ความเข้ากันได้ของ Glycolic Acid, Niacinamide, Sodium Lactate ในเจลอาบน้ำ และปัญหาฟองน้อย

ถามโดย: insawang.ch เมื่อ: May 05, 2018 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการทำเจลอาบน้ำที่มีส่วนผสมของ Glycolic Acid (Glycopure), Vitamin B3 (Safe-B3), และ Sodium Lactate

พบว่าเมื่อใส่ Glycolic Acid แล้วฟองน้อยลง

  • อยากทราบความเข้ากันได้ของ Glycolic Acid, Vitamin B3, และ Sodium Lactate ในเบสเจลอาบน้ำ
  • ทำไมใส่ Glycolic Acid แล้วฟองน้อยลง
  • มีวิธีเพิ่มฟองในสูตรนี้หรือไม่

คำตอบ

ความเข้ากันได้ของส่วนผสมและการเกิดฟองในเจลอาบน้ำ

สำหรับการผสม Glycolic Acid, Vitamin B3 (Niacinamide) และ Sodium Lactate ในเบสเจลอาบน้ำ มีข้อควรพิจารณาเรื่องความเข้ากันได้เป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับค่า pH:

  • Glycolic Acid (Glycopure) เป็นกรด AHA ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่ค่า pH ต่ำ โดยทั่วไปควรต่ำกว่า 4.0 (และต่ำกว่า 3.5 สำหรับผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคตามข้อกำหนดของ FDA เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด) หน้าที่หลักคือช่วยผลัดเซลล์ผิว
  • Vitamin B3 (Safe-B3) (Niacinamide) โดยทั่วไปมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพในช่วง pH 4.0-7.0 ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยแดง และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
  • Sodium Lactate เป็นเกลือของ Lactic Acid ทำหน้าที่เป็น Humectant (ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น) และเป็นสารปรับสมดุลค่า pH มีความเป็นด่างอ่อนๆ และจะทำให้ค่า pH ของสูตรสูงขึ้น

การผสม Glycolic Acid กับ Sodium Lactate มีปัญหา เนื่องจาก Sodium Lactate จะเพิ่มค่า pH ซึ่งจะลดประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวของ Glycolic Acid ลงอย่างมาก เพราะ Glycolic Acid ต้องการสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดจึงจะทำงานได้อย่างเหมาะสม แม้ว่าช่วง pH ที่เหมาะสมของ Niacinamide (4-7) จะทับซ้อนกับค่า pH ที่สูงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยากที่จะหาค่า pH เดียวที่ส่วนผสมทั้งสามจะมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคงประสิทธิภาพการผลัดเซลล์ผิวของ Glycolic Acid

ส่วนผสมเหล่านี้ไม่ได้ขัดขวางการทำงานของกันและกันโดยตรงในเชิงเคมี แต่ความขัดแย้งเรื่องค่า pH ทำให้ Glycolic Acid ทำงานได้ไม่เต็มที่เมื่อผสมกับส่วนผสมที่มีความเป็นด่างอย่าง Sodium Lactate

เพื่อให้ผิวแลดูกระจ่างใสและเรียบเนียน ควรพิจารณาเป้าหมายหลักของสูตรของคุณ:

  1. เน้นการผลัดเซลล์ผิว (ความเรียบเนียน) ด้วย Glycolic Acid: หากเป้าหมายหลักของคุณคือการผลัดเซลล์ผิวและความเรียบเนียนโดยใช้ Glycolic Acid (Glycopure) ค่า pH ของสูตรจะต้องถูกควบคุมให้ต่ำ (ต่ำกว่า 4.0) ในกรณีนี้ Sodium Lactate ไม่เหมาะที่จะใช้ร่วมด้วยเพราะจะทำให้ค่า pH สูงขึ้น สำหรับการทำให้ผิวกระจ่างใสในสูตรที่มี pH ต่ำ คุณอาจพิจารณาส่วนผสมอื่นๆ ที่เข้ากันได้กับสภาพที่เป็นกรดได้ แต่สารที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสยอดนิยมหลายชนิด เช่น Ascorbyl Glucoside (เสถียรที่ pH 6.5-6.8) หรือ Alpha Arbutin (pH ที่เหมาะสม 3.5-6.5) มีช่วง pH ที่เหมาะสมซึ่งทับซ้อนได้ยากกับ pH ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Glycolic Acid

