การใช้วิตามินซี (L-Ascorbic Acid) เพื่อผิวกาย และรีวิวเซรั่มบำรุงผิวหน้า

การใช้วิตามินซี (L-Ascorbic Acid) ผสมน้ำหรือโลชั่นทาตัว

จากคำแนะนำของคุณ Staff เรื่องการผสม L-ascorbic acid 15% กับน้ำเพื่อใช้เป็นโทนเนอร์ทาตัวนั้น สามารถทำได้ค่ะ แต่สำหรับอายุการใช้งานนั้น ไม่สามารถระบุเป็นจำนวนวันที่แน่นอนได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เช่น แสงแดด อุณหภูมิ และการสัมผัสอากาศ

• การสังเกตการเสื่อมสภาพ: ให้สังเกตจากการเปลี่ยนสี หากสารละลายเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนๆ แสดงว่าวิตามินซีเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ประสิทธิภาพจะค่อยๆ ลดลงตามความเข้มของสีเหลืองที่มากขึ้น แม้จะยังสามารถใช้ต่อได้ แต่ประสิทธิภาพจะไม่เท่าเดิม
• การผสมกับ Body Lotion: การนำผง L-ascorbic acid มาผสมกับ Body Lotion โดยตรงก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ แต่คุณสมบัติเรื่องความไม่เสถียรของ L-ascorbic acid เมื่อละลายในเบสที่มีน้ำก็ยังคงอยู่ ไม่แตกต่างจากการผสมกับน้ำเปล่ามากนัก ดังนั้น หากผสมแล้วก็ควรใช้ให้หมดในระยะเวลาอันสั้นเช่นกัน

ทางเลือกเพื่อความเสถียรในการใช้ระยะยาว

เนื่องจาก L-ascorbic acid มีความไม่เสถียรสูงเมื่อละลายในน้ำ ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของโลชั่น หากคุณต้องการผสมวิตามินซีใน Body Lotion เพื่อใช้ทาผิวกายในระยะยาวหลายสัปดาห์ คุณ Staff แนะนำให้พิจารณาใช้วิตามินซีในรูปแบบที่มีความเสถียรมากกว่า เช่น

• Ascorbyl Glucoside (AA-2G): เป็นวิตามินซีที่มีความเสถียรสูง สามารถละลายน้ำได้ และถูกเปลี่ยนเป็น L-ascorbic acid เมื่อซึมเข้าสู่ผิว ทำให้มีประสิทธิภาพในการปรับสีผิวให้กระจ่างใสและลดเลือนจุดด่างดำได้ดีในระยะยาว
• สูตร Vitamin C E Ferulic: เป็นสูตรที่ใช้ L-ascorbic acid เป็นส่วนประกอบหลัก แต่มีการเสริม Vitamin E และ Ferulic Acid เพื่อช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับ L-ascorbic acid ทำให้สูตรมีความคงตัวมากขึ้น

การเลือกใช้วิตามินซีรูปแบบที่เสถียรจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ที่คุณผสมมีอายุการใช้งานนานขึ้นและคงประสิทธิภาพได้ดีกว่าการใช้ L-ascorbic acid แบบผงผสมโดยตรงในเบสที่มีน้ำค่ะ

รีวิวผลลัพธ์เซรั่มบำรุงผิวหน้า

ขอบคุณที่แบ่งปันผลลัพธ์การใช้เซรั่มบำรุงผิวหน้าที่คุณผสมเองค่ะ ยินดีด้วยที่เห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจมากหลังจากใช้มาเกือบ 1 เดือน โดยผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น มีชีวิตชีวา ไม่โทรม และดูสุขภาพดีขึ้น ผิวดูเด้งขึ้นด้วยค่ะ

ส่วนผสมที่คุณใช้ในสูตรเซรั่มบำรุงผิวหน้า ได้แก่:

• Glucosamine (N-acetyl-D) 4%
• Alpha Arbutin 2%
• Licorice Root Extract (Licochalcone A) 1%
• Vitamin B3 (Niacinamide) 5%
• Matrixyl™ 3000 8%
• Apple Stem Cell Extract 5%
• Allantoin 0.2-0.5%
• Repair Activator 10%
• Zinc PCA 1%

ส่วนผสมเหล่านี้เป็นกลุ่มสารออกฤทธิ์ที่มีคุณสมบัติหลากหลาย ทั้งด้าน Whitening (Glucosamine, Alpha Arbutin, Vitamin B3), Anti-Acne (Licorice Root Extract, Vitamin B3, Zinc PCA), Anti-Aging (Vitamin B3, Matrixyl™ 3000, Apple Stem Cell Extract, Repair Activator), และ Anti-Irritant (Licorice Root Extract, Allantoin) การผสมผสานสารเหล่านี้ในความเข้มข้นที่เหมาะสมจึงช่วยเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามที่คุณสังเกตได้ค่ะ