ความเข้ากันได้ของส่วนผสมในสูตรเจลสำหรับผิวเป็นสิว/ผิวมัน

ถามโดย: plutopon.ntk เมื่อ: February 08, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการพัฒนาสูตรเจลโดยใช้เบสเจลว่านหางจระเข้ โดยมีส่วนผสมดังนี้ ส่วนผสมเหล่านี้เข้ากันได้หรือไม่ และมีข้อควรพิจารณาในการขึ้นสูตรอย่างไรบ้าง?

  • Vitamin B3 (Niacinamide) 10%
  • Vitamin B5 (Panthenol) 5%
  • Centella Asiatica Extract 5%
  • Green Tea Extract 5%
  • Copper Peptide (GHK-Cu) 3%
  • Propylene Glycol 2%
  • Zinc PCA 1%

สูตรนี้เน้นดูแลปัญหาสิว ความมัน ความชุ่มชื้น และการฟื้นฟูผิว อยากทราบข้อควรพิจารณาหลักในการพัฒนาสูตร ความเสถียร ขั้นตอนการผสม และการใช้งาน

คำตอบ

ส่วนผสมที่คุณแจ้งมาโดยรวมถือว่าเข้ากันได้ดีในเบสเจลว่านหางจระเข้ครับ ส่วนผสมเหล่านี้เป็นที่นิยมใช้ร่วมกันในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อดูแลปัญหาต่างๆ เช่น สิว ความมัน ความชุ่มชื้น และการฟื้นฟูผิว

  • Vitamin B3 (Niacinamide) 10%: สำหรับข้อกังวลเรื่องความเข้มข้น 10% นั้น แม้ว่า 5% จะเป็นความเข้มข้นที่นิยมใช้และมักไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง แต่ Niacinamide สามารถใช้ได้ถึง 10% โดยเฉพาะเกรดที่มีความบริสุทธิ์สูง เช่น Safe-B3™ หรือ Extreme-B3™ ซึ่งถูกพัฒนามาเพื่อลดอาการร้อนแดง (Flushing) ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ความเข้มข้นสูง อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของผิวแต่ละบุคคลแตกต่างกัน การทดสอบกับผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก Niacinamide ละลายน้ำได้ดีและเข้ากันได้กับช่วง pH ทั่วไปในสูตรนี้
  • Vitamin B5 (Panthenol) 5%: Panthenol เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ดี ช่วยปลอบประโลมผิว ละลายน้ำได้และเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ ที่ความเข้มข้น 5% ช่วยให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเข้มข้นที่สูงกว่านี้อาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะได้บ้าง ขึ้นอยู่กับสูตรโดยรวม
  • Centella Asiatica Extract 5%: สารสกัดใบบัวบก หรือ CICA มีคุณสมบัติเด่นในการปลอบประโลม ลดการอักเสบ และช่วยเรื่องการสมานแผล ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผิวที่เป็นสิว ลดรอยแดง หรือรอยแผลเป็น ความสามารถในการละลายขึ้นอยู่กับชนิดของสารสกัดที่ใช้ (เช่น Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%) หรือ Pure-TECA™) บางชนิดละลายน้ำได้ง่าย แต่บางชนิดอย่าง TECA ไม่ละลายทั้งในน้ำและน้ำมัน แต่สามารถกระจายตัวหรือละลายในไกลคอล (เช่น Propylene Glycol ในสูตรของคุณ) โดยใช้ความร้อน ความเข้มข้น 5% อาจสูงเกินไปสำหรับความสามารถในการละลายของสารสกัดบางชนิด ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการกระจายตัวได้หากไม่ได้จัดการอย่างเหมาะสม
  • Green Tea Extract 5%: สารสกัดชาเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น EGCG (Hi-EGCG™ หรือ Pure-EGCG™) ช่วยต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยลดความมัน มักจะละลายน้ำได้ สารสกัดบางชนิดไวต่อความร้อนและแสง ควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายเมื่อสูตรเย็นลง (ต่ำกว่า 40°C)
  • Copper Peptide (GHK-Cu) 3%: Copper Peptide มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิวและสมานแผลเป็น อาจช่วยเรื่องรอยสิวและปรับปรุงสภาพผิว ละลายน้ำได้ดีและควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C เพื่อรักษาความเสถียร อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ Copper Peptide (GHK-Cu, 1000ppm Solution) คือ 1-3% ดังนั้น 3% อยู่ในขอบเขตที่แนะนำสำหรับชนิดสารละลาย แต่หากใช้ชนิดผง (Copper Peptide (GHK-Cu Copper Tripeptide-1, 1:1) Powder) อัตราการใช้ที่แนะนำจะต่ำกว่ามาก (0.01-1%) ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้ชนิดที่เหมาะสมกับความเข้มข้น 3% Copper Peptide ไวต่อ pH ที่ต่ำเกินไปและสารคีเลตบางชนิด เช่น Disodium EDTA (ซึ่งไม่ได้อยู่ในรายการส่วนผสมของคุณ จึงไม่น่ามีปัญหา) ช่วง pH ที่เหมาะสมมักจะอยู่ที่ 4.5-7.4
  • Propylene Glycol 2%: เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและตัวทำละลายทั่วไป ช่วยละลายหรือกระจายส่วนผสมอื่นๆ และเพิ่มความชุ่มชื้น เข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ
  • Zinc PCA 1%: Zinc PCA มีประสิทธิภาพในการลดความมันและมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย เหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิว ละลายน้ำได้ดี และความเข้มข้น 1% อยู่ในอัตราการใช้ทั่วไปสำหรับการควบคุมความมัน ละลายได้ดีที่สุดในช่วง pH 4-6

