ความเข้ากันได้และความเสถียรของส่วนผสมในสูตรมาส์กหน้า AHA/BHA/PHA เนื้อครีม และมาส์กหน้าวิตามินซีเนื้อเจล

ถามโดย: tor1903 เมื่อ: March 11, 2020 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีสูตรมาส์กหน้า 2 สูตร ต้องการสอบถามเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของส่วนผสม ขั้นตอนการผสม และความเสถียรค่ะ

1. สูตรมาส์กหน้า AHA/BHA/PHA เนื้อครีม (แบบพอกแล้วล้างออก)

สูตร:

  • Water 69.8%
  • EDTA 0.2%
  • Mild Preserved Eco 1%
  • Complex Salicylic Acid (Powder,Water-Soluble) 5%
  • VersaMoist (สารนำพา) 2%
  • Mandelic Acid 10%
  • Lactobionic Acid 5%
  • GABA Natural 3%
  • Calcium Pantothenate 3%
  • Satin Cream Maker 1%

การผสม: นำ 1+2+3 เติม 4,5,6,7,8,9 จากนั้นเติม 10 คนจนได้เนื้อครีม

คำถาม:

  • ตามสูตรนี้ส่วนผสมสามารถเข้ากันได้หรือไม่คะ?
  • ลำดับการผสมถูกต้องไหมคะ?
  • สารสร้างเนื้อครีมเหมาะสมหรือไม่คะ?
  • สูตรนี้ต้องใส่สารนำพาด้วยหรือไม่คะ สารนำพาตัวนี้โอเคแล้วหรือมีตัวอื่นแนะนำไหมคะ?

2. สูตรมาส์กหน้า วิตามินซี (แบบพอกแล้วล้างออก)

สูตร:

  • Aloe Vera Gel (Heavy) 79.8%
  • EDTA 0.2%
  • Vitamin C (L-ascorbic acid, Ultra-Fine) 15%
  • Fruit Peel 3%
  • Active Protect UV 1% (ป้องกันวิตามินซีเสื่อมคุณภาพ)
  • Vitamin E (dl-alpha tocopherol) 1%

การผสม: เติมสาร Active ลงไปในเบสเจลทีละตัว

คำถาม:

  • ตามสูตรนี้ส่วนผสมเข้ากันได้ไหมคะ?
  • EDTA จำเป็นไหมตัดออกได้ไหมคะ?
  • สูตรนี้จะเก็บในตู้เย็นได้ไหมคะ?

ขอบคุณค่ะ

คำตอบ

สูตรมาส์กหน้า AHA (สูตรที่ 1)

ความเข้ากันได้ของส่วนผสมและข้อควรพิจารณาเรื่องค่า pH

สูตรนี้มีส่วนผสมของกรดผลัดเซลล์ผิวในความเข้มข้นสูง ได้แก่ Complex Salicylic Acid (5%), Mandelic Acid (10%) และ Lactobionic Acid (5%) รวมกันเป็น 20% ความเข้มข้นที่สูงนี้จะทำให้ค่า pH ของผลิตภัณฑ์สุดท้ายต่ำมาก

  • ข้อกำหนด อย.: สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้กับผิวหน้าสำหรับผู้บริโภคทั่วไป อย. กำหนดให้ค่า pH ไม่ต่ำกว่า 3.5 เมื่อใช้ AHA ไม่เกิน 10% สูตรของคุณมีความเข้มข้นของกรดผลัดเซลล์ผิวรวมสูงกว่า 10% และมีแนวโน้มที่ค่า pH จะต่ำกว่า 3.5 มาก ซึ่งอาจไม่เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปโดยผู้บริโภค และอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ หากไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
  • ความเสถียร/ประสิทธิภาพของส่วนผสม:
    • Mild Preserved Eco ระบุว่าทำงานได้ดีในช่วง pH 4-9 ค่า pH ที่ต่ำมาก (ต่ำกว่า 4) อาจลดประสิทธิภาพในการกันเสียได้
    • GABA Natural มีช่วง pH ที่เหมาะสมประมาณ 6.5-7.5 การนำไปผสมในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดสูงอาจส่งผลต่อความเสถียรหรือประสิทธิภาพได้
    • Calcium Pantothenate มีค่า pH 6.8-8.0 (ที่ 5% ในน้ำ) เช่นเดียวกับ GABA ความเสถียรอาจได้รับผลกระทบจากค่า pH ที่ต่ำ
    • Satin Cream Maker มีความเสถียรในช่วง pH 3-12 จึงสามารถทำหน้าที่เป็นสารสร้างเนื้อครีม/สารเพิ่มความข้นได้ดีในค่า pH ต่ำ
    • VersaMoist ละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน และคาดว่าจะมีความเสถียรในค่า pH ต่ำ

