ความเข้ากันได้และความเสถียรของส่วนผสมในเซรั่มและครีมกลางคืน
คำถาม
มี 2 สูตร คือ เซรั่ม และ ครีมกลางคืน อยากทราบความเข้ากันได้และความเสถียรของส่วนผสม รวมถึงวิธีการขึ้นสูตรให้ถูกต้องค่ะ
สูตรเซรั่ม:
- Alpha Arbutin 2%
- วิตามิน บี3 5%
- aloe vera 3%
- Licorice 2%
- camomile 1%
- Which hazel 10%
สูตรครีมกลางคืน:
- 4-Butyl Resorcinol 1%
- Vitamin B3 4%
- Allantoin 0.8%
- Licorice 2%
- Camomile 1%
- Rice Vitamin 2%
ส่วนผสมเหล่านี้ในแต่ละสูตรมีความเข้ากันได้และความเสถียรอย่างไร และมีขั้นตอนหรือสารเติมแต่งสำคัญอะไรบ้างที่จำเป็นสำหรับการขึ้นสูตรให้สำเร็จ?
คำตอบ
ความเข้ากันได้ของส่วนผสมในสูตรเซรั่มและครีมกลางคืน
ขอบคุณที่ให้ข้อมูลส่วนผสมสำหรับสูตรเซรั่มและครีมกลางคืนของคุณ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเข้ากันได้และความเสถียรของส่วนผสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว เบสที่คุณเลือกใช้จะมีผลอย่างมากต่อความเสถียรและเนื้อสัมผัสของทั้งเซรั่มและครีม
นี่คือการประเมินความเข้ากันได้และความเสถียรของส่วนผสมที่คุณระบุ:
สูตรเซรั่ม
สูตรเซรั่มที่คุณเสนอประกอบด้วย:
- Alpha Arbutin 2%
- วิตามิน บี3 5%
- aloe vera 3%
- Licorice 2%
- camomile 1%
- Which hazel 10%
ส่วนผสมส่วนใหญ่เหล่านี้ละลายน้ำได้และโดยทั่วไปเข้ากันได้ดี
- Alpha Arbutin (เช่น Alpha Arbutin (Switzerland)) มีประสิทธิภาพในการปรับผิวให้กระจ่างใส มีความเสถียรในช่วง pH 3.5-6.5 ที่ pH สูงกว่า 8 อาจสลายตัวเป็นไฮโดรควิโนน ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ เพื่อช่วยป้องกันการเปลี่ยนสีของสูตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Alpha Arbutin ขอแนะนำให้เติมสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ActiveProtec™ OX ที่ 0.6%
- วิตามิน บี3 (Niacinamide) (เช่น Safe-B3™) เป็นส่วนผสมอเนกประสงค์ที่ช่วยลดริ้วรอย จุดด่างดำ/รอยแดง และความมัน พร้อมทั้งเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว มีความเสถียรในช่วง pH 3-8 โดยช่วงที่เหมาะสมที่สุดคือ 4.0-7.0 Niacinamide โดยทั่วไปเข้ากันได้กับ Alpha Arbutin
- Aloe Vera Extract เป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว ละลายน้ำได้และโดยทั่วไปมีความเสถียรในช่วง pH 3.5-7 โปรดทราบว่า Aloe Vera Extract อาจส่งผลต่อความหนืดของเบสเจลหรือครีมได้
- Licorice Extract (โดยเฉพาะชนิด Licochalcone A ที่คุณลิงก์มา เช่น Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)) ส่วนใหญ่ใช้เพื่อคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ลดการระคายเคือง และควบคุมความมัน ละลายน้ำได้และมีความเสถียรในช่วง pH 3.5-6.5 หากเป้าหมายหลักของคุณคือการปรับผิวให้กระจ่างใส คุณอาจพิจารณาใช้ Licorice Extract ที่มี Glabridin สูง (เช่น Licorice Extract (Glabridin 4.5%, Water-Soluble)) แทน เนื่องจาก Licochalcone A ไม่มีผลในการปรับผิวให้ขาวอย่างมีนัยสำคัญ
- Camomile (สมมติว่าเป็นชนิดที่ละลายน้ำได้ เช่น Chamomile Water) ให้ประโยชน์ในการปลอบประโลมผิว Chamomile Water โดยทั่วไปมี pH ระหว่าง 3-5 และละลายน้ำได้