สรุป:

ส่วนผสมในสูตรของคุณโดยทั่วไปเข้ากันได้ดีทั้งทางเคมีและคุณสมบัติการทำงานสำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อเจลที่เน้นดูแลปัญหาสิว ความมัน และการฟื้นฟูผิว ข้อควรพิจารณาหลักคือ:

  1. ความเข้มข้นของ Niacinamide: แม้ 10% จะใช้ได้ โดยเฉพาะเกรดบริสุทธิ์สูง ควรทดสอบกับผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนเสมอ เนื่องจากอาจเกิดการระคายเคืองได้
  2. ความสามารถในการละลายของ Centella Asiatica Extract: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารสกัดใบบัวบกชนิดที่คุณใช้สามารถละลายหรือกระจายตัวได้ที่ความเข้มข้น 5% ในเบสเจลของคุณ โดยอาจใช้ Propylene Glycol ช่วย
  3. ความเข้มข้นของ Copper Peptide: ยืนยันว่า Copper Peptide ชนิดที่ใช้เหมาะสมกับความเข้มข้น 3% (เช่น ชนิดสารละลาย)
  4. ขั้นตอนการผสม: เติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน เช่น Copper Peptide และ Green Tea Extract ในขั้นตอนสุดท้ายเมื่อสูตรเย็นลง (ต่ำกว่า 40°C)
  5. ค่า pH: ปรับค่า pH สุดท้ายให้อยู่ในช่วงที่เข้ากันได้กับส่วนผสมทั้งหมด โดยเฉพาะ Copper Peptide ซึ่งควรอยู่ในช่วง 4.5-7.4 และ Zinc PCA ที่ละลายได้ดีในช่วง 4-6
  6. การทดสอบกับผิว: ควรทดสอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปกับผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วหน้าเสมอ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
Zinc PCA
Zinc PCA
เครื่องสำอาง
Hi-EGCG™ (Green Tea Extract)
Hi-EGCG™ (Green Tea Extract)
เครื่องสำอาง
Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)
Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)
เครื่องสำอาง
Copper Peptide (GHK-Cu Copper Tripeptide-1, 1:1) Powder
Copper Peptide (GHK-Cu Copper Tripeptide-1, 1:1) Powder
เครื่องสำอาง
Pure-EGCG™ (Green Tea Extract, 98% EGCG)
Pure-EGCG™ (Green Tea Extract, 98% EGCG)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)
เครื่องสำอาง
D-Panthenol Care (Pro-Vitamin B5, 100% Liquid)
D-Panthenol Care (Pro-Vitamin B5, 100% Liquid)
เครื่องสำอาง
Pure-TECA™ Centella Asiatica Extract (TECA 95%, CICA)
Pure-TECA™ Centella Asiatica Extract (TECA 95%, CICA)
เครื่องสำอาง
Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity)
Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity)
เครื่องสำอาง