฑ์ของเรา
ผลกระทบต่อความเสถียรในระยะยาวและการคงสภาพ
ใช่ค่ะ ความเสถียรในระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจถึงความเสถียรและประสิทธิภาพของทั้งอนุพันธ์วิตามินซีและไนอะซินาไมด์ในสูตรที่รวมกัน:
- การควบคุมค่า pH ที่แม่นยำ: นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่สุด สำหรับสูตรที่รวม Niacinamide กับ Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) หรือ Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP การรักษาค่า pH ของสูตรให้อยู่ระหว่าง 7.0 ถึง 8.0 เป็นสิ่งจำเป็น
- บรรจุภัณฑ์: ใช้บรรจุภัณฑ์ทึบแสงและปิดสนิท (เช่น ขวดปั๊ม, หลอด) เพื่อลดการสัมผัสกับแสงและออกซิเจน ซึ่งอาจทำให้ส่วนผสมทั้งสองเสื่อมสภาพได้
- สารต้านอนุมูลอิสระและสารคีเลต: การเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ (เช่น วิตามินอี) และสารคีเลต (เช่น Disodium EDTA) สามารถช่วยปกป้องส่วนผสมจากการออกซิเดชันที่เกิดจากไอออนของโลหะในสูตรได้ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของเราสำหรับ L-Ascorbic Acid, Perfect-C™, Ethyl Ascorbic Acid, Magnesium Ascorbyl Phosphate และ Sodium Ascorbyl Phosphate ล้วนแนะนำให้ใช้ Disodium EDTA
- สภาพการจัดเก็บ: เก็บผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในที่เย็นและมืด ห่างจากแสงแดดโดยตรงและความร้อน การเก็บในตู้เย็นมักถูกแนะนำเพื่อความเสถียรในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ L-Ascorbic Acid และอนุพันธ์บางชนิด
ด้วยการเลือกอนุพันธ์วิตามินซีที่เหมาะสม และการควบคุมค่า pH ของสูตรและสภาพการจัดเก็บอย่างพิถีพิถัน จึงเป็นไปได้ที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่เสถียรและมีประสิทธิภาพที่รวมวิตามินซีและไนอะซินาไมด์เข้าด้วยกันได้จริงค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)

Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)

Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Standard)
