คำถามการปรุง: การเพิ่มส่วนผสมในครีม สบู่ และโทนเนอร์ BHA

ถามโดย: abalahay เมื่อ: March 24, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีคำถามเกี่ยวกับการปรุงผลิตภัณฑ์หลายชนิดค่ะ ตอนนี้ใช้ Ceramide และ Repair Activator™ ในสูตรอยู่เป็นประจำ และอยากขอคำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ

  1. สำหรับ ครีม Ceramide Anti-Irritant ที่ใช้อยู่ สามารถเพิ่มส่วนผสมต่อไปนี้ได้หรือไม่คะ และยังคงใช้ได้ทุกวันหรือไม่?
    • วิตามินบี 3 (Niacinamide) และ N-Acetyl Glucosamine เพื่อช่วยเรื่องผิวขาวและลดจุดด่างดำ
    • Repair Activator™ (Bifida Ferment Lysate)
  2. ช่วยแนะนำสูตรสำหรับ ผิวผสม ที่มีลักษณะแก้มแห้ง ทีโซนมัน ผิวขาดความชุ่มชื้น และหมองคล้ำได้ไหมคะ ควรใช้ส่วนผสมหลักและเบสแบบไหนดี?
  3. ทำ สบู่ก้อนทำมือ จากน้ำมันและโซดาไฟ มีผู้ใช้บางรายมีอาการระคายเคือง สามารถเพิ่มสารลดการระคายเคือง เช่น Bisabolol ลงในสูตรสบู่ได้หรือไม่คะ และมีข้อควรพิจารณาอะไรบ้าง?
  4. ต้องการเพิ่มกลิ่นหอมอ่อนๆ เช่น Lavender Oil หรือ Bisabolol ลงใน โทนเนอร์ BHA (ที่มี Salicylic Acid) ซึ่งเป็นเบสเป็นน้ำ จะสามารถนำส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันมาใส่ในโทนเนอร์เบสน้ำได้อย่างไรคะ?

คำตอบ

คำแนะนำการปรุง

นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับคำถามการปรุงของคุณ:

1. ครีม Ceramide Anti-Irritant

เกี่ยวกับการเพิ่มวิตามินบี 3 (Niacinamide), N-Acetyl Glucosamine และ Repair Activator™ (Bifida Ferment Lysate) ลงในครีม Ceramide ของคุณ:

  • การเพิ่มวิตามินบี 3 และ N-Acetyl Glucosamine เพื่อผิวขาว: ได้ คุณสามารถเพิ่มวิตามินบี 3 (Niacinamide) และ N-Acetyl Glucosamine ลงในครีม Ceramide ของคุณเพื่อเพิ่มความขาวและลดจุดด่างดำ วิตามินบี 3 เช่น Safe-B3™ มีคุณสมบัติช่วยลดรอยแดง/ดำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างเซราไมด์และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว N-Acetyl Glucosamine (GlucoBright™) ก็เป็นสารที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้นและทำงานได้ดีเมื่อใช้ร่วมกับ Niacinamide นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
  • การเพิ่ม Repair Activator™: ได้เช่นกัน คุณสามารถเพิ่ม Repair Activator™ (Bifida Ferment Lysate) ลงในสูตรได้ สารอย่าง Repair Activator™ BG และ Bifida Repair Complex™ มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซม DNA ของผิว และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ซึ่งเสริมประโยชน์ของครีม Ceramide สารเหล่านี้มักละลายน้ำได้และควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายของการผสม โดยหลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 40°C สำหรับ Bifida Repair Complex
  • การใช้ทุกวัน: ครีม Ceramide โดยเฉพาะสูตรที่ออกแบบมาเพื่อลดการระคายเคืองและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว มักเหมาะสำหรับการใช้ทุกวันอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มวิตามินบี 3, N-Acetyl Glucosamine และ Repair Activator™ ในอัตราส่วนที่แนะนำไม่ควรทำให้ไม่สามารถใช้ได้ทุกวัน วิตามินบี 3 ยังช่วยต้านการระคายเคืองได้ด้วย