ลำดับการผสม

ลำดับการผสมที่เสนอมาถือว่าใช้ได้ โดยเริ่มจากส่วนของน้ำและละลายส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ก่อนเติมสารสร้างเนื้อครีม/สารเพิ่มความข้น อย่างไรก็ตาม Mild Preserved Eco แนะนำให้เติมในขั้นตอนสุดท้ายเมื่อเนื้อสูตรเริ่มเป็นเจลหรือครีมแล้ว การเติมพร้อมน้ำในตอนแรกอาจไม่เหมาะสมกับหน้าที่ของมันในฐานะสารกันเสีย/สารให้ความชุ่มชื้น

ลำดับการผสมที่ปรับปรุงเล็กน้อยอาจเป็นดังนี้:

  1. ผสมน้ำและ Disodium EDTA คนให้ละลาย
  2. ค่อยๆ เติมและละลายส่วนผสมที่เป็นผงทีละตัว ได้แก่ Complex Salicylic Acid, Mandelic Acid, Lactobionic Acid, GABA Natural และ Calcium Pantothenate ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแต่ละตัวละลายหมดก่อนเติมตัวถัดไป
  3. เติม VersaMoist คนให้เข้ากัน
  4. เติม Mild Preserved Eco คนให้เข้ากัน
  5. เติม Satin Cream Maker และคนจนได้เนื้อครีม หลีกเลี่ยงการใช้ความเร็วในการปั่นสูง (>2500 รอบต่อนาที) เมื่อใช้ Satin Cream Maker

ความเหมาะสมของสารสร้างเนื้อครีม

Satin Cream Maker เหมาะสมสำหรับการสร้างเนื้อครีมในสูตรนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเบสน้ำ เป็นสารสร้างเนื้อครีม/สารเพิ่มความข้นที่ไม่ต้องใช้ความร้อนและทำงานได้ดีในช่วง pH กว้าง (3-12) ซึ่งจำเป็นสำหรับสูตรที่เป็นกรด ความเข้มข้น 1% อยู่ในช่วงที่แนะนำ

สารนำพา (VersaMoist)

VersaMoist มีคุณสมบัติเป็นสารช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิว การใส่ในสูตรที่มีกรดผลัดเซลล์ผิวความเข้มข้นสูงจะช่วยเพิ่มการซึมผ่านของกรดเหล่านี้เข้าสู่ผิว ซึ่งอาจเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็อาจเพิ่มโอกาสในการระคายเคือง แดง และผิวแพ้ง่ายได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความเข้มข้นของกรดรวมสูงอยู่แล้ว ความจำเป็นในการใช้ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ต้องการและระดับการระคายเคืองที่ยอมรับได้ VersaMoist เองเข้ากันได้กับสูตรเบสน้ำ

สูตรมาส์กหน้าวิตามินซี (สูตรที่ 2)

ความเข้ากันได้ของส่วนผสม

ปัญหาหลักเรื่องความเข้ากันได้ในสูตรนี้คือความเข้มข้นสูงของ Vitamin C (L-ascorbic acid, Ultra-Fine) (15%) ที่ผสมในเบส Aloe Vera Gel (Heavy)