  2. เน้นความกระจ่างใสและเกราะป้องกันผิวด้วย Niacinamide: หากคุณเน้นประโยชน์ของ Niacinamide (Safe-B3) ในการทำให้ผิวกระจ่างใสและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว คุณจะต้องกำหนดสูตรให้อยู่ในช่วง pH ที่เสถียรคือ 4.0-7.0 Glycolic Acid จะมีประสิทธิภาพน้อยลงมากที่ pH นี้ สำหรับการผลัดเซลล์ผิว คุณอาจพิจารณาตัวเลือกที่อ่อนโยนกว่า หรือปรับสูตรอย่างมีนัยสำคัญ

ส่วนปัญหาฟองน้อยลงเมื่อเติม Glycolic Acid เป็นเรื่องที่คาดได้ เนื่องจากกรดอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของสารลดแรงตึงผิวได้ ในการเพิ่มฟองในเจลอาบน้ำที่มีสภาพเป็นกรดหรือกรดอ่อนๆ คุณต้องใช้สารก่อฟองที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพที่ค่า pH ต่ำลง สารก่อฟองบางชนิดที่เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ได้แก่:

  • Creamy Foamer (Sodium Methyl Cocoyl Taurate): ให้ฟองที่นุ่มและละเอียด ทำงานได้ดีที่สุดที่ pH 6.3 ซึ่งอาจสูงเกินไปสำหรับประสิทธิภาพสูงสุดของ Glycolic Acid แต่สามารถใช้ได้กับ Niacinamide
  • IseFoam (Sodium Lauroyl Methyl Isethionate): เป็นสารทำความสะอาดที่อ่อนโยนและให้ฟองได้ดี ความเข้ากันได้กับ pH ของสูตรเฉพาะของคุณต้องได้รับการทดสอบ
  • SulFoam (Disodium Laureth Sulfosuccinate): เป็นสารทำความสะอาดที่อ่อนโยนมาก โดยมีช่วง pH 5.5-6.5 ซึ่งค่อนข้างใกล้เคียงกับค่ากลาง แต่ก็ยังสูงกว่า pH ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Glycolic Acid

เมื่อเลือกสารก่อฟอง ควรตรวจสอบช่วง pH ที่แนะนำและทดสอบประสิทธิภาพและความเสถียรในค่า pH ของสูตรที่คุณต้องการเสมอ คุณอาจต้องทดลองใช้สารก่อฟองที่แตกต่างกันหรือผสมผสานกันเพื่อให้ได้ระดับฟองที่ต้องการที่ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมออกฤทธิ์ที่คุณเลือก

สำหรับผิวที่กระจ่างใสและเรียบเนียน หากคุณเลือกกำหนดสูตรที่ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับ Glycolic Acid, Glycopure มีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิว หากคุณกำหนดสูตรที่ค่า pH ที่สูงขึ้นสำหรับ Niacinamide (Safe-B3) คุณอาจพิจารณา Alpha Arbutin (pH ที่เหมาะสม 3.5-6.5) เป็นสารช่วยให้ผิวกระจ่างใส โดยคำนึงถึงความสมดุลของ pH กับ Niacinamide

Salicylic Acid (BHA) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการผลัดเซลล์ผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปัญหาสิวอุดตัน และมีประสิทธิภาพที่ค่า pH ต่ำ (ต่ำกว่า 4.0) ทำให้สามารถเข้ากันได้กับเจลอาบน้ำผลัดเซลล์ผิวที่มี pH ต่ำได้

สรุปแล้ว การผสมส่วนผสมเหล่านี้ต้องมีการปรับค่า pH อย่างระมัดระวัง และพิจารณาว่าคุณต้องการเน้นประโยชน์ของส่วนผสมออกฤทธิ์ใดในผลิตภัณฑ์แบบ Wash-off ที่จะล้างออก

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)
Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)
Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)
เครื่องสำอาง
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
เครื่องสำอาง
Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
เครื่องสำอาง
Glycopure™ (Glycolic Acid (AHA) 100% Powder)
Glycopure™ (Glycolic Acid (AHA) 100% Powder)
เครื่องสำอาง
IseFoam™ (Sodium Lauroyl Methyl Isethionate)
IseFoam™ (Sodium Lauroyl Methyl Isethionate)
เครื่องสำอาง