- Witch Hazel (เช่น Witch Hazel (Distillate - Alcohol Free, Paraben Free)) มักใช้เป็นสารฝาดสมานเพื่อช่วยกระชับรูขุมขน ละลายน้ำได้ โดยทั่วไปมี pH ระหว่าง 3-5
สรุปความเข้ากันได้สำหรับเซรั่ม:
ส่วนผสมในสูตรเซรั่มของคุณโดยทั่วไปเข้ากันได้ดีในระบบที่ใช้น้ำเป็นเบส สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่า pH สุดท้ายของเซรั่มอยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับ Alpha Arbutin (3.5-6.5) โดยควรอยู่ระหว่าง 4.0 ถึง 5.5 ซึ่งเหมาะสมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น วิตามิน บี3, Aloe Vera, Licorice (Licochalcone A), Chamomile Water และ Witch Hazel การใช้ ActiveProtec™ OX สามารถช่วยรักษาความเสถียรและสีของ Alpha Arbutin ได้
สูตรครีมกลางคืน
สูตรครีมกลางคืนที่คุณเสนอประกอบด้วย:
- 4-Butyl Resorcinol 1%
- Vitamin B3 4%
- Allantoin 0.8%
- Licorice 2%
- camomile 1%
- Rice Vitamin 2%
- 4-Butyl Resorcinol เป็นสารปรับผิวให้กระจ่างใสที่มีประสิทธิภาพ มีหลายรูปแบบ เช่น Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol) ซึ่งละลายในน้ำมันและต้องการ pH 4.5-5.5 เพื่อความเสถียร และ NanoRes™ (Liposome 4-Butyl Resorcinol, Nano Size) ซึ่งละลายน้ำได้และพัฒนาขึ้นเพื่อความเสถียรที่ดีขึ้นและใช้งานง่ายขึ้น เนื่องจากส่วนผสมอื่นๆ ในครีมกลางคืนของคุณหลายชนิดละลายน้ำได้ การใช้ NanoRes™ อาจง่ายกว่าในการผสม
- หากคุณใช้ Activated Resorcinol (ละลายในน้ำมัน) จะต้องผสมในส่วนของน้ำมันในเบสครีมของคุณ ไวต่อแสง จึงจำเป็นต้องใช้บรรจุภัณฑ์ทึบแสง ขอแนะนำให้ใช้ Disodium EDTA (0.2%) และ ActiveProtec™ OX (0.6%) เพื่อช่วยป้องกันการเปลี่ยนสี Activated Resorcinol ไม่ควรใช้ร่วมกับ Alpha Arbutin (ไม่มีในสูตรนี้) หรือ AHA แต่เข้ากันได้กับ Vitamin B3
- หากคุณใช้ NanoRes™ (ละลายน้ำได้) สามารถละลายในน้ำได้โดยตรงและโดยทั่วไปเข้ากันได้กับ Vitamin B3 ไวต่อแสงเช่นกันและต้องใช้บรรจุภัณฑ์ทึบแสง
- Vitamin B3 (Niacinamide) (เช่น Safe-B3™) เข้ากันได้กับ 4-Butyl Resorcinol และส่วนผสมอื่นๆ ที่ระบุ
- Allantoin เป็นส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมและซ่อมแซมผิว ละลายน้ำได้จำกัดที่อุณหภูมิห้อง (ประมาณ 0.5%) แต่ละลายได้ดีขึ้นเมื่อใช้ความร้อน มีความเสถียรในช่วง pH 3-8 โดยช่วงที่เหมาะสมที่สุดคือ 4-8 อัตราการใช้ 0.8% ที่คุณเสนออาจต้องใช้ความร้อนหรือสารช่วยละลายเพื่อให้เข้ากันได้ดี ขึ้นอยู่กับเบสของคุณ
- Licorice Extract (ชนิด Licochalcone A) เข้ากันได้ดีในช่วง pH 3.5-6.5 อีกครั้ง พิจารณาชนิดที่มี Glabridin สูง (Licorice Extract (Glabridin 4.5%, Water-Soluble)) หากเป้าหมายหลักคือการปรับผิวให้กระจ่างใส
- Camomile (สมมติว่าเป็นชนิดที่ละลายน้ำได้ เช่น Chamomile Water) เข้ากันได้ดีในช่วง pH 3-5
- Rice Vitamin (Inositol) เป็นส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ซึ่งช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว มีความเสถียรในช่วง pH 4-7
สรุปความเข้ากันได้สำหรับครีมกลางคืน:
