การวิเคราะห์ความเข้ากันได้ของสูตร

จากส่วนผสมที่ให้มา สูตรนี้โดยทั่วไปเข้ากันได้ดี แต่สิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจกับวิธีการผสมและค่า pH

นี่คือรายละเอียดของส่วนผสมและข้อควรพิจารณา:

• Rosa Hybrid Cell Extract (2%): จากการค้นหาของเรา ส่วนผสมเช่น สารสกัดจากกุหลาบกะหล่ำ (Rosa Centifolia) ส่วนใหญ่ใช้เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม และอาจไม่ได้ให้ประสิทธิภาพต่อผิวอย่างมีนัยสำคัญที่ความเข้มข้นนี้ สามารถละลายในน้ำและผสมในส่วนของน้ำได้
• Hyaluronic Acid (1%): เป็นส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นที่พบบ่อย ที่ความเข้มข้น 1% จะช่วยเพิ่มความหนืดและสร้างเนื้อเจลได้อย่างมาก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผง Hyaluronic Acid กระจายตัวและดูดซับน้ำในส่วนของน้ำอย่างสมบูรณ์ การใช้ Hyaluronic Acid ที่มีขนาดโมเลกุลต่างกัน (เช่น ขนาดมาตรฐานและขนาดใหญ่) สามารถให้ความชุ่มชื้นทั้งบนผิวและอาจจะลึกขึ้น อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับแต่ละชนิดมักจะอยู่ที่ 0.1-0.5% ดังนั้น 1% อาจทำให้ได้เนื้อเจลที่ข้นมาก ขึ้นอยู่กับชนิดที่ใช้
• Repair Activator (15%): ส่วนผสมเช่น Repair Activator™ BG หรือ Repair Activator™ WS (Bifida Ferment Lysate) เข้ากันได้กับสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ควรเติมในขั้นตอนสุดท้าย หลีกเลี่ยงความร้อนสูง
• Acetyl Hexapeptide-8 (10%): เปปไทด์นี้ใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอย สามารถละลายในน้ำและควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C ความเข้มข้นที่เสนอ 10% เป็นอัตราการใช้สูงสุดที่แนะนำ (3-10%) ค่า pH ของสูตรสำเร็จควรอยู่ในช่วง 3.5-6.5 เพื่อความคงตัวที่ดีที่สุด
• Japanese Cedar (1%): สารสกัดจาก Japanese Cedar (Cryptomeria Japonica Bud Extract) มักใช้อัตราที่แนะนำคือ 1% ซึ่งตรงกับสูตรของคุณ ควรกระจายตัวในส่วนของน้ำ และค่า pH ควรอยู่ระหว่าง 3.5-6.5
• Saccharomyces Lysate Extract (1%): ส่วนผสมเช่น Dermal Respiratory Factor (Saccharomyces Lysate Extract) ใช้เพื่อคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอย ความเข้มข้น 1% อยู่ในช่วงที่แนะนำ ควรผสมกับส่วนของน้ำและเติมในขั้นตอนสุดท้ายหากสูตรมีการให้ความร้อน
• Ectoine (2%): Ectoine เป็นส่วนผสมที่ช่วยปกป้องและซ่อมแซมผิว ความเข้มข้น 2% เป็นอัตราการใช้สูงสุดที่แนะนำ (0.5-2.0%) สามารถละลายในน้ำและทนความร้อนได้ถึง 80°C แต่โดยทั่วไปแนะนำให้เติมในขั้นตอนสุดท้าย
• DMI (3%): Dimethyl Isosorbide (DMI) เป็นสารช่วยนำพาที่ช่วยให้ส่วนผสมอื่นๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น ความเข้มข้น 3% อยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับวัตถุประสงค์นี้ (1-10% แนะนำ 3% สำหรับการนำพา) สามารถละลายในน้ำและผสมได้หลายขั้นตอน ทนความร้อนได้ถึง 80°C
• Xanthan Gum (1%): Xanthan Gum เป็นสารเพิ่มความหนืด ที่ความเข้มข้น 1% จะสร้างเนื้อเจล ควรกระจายตัวในส่วนของน้ำอย่างทั่วถึง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าดูดซับน้ำเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงการจับตัวเป็นก้อน Xanthan Gum จำเป็นต้องใช้สารกันเสีย
• Probio-Protect (2%): Probio-Protect™ (Lactobacillus Ferment Preservative) ทำหน้าที่เป็นสารกันเสียและให้ความชุ่มชื้น ความเข้มข้น 2% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.5-4.0% แนะนำ 2.0%) ควรละลายในน้ำ หลีกเลี่ยงความร้อน
• H2O (63%): น้ำเป็นส่วนประกอบหลักของสูตร

ข้อควรพิจารณาในการผสม:

1. ผสมน้ำและกระจาย Xanthan Gum ให้ทั่วจนเกิดเนื้อเจล
2. เติม Hyaluronic Acid และตรวจสอบให้แน่ใจว่าละลายและดูดซับน้ำเต็มที่
3. ผสม DMI เข้ากับส่วนของน้ำ
4. เติม Japanese Cedar และ Ectoine
5. ให้ความร้อนกับส่วนผสมเบาๆ หากจำเป็นสำหรับการละลายส่วนผสมอื่นๆ แต่รักษาอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 40°C เมื่อเติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน
6. ในขั้นตอนสุดท้าย เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 40°C ให้เติม Repair Activator, Acetyl Hexapeptide-8, Saccharomyces Lysate Extract, Probio-Protect และ Rosa Hybrid Cell Extract
7. ปรับค่า pH ของสูตรสำเร็จให้อยู่ในช่วง 4.0-5.5 ซึ่งเหมาะสมสำหรับส่วนผสมออกฤทธิ์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ Repair Activator

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้วิธีการผสมที่เหมาะสมเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายและกระจายตัวอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะผงต่างๆ เช่น Hyaluronic Acid และ Xanthan Gum

สูตรนี้เป็นการผสมผสานส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านริ้วรอย ให้ความชุ่มชื้น และปกป้องผิวหลายชนิด ด้วยความใส่ใจในขั้นตอนการผสมและการปรับค่า pH สูตรนี้ควรจะสามารถผสมได้