ความเข้ากันได้และความเสถียรของส่วนผสมในสูตรมาส์กหน้า AHA/BHA/PHA เนื้อครีม และมาส์กหน้าวิตามินซีเนื้อเจล
คำถาม
มีสูตรมาส์กหน้า 2 สูตร ต้องการสอบถามเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของส่วนผสม ขั้นตอนการผสม และความเสถียรค่ะ
1. สูตรมาส์กหน้า AHA/BHA/PHA เนื้อครีม (แบบพอกแล้วล้างออก)
สูตร:
- Water 69.8%
- EDTA 0.2%
- Mild Preserved Eco 1%
- Complex Salicylic Acid (Powder,Water-Soluble) 5%
- VersaMoist (สารนำพา) 2%
- Mandelic Acid 10%
- Lactobionic Acid 5%
- GABA Natural 3%
- Calcium Pantothenate 3%
- Satin Cream Maker 1%
การผสม: นำ 1+2+3 เติม 4,5,6,7,8,9 จากนั้นเติม 10 คนจนได้เนื้อครีม
คำถาม:
- ตามสูตรนี้ส่วนผสมสามารถเข้ากันได้หรือไม่คะ?
- ลำดับการผสมถูกต้องไหมคะ?
- สารสร้างเนื้อครีมเหมาะสมหรือไม่คะ?
- สูตรนี้ต้องใส่สารนำพาด้วยหรือไม่คะ สารนำพาตัวนี้โอเคแล้วหรือมีตัวอื่นแนะนำไหมคะ?
2. สูตรมาส์กหน้า วิตามินซี (แบบพอกแล้วล้างออก)
สูตร:
- Aloe Vera Gel (Heavy) 79.8%
- EDTA 0.2%
- Vitamin C (L-ascorbic acid, Ultra-Fine) 15%
- Fruit Peel 3%
- Active Protect UV 1% (ป้องกันวิตามินซีเสื่อมคุณภาพ)
- Vitamin E (dl-alpha tocopherol) 1%
การผสม: เติมสาร Active ลงไปในเบสเจลทีละตัว
คำถาม:
- ตามสูตรนี้ส่วนผสมเข้ากันได้ไหมคะ?
- EDTA จำเป็นไหมตัดออกได้ไหมคะ?
- สูตรนี้จะเก็บในตู้เย็นได้ไหมคะ?
ขอบคุณค่ะ
คำตอบ
สูตรมาส์กหน้า AHA (สูตรที่ 1)
ความเข้ากันได้ของส่วนผสมและข้อควรพิจารณาเรื่องค่า pH
สูตรนี้มีส่วนผสมของกรดผลัดเซลล์ผิวในความเข้มข้นสูง ได้แก่ Complex Salicylic Acid (5%), Mandelic Acid (10%) และ Lactobionic Acid (5%) รวมกันเป็น 20% ความเข้มข้นที่สูงนี้จะทำให้ค่า pH ของผลิตภัณฑ์สุดท้ายต่ำมาก
- ข้อกำหนด อย.: สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้กับผิวหน้าสำหรับผู้บริโภคทั่วไป อย. กำหนดให้ค่า pH ไม่ต่ำกว่า 3.5 เมื่อใช้ AHA ไม่เกิน 10% สูตรของคุณมีความเข้มข้นของกรดผลัดเซลล์ผิวรวมสูงกว่า 10% และมีแนวโน้มที่ค่า pH จะต่ำกว่า 3.5 มาก ซึ่งอาจไม่เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปโดยผู้บริโภค และอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ หากไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
- ความเสถียร/ประสิทธิภาพของส่วนผสม:
- Mild Preserved Eco ระบุว่าทำงานได้ดีในช่วง pH 4-9 ค่า pH ที่ต่ำมาก (ต่ำกว่า 4) อาจลดประสิทธิภาพในการกันเสียได้
- GABA Natural มีช่วง pH ที่เหมาะสมประมาณ 6.5-7.5 การนำไปผสมในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดสูงอาจส่งผลต่อความเสถียรหรือประสิทธิภาพได้
