สูตรที่คุณแจ้งมานั้นมีส่วนผสมที่ดีหลายตัวที่ช่วยเรื่องการฟื้นฟูผิว ความชุ่มชื้น การลดริ้วรอย และเสริมเกราะป้องกันผิวค่ะ แต่ข้อกังวลของคุณเรื่อง Copper Peptide มีปัญหากับสูตรและทำให้ประสิทธิภาพลดลงนั้นถูกต้องค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับ Niacinamide (Safe B3)

นี่คือการประเมินความเข้ากันได้ของส่วนผสมหลักในสูตรของคุณค่ะ:

การประเมินความเข้ากันได้ของส่วนผสม

• Copper Peptide (GHK-Cu) และ Niacinamide (Safe B3): นี่คือข้อกังวลหลักเรื่องความเข้ากันได้ในสูตรของคุณค่ะ โดยทั่วไป ไม่แนะนำ ให้ผสม Copper Peptide และ Niacinamide ในสูตรเดียวกันค่ะ การทำปฏิกิริยาระหว่างสองส่วนผสมนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ค่า pH บางค่า อาจทำให้ส่วนผสมทั้งสองเสื่อมสภาพลง ประสิทธิภาพลดลง และอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวในบางรายได้ค่ะ แม้ว่าผู้พัฒนาสูตรบางรายจะพยายามผสมร่วมกันภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ (เช่น ช่วง pH แคบๆ ประมาณ 6-7 หรือใช้เทคโนโลยีการห่อหุ้ม) แต่เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและความปลอดภัยที่ดีที่สุด ควรใช้ในผลิตภัณฑ์แยกกัน หรือทาคนละเวลาของวันค่ะ (เช่น Niacinamide ตอนเช้า และ Copper Peptide ตอนกลางคืน)
• Repair Activator™ (Bifida Ferment Lysate): ส่วนผสมนี้โดยทั่วไปเข้ากันได้กับส่วนผสมเครื่องสำอางส่วนใหญ่ค่ะ คำอธิบายผลิตภัณฑ์ระบุว่ามีช่วง pH 4-5.5 และควรผสมในขั้นตอนสุดท้าย หลีกเลี่ยงความร้อน
• Glycosaminoglycans Complex: เป็นส่วนผสมที่ละลายน้ำได้สำหรับลดริ้วรอย คำอธิบายผลิตภัณฑ์แนะนำให้ละลายในน้ำที่อุณหภูมิไม่เกิน 40°C
• Double hya (Hyaluronic Acid): Hyaluronic Acid โดยทั่วไปเข้ากันได้กับส่วนผสมส่วนใหญ่ค่ะ คำอธิบายผลิตภัณฑ์ Hyaluronic Acid ชนิดต่างๆ ระบุว่ามีความเสถียรในช่วง pH 3.0-9.0 และอุณหภูมิไม่เกิน 70°C การใช้ Hyaluronic Acid ที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่างกัน (เช่น Standard และ Super Low Molecule) เป็นกลยุทธ์ทั่วไปเพื่อให้ความชุ่มชื้นในระดับความลึกที่แตกต่างกัน
• Skin-mimic™ (Skin Barrier Restoration): เป็นไลโปโซมเซราไมด์คอมเพล็กซ์ที่ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว และผสมในส่วนของน้ำ โดยทั่วไปเข้ากันได้กับส่วนผสมที่ละลายน้ำอื่นๆ
• GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine): ส่วนผสมนี้ทำงานได้ดีกับ Niacinamide ในการช่วยเรื่องความกระจ่างใสและความชุ่มชื้น มีช่วง pH ที่เหมาะสมคือ 3-7 และควรผสมในส่วนของน้ำ หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนเป็นเวลานาน
• Active Protec™ UV: เป็นส่วนผสมของสารกันแดดและสารต้านอนุมูลอิสระในรูปแบบไมเซลล์ที่ละลายน้ำได้โดยตรง ช่วยรักษาความเสถียรของสูตรที่เป็นน้ำ และสะดวกในการใช้งาน สามารถช่วยป้องกันสีที่ละลายน้ำซีดจางได้ ผสมในน้ำ สามารถทนความร้อนได้ถึง 60°C
• DMI (Dimethyl Isosorbide): เป็นสารช่วยนำพา (penetration enhancer) ที่ช่วยนำพาส่วนผสมต่างๆ เข้าสู่ผิวได้ดี เข้ากันได้กับส่วนผสมหลายชนิดและทนความร้อนได้ถึง 80°C มีระบุว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Niacinamide และ Hyaluronic Acid ได้
• Dipotassium Glycyrrhizate: ส่วนผสมนี้ช่วยลดการระคายเคืองและเสริมความแข็งแรงให้ผิว มีความเสถียรในช่วง pH 4-7 และควรผสมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 60°C
• Odor Kill™: ส่วนผสมนี้ช่วยดูดซับกลิ่นในสูตร ละลายน้ำได้และควรผสมในน้ำ หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 50°C ข้อควรระวังคืออาจดูดซับกลิ่นน้ำหอมในสูตรได้ด้วย
• Satin Cream Maker™: เป็นสารอิมัลซิไฟเออร์และสารเพิ่มความข้นที่ไม่ต้องใช้ความร้อน และทำงานได้ในช่วง pH กว้าง (3-12) ผสมในส่วนของน้ำก่อนเติมส่วนของน้ำมัน

สรุป

แม้ว่าส่วนผสมส่วนใหญ่ในสูตรของคุณจะเข้ากันได้ดี แต่การผสม Copper Peptide และ Niacinamide (Safe B3) ในสูตรเดียวกันนั้น ไม่แนะนำ และอาจทำให้ประสิทธิภาพของส่วนผสมทั้งสองลดลงได้

เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากส่วนผสมออกฤทธิ์ทั้งหมด โดยเฉพาะ Copper Peptide และ Niacinamide ขอแนะนำอย่างยิ่งให้หลีกเลี่ยงการผสมทั้งสองตัวนี้ในสูตรเดียวกัน คุณอาจพิจารณาทำผลิตภัณฑ์แยกกันสองสูตร: สูตรหนึ่งมี Copper Peptide และอีกสูตรหนึ่งมี Niacinamide พร้อมกับส่วนผสมอื่นๆ ที่เข้ากันได้ หรือหากต้องการใช้ทั้งสองตัว ให้ทาคนละเวลาของวันค่ะ