จากส่วนผสมและวิธีการผสมที่เสนอมา สูตรนี้มีปัญหาความเข้ากันได้ของส่วนผสมอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วน C

นี่คือรายละเอียดของปัญหา:

ปัญหาความเข้ากันได้ในสูตร

ปัญหาหลักอยู่ที่การรวม กรดมะนาว และ เกลือแป้ง (โซเดียมคลอไรด์) ในส่วน C เข้ากับเบสที่มี เกล็ดสบู่ (ซึ่งเป็นส่วนผสมที่เป็นด่าง) จากส่วน A

• ปฏิกิริยาระหว่างกรดมะนาวและเกล็ดสบู่: สบู่ทำมาจากกรดไขมันและด่าง เมื่อเติมกรด เช่น กรดมะนาว ลงในสบู่ จะเกิดปฏิกิริยาเคมี (การสะเทิน) ซึ่งจะสลายสบู่ให้กลายเป็นกรดไขมันอิสระและเกลือ ทำให้ค่า pH ของส่วนผสมลดลงอย่างมาก กระบวนการนี้จะทำลายคุณสมบัติการเป็นอิมัลซิไฟเออร์ของเกล็ดสบู่ และมีแนวโน้มสูงที่จะทำให้อิมัลชันที่เกิดจากส่วนของน้ำและน้ำมัน (ส่วน A และ B) แยกชั้นกัน
• ความเข้มข้นของเกลือสูง: ความเข้มข้นของเกลือ (โซเดียมคลอไรด์) ที่สูงมากถึง 45% ในระบบที่มีสารลดแรงตึงผิว อาจทำให้เกิดความไม่เสถียร หรือที่เรียกว่า "Salting Out" ซึ่งทำให้สารลดแรงตึงผิวละลายได้น้อยลงและมีประสิทธิภาพลดลง แม้ว่าเกลือจะถูกใช้เป็นสารขัดผิวในสครับ แต่เปอร์เซ็นต์ที่สูงมากนี้ เมื่อรวมกับปฏิกิริยากรด-สบู่ จะยิ่งทำให้สูตรโดยรวมไม่เสถียร
• ลำดับการผสม: การเติมส่วน C (ซึ่งมีกรดและเกลือ) หลังจากผสมส่วน A และ B (ซึ่งเป็นเบสอิมัลชันที่มีสบู่) เป็นการนำส่วนผสมที่ไม่เข้ากันมาผสมในระบบที่สร้างขึ้นแล้วโดยตรง ซึ่งรับประกันได้ว่าจะเกิดความไม่เสถียรและการแยกชั้น

ส่วนผสมอื่นๆ เช่น เชียบัตเตอร์, เซทิล แอลกอฮอล์, กลีเซอรีน, น้ำมันมิเนอรัล, โพรพิลีน ไกลคอล, น้ำมันเมล็ดองุ่น, น้ำมันอะโวคาโด, อิมัลลิแอนท์ O5 (โอเลธ-5), ผงสมุนไพรชาเขียว, ดินสอพองสะตุ, สารกันเสียฟีน็อกซ์ (ฟีน็อกซีเอทานอล) และน้ำหอม โดยทั่วไปแล้วเข้ากันได้ดีในสูตรที่เหมาะสม แต่ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับสบู่ ซึ่งรุนแรงขึ้นจากปริมาณเกลือที่สูง จะทำให้สูตรโดยรวมไม่เสถียรและล้มเหลว

ดังนั้น สูตรนี้ตามที่เขียนมาจึงไม่เข้ากันและมีแนวโน้มสูงที่จะได้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เสถียร มีการแยกชั้นและประสิทธิภาพไม่ดี