- Calcium Pantothenate มีค่า pH 6.8-8.0 (ที่ 5% ในน้ำ) เช่นเดียวกับ GABA ความเสถียรอาจได้รับผลกระทบจากค่า pH ที่ต่ำ
- Satin Cream Maker มีความเสถียรในช่วง pH 3-12 จึงสามารถทำหน้าที่เป็นสารสร้างเนื้อครีม/สารเพิ่มความข้นได้ดีในค่า pH ต่ำ
- VersaMoist ละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน และคาดว่าจะมีความเสถียรในค่า pH ต่ำ
ลำดับการผสม
ลำดับการผสมที่เสนอมาถือว่าใช้ได้ โดยเริ่มจากส่วนของน้ำและละลายส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ก่อนเติมสารสร้างเนื้อครีม/สารเพิ่มความข้น อย่างไรก็ตาม Mild Preserved Eco แนะนำให้เติมในขั้นตอนสุดท้ายเมื่อเนื้อสูตรเริ่มเป็นเจลหรือครีมแล้ว การเติมพร้อมน้ำในตอนแรกอาจไม่เหมาะสมกับหน้าที่ของมันในฐานะสารกันเสีย/สารให้ความชุ่มชื้น
ลำดับการผสมที่ปรับปรุงเล็กน้อยอาจเป็นดังนี้:
- ผสมน้ำและ Disodium EDTA คนให้ละลาย
- ค่อยๆ เติมและละลายส่วนผสมที่เป็นผงทีละตัว ได้แก่ Complex Salicylic Acid, Mandelic Acid, Lactobionic Acid, GABA Natural และ Calcium Pantothenate ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแต่ละตัวละลายหมดก่อนเติมตัวถัดไป
- เติม VersaMoist คนให้เข้ากัน
- เติม Mild Preserved Eco คนให้เข้ากัน
- เติม Satin Cream Maker และคนจนได้เนื้อครีม หลีกเลี่ยงการใช้ความเร็วในการปั่นสูง (>2500 รอบต่อนาที) เมื่อใช้ Satin Cream Maker
ความเหมาะสมของสารสร้างเนื้อครีม
Satin Cream Maker เหมาะสมสำหรับการสร้างเนื้อครีมในสูตรนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเบสน้ำ เป็นสารสร้างเนื้อครีม/สารเพิ่มความข้นที่ไม่ต้องใช้ความร้อนและทำงานได้ดีในช่วง pH กว้าง (3-12) ซึ่งจำเป็นสำหรับสูตรที่เป็นกรด ความเข้มข้น 1% อยู่ในช่วงที่แนะนำ
สารนำพา (VersaMoist)
VersaMoist มีคุณสมบัติเป็นสารช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิว การใส่ในสูตรที่มีกรดผลัดเซลล์ผิวความเข้มข้นสูงจะช่วยเพิ่มการซึมผ่านของกรดเหล่านี้เข้าสู่ผิว ซึ่งอาจเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็อาจเพิ่มโอกาสในการระคายเคือง แดง และผิวแพ้ง่ายได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความเข้มข้นของกรดรวมสูงอยู่แล้ว ความจำเป็นในการใช้ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ต้องการและระดับการระคายเคืองที่ยอมรับได้ VersaMoist เองเข้ากันได้กับสูตรเบสน้ำ
สูตรมาส์กหน้าวิตามินซี (สูตรที่ 2)
ความเข้ากันได้ของส่วนผสม
ปัญหาหลักเรื่องความเข้ากันได้ในสูตรนี้คือความเข้มข้นสูงของ Vitamin C (L-ascorbic acid, Ultra-Fine) (15%) ที่ผสมในเบส Aloe Vera Gel (Heavy)