2. สูตรแนะนำสำหรับผิวผสม (แก้มแห้ง, ทีโซนมัน, ผิวขาดความชุ่มชื้นและหมองคล้ำ)

สำหรับผิวผสมที่มีลักษณะแก้มแห้ง ทีโซนมัน ผิวขาดความชุ่มชื้น และหมองคล้ำ จำเป็นต้องใช้แนวทางที่สมดุล คุณต้องการส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นเพียงพอในบริเวณที่แห้ง โดยไม่ทำให้บริเวณทีโซนมันเยิ้มมากขึ้น พร้อมทั้งส่วนผสมที่ช่วยจัดการกับความหมองคล้ำ

  • สารให้ความชุ่มชื้น: ควรมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น โดยเฉพาะในเบสครีมที่มีส่วนของน้ำมัน Shea Butter และ Jojoba Oil เป็นตัวเลือกที่ดี Shea Butter ให้ความชุ่มชื้นสูง ในขณะที่ Jojoba Oil มีโครงสร้างคล้ายกับน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ทำให้เป็นสารให้ความนุ่มที่ไม่อุดตันรูขุมขนได้ง่าย และช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมัน ควรผสมในลักษณะครีมที่มีส่วนของน้ำมันอย่างน้อย 15% ตามคำแนะนำ
  • การจัดการความหมองคล้ำ: เพื่อปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้นและลดความหมองคล้ำ ควรเพิ่มวิตามินบี 3 (Niacinamide) และ N-Acetyl Glucosamine (GlucoBright™) ดังที่กล่าวไป สารเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผิวขาวขึ้นและปรับปรุงสีผิวโดยรวม วิตามินบี 3 ยังช่วยควบคุมการขับน้ำมัน ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับบริเวณทีโซนที่มัน
  • การเสริมเกราะป้องกันผิว: สารอย่าง Ceramides (พบในผลิตภัณฑ์เช่น Ceramide Complex หรือ Skin-Barrier™) มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมในการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ซึ่งสำคัญสำหรับทั้งบริเวณที่แห้งและมัน และช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สูตรที่ผสมผสานเบสครีมที่มีน้ำมันให้ความชุ่มชื้นอย่าง Shea Butter และ Jojoba Oil ร่วมกับ Niacinamide, N-Acetyl Glucosamine และ Ceramides จะช่วยจัดการปัญหาผิวแห้ง ผิวมัน และความหมองคล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การเพิ่มสารลดการระคายเคืองในสบู่ก้อนทำมือ

หากผู้ใช้บางรายมีอาการแพ้หรือระคายเคืองจากสบู่ก้อนน้ำมัน+โซดาไฟที่คุณทำ ในขณะที่บางรายไม่มี แสดงว่าปัญหาอาจเกี่ยวข้องกับสูตรเฉพาะ ส่วนผสมที่ใช้ หรือกระบวนการผลิตสบู่ (เช่น ระดับ Superfatting หรือระยะเวลาบ่ม) แม้ว่าสบู่ที่ทำจากโซดาไฟโดยทั่วไปจะสามารถทนได้ดีหลังจากการเกิดปฏิกิริยาสมบูรณ์และการบ่มที่เหมาะสม การเพิ่มสารลดการระคายเคืองอาจช่วยได้

  • Bisabolol: Bisabolol (มีทั้ง Natural Bisabolol และ Alpha Bisabolol) เป็นที่รู้จักในคุณสมบัติลดการระคายเคือง เป็นสารที่ละลายในน้ำมันและอาจสามารถนำมาผสมในสูตรสบู่ได้ อย่างไรก็ตาม ความคงตัวและประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่มี pH สูงของสบู่จำเป็นต้องมีการทดสอบอย่างรอบคอบ