  • ความเสถียรของวิตามินซี: L-ascorbic acid มีประสิทธิภาพสูงแต่ไม่เสถียรอย่างยิ่งในน้ำ โดยเฉพาะที่ค่า pH เป็นกลางหรือสูงกว่า ต้องใช้ค่า pH ต่ำ (2.0-4.0 โดย อย. กำหนด > 3.5 สำหรับผู้บริโภค) เพื่อให้คงตัวและมีประสิทธิภาพ เบส Aloe Vera Gel มีส่วนผสมของสารกันเสีย (Phenoxyethanol) และส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งน่าจะมีค่า pH สูงกว่าช่วงที่เหมาะสมสำหรับความเสถียรของ L-ascorbic acid การผสม L-ascorbic acid 15% ลงในเบสนี้โดยไม่ปรับค่า pH จะทำให้วิตามินซีเกิดการออกซิเดชันและเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว สูญเสียประสิทธิภาพและอาจเปลี่ยนสีได้
  • วิตามินอี: Vitamin E (dl-alpha tocopherol) ละลายในน้ำมัน เบส Aloe Vera Gel ระบุว่าเป็น Oil-Free หากไม่มีสารอิมัลซิไฟเออร์ วิตามินอีอาจไม่เข้ากันดีกับเบสเจลและอาจแยกชั้นได้
  • Fruit Peel: Fruit Peel มีช่วง pH ที่แนะนำ 3.5-7.0 ควรเข้ากันได้กับค่า pH ของเบส Aloe Vera Gel
  • Active Protect UV: ส่วนผสมนี้ละลายน้ำได้และควรเข้ากันได้กับเบส

ความจำเป็นของ EDTA

Disodium EDTA เป็นสารคีเลตที่ช่วยเพิ่มความเสถียรของสูตรโดยจับกับไอออนของโลหะที่อาจทำให้เกิดการออกซิเดชันและการเสื่อมสภาพของส่วนผสมที่ไวต่อปฏิกิริยา เช่น L-ascorbic acid แม้จะไม่จำเป็นในทุกสูตร แต่ก็แนะนำอย่างยิ่งเมื่อใช้ L-ascorbic acid เพื่อช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะหากคุณภาพน้ำไม่บริสุทธิ์มาก การตัดออกอาจลดความเสถียรของวิตามินซีในสูตรได้

การเก็บในตู้เย็น

ใช่ การเก็บสูตรนี้ในตู้เย็นแนะนำอย่างยิ่ง Vitamin C (L-ascorbic acid), Fruit Peel และ Vitamin E (dl-alpha tocopherol) เป็นส่วนผสมที่ได้รับประโยชน์จากการเก็บในที่เย็นเพื่อรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไป การแช่เย็นจะช่วยชะลออัตราการเสื่อมสภาพของวิตามินซีในสูตรเบสน้ำนี้ได้อย่างมาก

ลำดับการผสม

ลำดับการผสมที่เสนอคือการเติมสารออกฤทธิ์ทีละตัวลงในเบสเจลเป็นวิธีที่ง่าย อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ไขปัญหาค่า pH ที่สำคัญสำหรับความเสถียรของวิตามินซี จำเป็นต้องใช้วิธีการผสมที่ซับซ้อนกว่านี้ โดยอาจต้องละลาย L-ascorbic acid ในน้ำปริมาณเล็กน้อยที่ค่า pH ต่ำก่อนนำไปผสมกับเบสหลัก พร้อมกับการปรับค่า pH สุดท้ายของสูตรทั้งหมด ซึ่งต้องมีการวัดและปรับค่า pH อย่างระมัดระวัง.

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
เครื่องสำอาง
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Aloe Vera Gel (Heavy)
Aloe Vera Gel (Heavy)
เครื่องสำอาง
Satin Cream Maker™
Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Mandelic Acid
Mandelic Acid
เครื่องสำอาง
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
เครื่องสำอาง
Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Calcium Pantothenate
Calcium Pantothenate
เครื่องสำอาง
Lactobionic Acid
Lactobionic Acid
เครื่องสำอาง
ActiveProtec™ UV
ActiveProtec™ UV
เครื่องสำอาง
VersaMoist™
VersaMoist™
เครื่องสำอาง
GABA Gamma aminobutyric acid (Natural Bioferment)
GABA Gamma aminobutyric acid (Natural Bioferment)
เครื่องสำอาง