- ความเสถียรของวิตามินซี: L-ascorbic acid มีประสิทธิภาพสูงแต่ไม่เสถียรอย่างยิ่งในน้ำ โดยเฉพาะที่ค่า pH เป็นกลางหรือสูงกว่า ต้องใช้ค่า pH ต่ำ (2.0-4.0 โดย อย. กำหนด > 3.5 สำหรับผู้บริโภค) เพื่อให้คงตัวและมีประสิทธิภาพ เบส Aloe Vera Gel มีส่วนผสมของสารกันเสีย (Phenoxyethanol) และส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งน่าจะมีค่า pH สูงกว่าช่วงที่เหมาะสมสำหรับความเสถียรของ L-ascorbic acid การผสม L-ascorbic acid 15% ลงในเบสนี้โดยไม่ปรับค่า pH จะทำให้วิตามินซีเกิดการออกซิเดชันและเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว สูญเสียประสิทธิภาพและอาจเปลี่ยนสีได้
- วิตามินอี: Vitamin E (dl-alpha tocopherol) ละลายในน้ำมัน เบส Aloe Vera Gel ระบุว่าเป็น Oil-Free หากไม่มีสารอิมัลซิไฟเออร์ วิตามินอีอาจไม่เข้ากันดีกับเบสเจลและอาจแยกชั้นได้
- Fruit Peel: Fruit Peel มีช่วง pH ที่แนะนำ 3.5-7.0 ควรเข้ากันได้กับค่า pH ของเบส Aloe Vera Gel
- Active Protect UV: ส่วนผสมนี้ละลายน้ำได้และควรเข้ากันได้กับเบส
ความจำเป็นของ EDTA
Disodium EDTA เป็นสารคีเลตที่ช่วยเพิ่มความเสถียรของสูตรโดยจับกับไอออนของโลหะที่อาจทำให้เกิดการออกซิเดชันและการเสื่อมสภาพของส่วนผสมที่ไวต่อปฏิกิริยา เช่น L-ascorbic acid แม้จะไม่จำเป็นในทุกสูตร แต่ก็แนะนำอย่างยิ่งเมื่อใช้ L-ascorbic acid เพื่อช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะหากคุณภาพน้ำไม่บริสุทธิ์มาก การตัดออกอาจลดความเสถียรของวิตามินซีในสูตรได้
การเก็บในตู้เย็น
ใช่ การเก็บสูตรนี้ในตู้เย็นแนะนำอย่างยิ่ง Vitamin C (L-ascorbic acid), Fruit Peel และ Vitamin E (dl-alpha tocopherol) เป็นส่วนผสมที่ได้รับประโยชน์จากการเก็บในที่เย็นเพื่อรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไป การแช่เย็นจะช่วยชะลออัตราการเสื่อมสภาพของวิตามินซีในสูตรเบสน้ำนี้ได้อย่างมาก
ลำดับการผสม
ลำดับการผสมที่เสนอคือการเติมสารออกฤทธิ์ทีละตัวลงในเบสเจลเป็นวิธีที่ง่าย อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ไขปัญหาค่า pH ที่สำคัญสำหรับความเสถียรของวิตามินซี จำเป็นต้องใช้วิธีการผสมที่ซับซ้อนกว่านี้ โดยอาจต้องละลาย L-ascorbic acid ในน้ำปริมาณเล็กน้อยที่ค่า pH ต่ำก่อนนำไปผสมกับเบสหลัก พร้อมกับการปรับค่า pH สุดท้ายของสูตรทั้งหมด ซึ่งต้องมีการวัดและปรับค่า pH อย่างระมัดระวัง.
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Vitamin E (dl-alpha tocopherol)

Disodium EDTA

Aloe Vera Gel (Heavy)

Satin Cream Maker™

Mandelic Acid

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

FruitPeel™ ผลัดเซลล์ด้วยผลไม้

Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)

Calcium Pantothenate

Lactobionic Acid

ActiveProtec™ UV

VersaMoist™