แนะนำให้ตรวจสอบสูตรและกระบวนการทำสบู่ของคุณก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเกิดปฏิกิริยาสมบูรณ์และมีระดับ Superfatting ที่เพียงพอ เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สบู่อ่อนโยน หากการระคายเคืองยังคงอยู่ คุณอาจทดลองเพิ่ม Bisabolol ในปริมาณเล็กน้อย โดยคำนึงถึงความสามารถในการละลายและความคงตัวในเนื้อสบู่

4. การเพิ่มกลิ่นหอมในโทนเนอร์ BHA

คุณสามารถเพิ่มกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้กับโทนเนอร์ BHA ของคุณได้ แต่การเพิ่มส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน เช่น Lavender Oil หรือ Bisabolol ลงในโทนเนอร์ที่มีเบสเป็นน้ำโดยตรง จำเป็นต้องใช้สารช่วยละลาย (Solubilizer)

  • การใช้สารช่วยละลาย: ในการผสม Lavender Oil หรือ Bisabolol (ซึ่งละลายในน้ำมัน) ลงในโทนเนอร์ที่มีเบสเป็นน้ำซึ่งมี Salicylic Acid (BHA) คุณจะต้องใช้สารช่วยละลาย เช่น Flora Solve Clear™ ผลิตภัณฑ์นี้ออกแบบมาเพื่อช่วยกระจายน้ำหอมและน้ำมันหอมระเหยในสูตรที่มีเบสเป็นน้ำ โดยไม่ต้องใช้แอลกอฮอล์ คุณจะต้องผสมน้ำมัน (Lavender Oil หรือ Bisabolol) กับสารช่วยละลายก่อน แล้วจึงนำส่วนผสมนี้ไปเติมลงในเบสโทนเนอร์
  • Lavender Water: อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้ Lavender Water ซึ่งเป็นน้ำที่ได้จากการกลั่นลาเวนเดอร์ และสามารถใช้ได้โดยตรงในสูตรที่มีเบสเป็นน้ำ ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ตามธรรมชาติ และมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ
  • Bisabolol Benefits: แม้ว่า Bisabolol จะเป็นสารลดการระคายเคืองเป็นหลัก แต่ก็ละลายในน้ำมันและจำเป็นต้องใช้สารช่วยละลายหากต้องการเติมลงในโทนเนอร์ที่มีเบสเป็นน้ำ คุณสมบัติลดการระคายเคืองของ Bisabolol อาจเป็นประโยชน์ในโทนเนอร์ BHA เนื่องจาก BHA บางครั้งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้

เมื่อเพิ่มส่วนผสมใดๆ โดยเฉพาะน้ำหอมหรือน้ำมัน ลงในโทนเนอร์ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสูตรยังคงใสและคงตัว และทดสอบการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น.

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)
Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)
เครื่องสำอาง
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Shea Butter (Refined , Deodorised)
Shea Butter (Refined , Deodorised)
เครื่องสำอาง
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
เครื่องสำอาง
Jojoba Oil (Clear - Deodorized)
Jojoba Oil (Clear - Deodorized)
เครื่องสำอาง
Lavender Water (Lavandula Angustifolia)
Lavender Water (Lavandula Angustifolia)
เครื่องสำอาง
Bisabolol (Alpha Bisabolol, Bisabolol RAC)
Bisabolol (Alpha Bisabolol, Bisabolol RAC)
เครื่องสำอาง
Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)
เครื่องสำอาง
Ceramide Complex (Water/Oil Dispersible Powder)
Ceramide Complex (Water/Oil Dispersible Powder)
เครื่องสำอาง
Golden Shea Butter (Virgin, Ghana)
Golden Shea Butter (Virgin, Ghana)
เครื่องสำอาง
ActiveRelease™ Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
ActiveRelease™ Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Cera-Flux V (Water Dispersible Ceramide Complex, 3 Types)
Cera-Flux V (Water Dispersible Ceramide Complex, 3 Types)
เครื่องสำอาง
Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity)
Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity)
เครื่องสำอาง
Cera-Flux VX (Water Dispersible Ceramide Complex, 5 Types)
Cera-Flux VX (Water Dispersible Ceramide Complex, 5 Types)
เครื่องสำอาง