ความเข้ากันได้และการปรับเนื้อสัมผัสเซรั่มในเบสเจลไฮยาลูรอนิค
คำถาม
ผู้ใช้ต้องการปรับปรุงสูตรเซรั่มที่ใช้อยู่ (มีส่วนผสมของ Copper Peptide, Glycosaminoglycans, Ectoine, ATP, Niacinamide, Ethylhexylglycerin, Ethoxydiglycol, Laurocapram) โดยนำมาผสมกับ Hyaluronic Acid Gel Base เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและให้ความรู้สึกเคลือบผิวมากขึ้น โดยไม่เหนียวเหนอะหนะหรือเป็นเนื้อครีม จึงสอบถามเกี่ยวกับปัญหาความเข้ากันได้ของส่วนผสมในสูตรเดิมกับเบสเจล HA ความจำเป็นในการเพิ่มสารเพิ่มความหนืด (โดยเฉพาะ Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer) และอัตราส่วนการใช้ รวมถึงอุณหภูมิและความเร็วที่เหมาะสมในการผสม
คำตอบ
หัวข้อ: สอบถามสูตร Gly-Cu-Ec Serum by onc B12 3
ขอบคุณสำหรับคำถามเกี่ยวกับการปรับปรุงสูตร Gly-Cu-Ec Serum โดยใช้ Hyaluronic Acid Gel Base ของทางร้านค่ะ นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณค่ะ
ความเข้ากันได้กับ Hyaluronic Acid Gel Base:
- การนำส่วนผสมตามสูตรเดิมมาผสมลงใน Hyaluronic Acid Gel Base มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาความเข้ากันได้ โดยหลักๆ เกิดจากคุณสมบัติของ Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ที่มีประจุลบ (anionic polymer)
- Copper Peptide (GHK-Cu): ไอออนทองแดง (Cu2+) มีประจุบวก (cationic) ส่วนผสมที่มีประจุบวกสามารถทำปฏิกิริยากับพอลิเมอร์ที่มีประจุลบ เช่น Hyaluronic Acid ซึ่งอาจทำให้เกิดการตกตะกอน ความขุ่น หรือความหนืดลดลงอย่างมาก นี่คือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้มากที่สุด
- Adenosine Triphosphate (ATP): เกลือของ ATP จะนำอิเล็กโทรไลต์เข้ามาในสูตร ความเข้มข้นสูงของอิเล็กโทรไลต์สามารถลดความหนืดของเจล Hyaluronic Acid ได้ โดยไปลดแรงผลักระหว่างประจุบนสายพอลิเมอร์ นี่เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
- Glycosaminoglycans Complex: ขึ้นอยู่กับชนิดของ GAGs ในคอมเพล็กซ์ อาจมีการทำปฏิกิริยาบางอย่างได้ แต่โดยทั่วไปแล้วปัญหามักจะไม่รุนแรงเท่ากับ Copper Peptide
- ส่วนผสมอื่นๆ เช่น Niacinamide, Ethylhexylglycerin, Ethoxydiglycol และ Laurocapram โดยทั่วไปเข้ากันได้ดีกับเบส Hyaluronic Acid หากค่า pH เหมาะสม (โดยทั่วไปคือ 5-7)
- คำแนะนำ: เนื่องจากอาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ โดยเฉพาะกับ Copper Peptide และ ATP จึง แนะนำอย่างยิ่ง ให้ทดลองผสมในปริมาณน้อยๆ ก่อน เพื่อตรวจสอบว่ามีการตกตะกอน ความขุ่น หรือความหนืดเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ ก่อนที่จะผสมในปริมาณมาก
ความจำเป็นในการเติม thickener เพิ่มเติม และการใช้ Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer:
- Hyaluronic Acid Gel Base มีคุณสมบัติในการเพิ่มความหนืดอยู่แล้ว การเติมส่วนผสมจากสูตรเซรั่มเดิม (รวมประมาณ 21%) อาจทำให้ความหนืดเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ซึ่งอาจลดลงได้เนื่องจากผลของอิเล็กโทรไลต์จาก ATP หรือปฏิกิริยาจาก GHK-Cu
- ความจำเป็นในการเติม thickener เพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเนื้อสัมผัสและความหนืดสุดท้ายที่คุณต้องการ เบส Hyaluronic Acid ที่มีอยู่แล้วอาจเพียงพอ หรืออาจต้องการปรับเล็กน้อย
- Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer เป็น thickener/emulsifier ที่เหมาะสมสำหรับระบบนี้ โดยทั่วไปเข้ากันได้ดีกับพอลิเมอร์ที่มีประจุลบ และช่วยเพิ่มความคงตัวของสูตรได้
- อัตราส่วนการใช้: หากคุณตัดสินใจจะเติม thickener ตัวนี้ อัตราส่วนการใช้ทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 0.5% ถึง 3% คุณจะต้องทดลองในช่วงนี้เพื่อให้ได้ความหนืดที่คุณต้องการ โปรดทราบว่าการมีอยู่ของอิเล็กโทรไลต์ (จาก ATP) และปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นกับ GHK-Cu อาจทำให้ประสิทธิภาพในการเพิ่มความหนืดลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการใช้ในเบสน้ำเปล่า
อุณหภูมิและความเร็วในการผสม:
- สูตรนี้โดยทั่วไปสามารถผสมได้ที่ อุณหภูมิห้อง
- ความเร็วในการผสม: ใช้การคนแบบ เบาถึงปานกลาง หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง (high shear mixing) เพราะอาจทำให้สายพอลิเมอร์ของ Hyaluronic Acid เสียหาย ส่งผลให้ความหนืดลดลง การคนเบาๆ ยังช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดฟองอากาศมากเกินไปในเจลด้วย
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ! โปรดอย่าลืมทดลองผสมในปริมาณน้อยๆ ก่อนเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมเข้ากันได้ดีก่อนที่จะทำในปริมาณมากค่ะ