ความเข้ากันได้ของ EDTA และความคงตัวของสี

จากรายการส่วนประกอบที่คุณแจ้งมาและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนประกอบเหล่านั้น:

EDTA (Disodium EDTA) ทำหน้าที่เป็นสารคีเลต (chelating agent) ซึ่งจะจับกับไอออนของโลหะที่อาจทำให้เกิดความไม่เสถียรและการเปลี่ยนสีในสูตรเครื่องสำอาง

1. ผลกระทบต่อ Z-White™ และส่วนประกอบอื่นๆ: โดยทั่วไปแล้ว การเติม EDTA จะช่วยเพิ่มความเสถียรโดยรวมของสูตร แม้ว่า Z-White™ (Zinc Glycinate) จะมีสังกะสีอยู่ แต่บทบาทของ EDTA คือการจับกับไอออนของโลหะอื่นๆ ที่อาจปนเปื้อนมาในน้ำหรือวัตถุดิบ เพื่อป้องกันไม่ให้ไอออนเหล่านี้รบกวนส่วนประกอบที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลง ข้อมูลที่ได้มาไม่ได้บ่งชี้ว่า EDTA มีผลกระทบเชิงลบต่อ Z-White™ ในทางตรงกันข้าม EDTA ช่วยปกป้องส่วนประกอบที่ไวต่อการเสื่อมสภาพจากไอออนของโลหะ ข้อมูลของ Sym-White™ (Phenylethyl Resorcinol) ยังระบุชัดเจนว่า Disodium EDTA ช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับ Sym-White™
2. ส่วนประกอบอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ: จากคำอธิบายที่ได้รับ Sym-White™ (Phenylethyl Resorcinol) เป็นส่วนประกอบที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าได้รับประโยชน์จากการเติม Disodium EDTA เพื่อเพิ่มความเสถียร ส่วนประกอบอื่นๆ ที่เหลือไม่ได้ระบุว่ามีปฏิกิริยาเชิงลบกับ EDTA
3. ส่วนประกอบที่สีมีแนวโน้มเปลี่ยนง่ายหากไม่ใส่ EDTA: Dipotassium Glycyrrhizate เป็นส่วนประกอบที่ทราบกันดีว่าไวต่อการเกิดออกซิเดชัน ซึ่งอาจทำให้สีเปลี่ยนไปได้ แนะนำให้ใช้ร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ActiveProtec™ OX เพื่อช่วยรักษาความเสถียรของสี Sym-White™ (Phenylethyl Resorcinol) ก็ต้องการความเสถียรที่ดี รวมถึงการใช้ EDTA และอาจไวต่อส่วนประกอบบางอย่าง (เช่น กรดอะมิโน ยูเรีย หรือโปรตีน) ซึ่งอาจทำให้เกิดสีเหลืองหรือการแยกชั้นได้

ดังนั้น การใส่ EDTA ในสูตรของคุณจึงเป็นแนวทางที่ดีในการเพิ่มความเสถียรและป้องกันการเปลี่ยนสีที่อาจเกิดขึ้นกับส่วนประกอบที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลง เช่น Sym-White™ และช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับส่วนประกอบอื่นๆ เช่น Dipotassium Glycyrrhizate ได้ แม้ว่า Dipotassium Glycyrrhizate จะต้องการสารต้านอนุมูลอิสระเฉพาะเพื่อป้องกันการเกิดออกซิเดชันก็ตาม