ความเข้ากันได้ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับชนิดของ 4-Butyl Resorcinol ที่ใช้และเบสที่เลือก
- หากใช้ NanoRes™ (4-Butyl Resorcinol ที่ละลายน้ำได้) ส่วนผสมโดยทั่วไปเข้ากันได้ดีในระบบที่ใช้น้ำเป็นเบสหรืออิมัลชันที่มี pH อยู่ในช่วงประมาณ 4.0-6.0
- หากใช้ Activated Resorcinol (4-Butyl Resorcinol ที่ละลายในน้ำมัน) คุณจะต้องใช้เบสอิมัลชันที่มีส่วนของน้ำมัน ต้องควบคุม pH อย่างรอบคอบที่ 4.5-5.5 คุณควรเติม Disodium EDTA และ ActiveProtec™ OX ด้วย
ไม่ว่าจะเป็น 4-Butyl Resorcinol ชนิดใด จำเป็นต้องใช้บรรจุภัณฑ์ทึบแสงเนื่องจากไวต่อแสง ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Allantoin ละลายหมดในเบสที่คุณเลือก พิจารณา Licorice Extract ที่มี Glabridin สูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับผิวให้กระจ่างใส
คำแนะนำทั่วไป
- เลือกเบสของคุณอย่างรอบคอบ: เบสของสูตร (เบสเซรั่ม, เบสครีม) มีความสำคัญอย่างยิ่ง จะเป็นตัวกำหนดเนื้อสัมผัสสุดท้าย ความเสถียร และความง่ายในการผสมส่วนผสม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบสเข้ากันได้กับความสามารถในการละลายของส่วนผสมที่คุณเลือก (ละลายน้ำได้ vs. ละลายในน้ำมัน)
- ควบคุมค่า pH: ค่า pH สุดท้ายของทั้งสองสูตรมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเสถียรและประสิทธิภาพของส่วนผสม เช่น Alpha Arbutin และ 4-Butyl Resorcinol คุณจะต้องวัดและปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปให้อยู่ในช่วงที่แนะนำ (โดยควรอยู่ระหว่าง 4.0-5.5 สำหรับเซรั่ม และ 4.0-6.0 หรือโดยเฉพาะ 4.5-5.5 หากใช้ Activated Resorcinol ที่ละลายในน้ำมัน สำหรับครีมกลางคืน)
- พิจารณาสารต้านอนุมูลอิสระ/สารคีเลต: สำหรับเซรั่ม การเติม ActiveProtec™ OX (0.6%) แนะนำสำหรับความเสถียรของ Alpha Arbutin สำหรับครีมกลางคืน หากใช้ Activated Resorcinol แนะนำให้เติม Disodium EDTA (0.2%) และ ActiveProtec™ OX (0.6%) ด้วย
- ใช้บรรจุภัณฑ์ทึบแสง: สำหรับครีมกลางคืนที่มี 4-Butyl Resorcinol ให้ใช้บรรจุภัณฑ์ทึบแสงเพื่อป้องกันส่วนผสมจากการเสื่อมสภาพจากแสง
- ทำการทดสอบความเสถียร: หลังจากสร้างสูตรของคุณด้วยเบสที่เลือกและปรับค่า pH แล้ว ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ทำการทดสอบความเสถียร (เช่น สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสี เนื้อสัมผัส และกลิ่นเมื่อเวลาผ่านไปและภายใต้สภาวะอุณหภูมิที่แตกต่างกัน) เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมยังคงมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพ
ด้วยการเลือกเบสอย่างรอบคอบ ควบคุมค่า pH และพิจารณาการเติมสารที่แนะนำ คุณสามารถสร้างสูตรเซรั่มและครีมกลางคืนที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพได้
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Allantoin

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)

Disodium EDTA

Rice Vitamin (Inositol, Vitamin B8)

Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol)

Chamomile Water (Anthemis Nobilis)

ActiveProtec™ OX

Licorice Extract (Glabridin 4.5%, Water-Soluble)
