คำถามเกี่ยวกับการทำสูตรเซรั่ม/โทนเนอร์เพื่อผิวกระจ่างใสและชุ่มชื้น

ถามโดย: petchy23 เมื่อ: May 07, 2013 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันกำลังทำสูตรสกินแคร์โดยใช้ Alpha Arbutin, Niacinamide และ Kojic Acid และมีปัญหาผิวแห้งมาก ผิวมัน และขาดความชุ่มชื้นอย่างรุนแรง จึงต้องการทำสูตรแยกเพื่อเน้นความชุ่มชื้นแบบ "เติมน้ำให้ผิว" โดยเฉพาะ ฉันได้อ่านคำอธิบายวัตถุดิบแล้ว แต่ยังต้องการคำแนะนำว่าสารให้ความชุ่มชื้นตัวไหน ดีที่สุด หรือควรใช้ร่วมกัน 3-4 อย่าง จึงอยากสอบถามว่า:

  • สารให้ความชุ่มชื้นตัวใดมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผิวแห้ง ขาดน้ำ?
  • ส่วนผสมเช่น Hyaluronic Acid, Sea Kelp Extract และ Allantoin เหมาะสมหรือไม่?
  • ขั้นตอนการผสมวัตถุดิบเหล่านี้ รวมถึงสารปรับผิวขาว (Alpha Arbutin, Niacinamide, Kojic Acid) และสารให้ความชุ่มชื้น ควรทำอย่างไร? (Mixing Procedure)
  • มีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้หรือวิธีการละลายพิเศษที่จำเป็นหรือไม่?
  • รูปแบบผลิตภัณฑ์สุดท้าย (โทนเนอร์ vs. เซรั่ม) มีผลต่อการดูดซึมหรือประสิทธิภาพของสารหรือไม่?
  • สัดส่วนการใช้สารให้ความชุ่มชื้นที่แนะนำคือเท่าใด?
  • และขอความกระจ่างเรื่องการละลายของ N-Acetyl Glucosamine ด้วยครับ

คำตอบ

ข้อมูลการทำสูตร Alpha Arbutin, Niacinamide, Kojic Acid และส่วนผสมอื่นๆ

จากคำถามของคุณและข้อมูลที่ได้รับจากทีมงาน MySkinRecipes ขอสรุปข้อมูลและคำแนะนำดังนี้ครับ

1. การผสมในน้ำและการใช้สารเพิ่มความหนืด (Xanthan gum)

คุณสามารถนำส่วนผสมหลักทั้งสาม ได้แก่ Alpha Arbutin, Niacinamide และ Kojic Acid ซึ่งละลายน้ำได้ ไปผสมกับน้ำกลั่นเพื่อทำเป็น Toner ได้เลยครับ การจะใส่ Xanthan gum เพื่อเพิ่มความหนืดให้เป็นเนื้อ Serum หรือ Gel นั้น ขึ้นอยู่กับความชอบเนื้อสัมผัสของคุณเอง ซึ่งทีมงานยืนยันว่าการทำเป็น Toner (เนื้อน้ำ) หรือ Serum (เนื้อเจล) ไม่ได้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสามารถในการซึมเข้าสู่ผิวสำหรับสูตรนี้ครับ สิ่งสำคัญคือสารออกฤทธิ์ที่ผสมอยู่

2. อายุการใช้งานของสูตร

สูตรที่มีส่วนผสมของ Alpha Arbutin, Niacinamide และ Kojic Acid สามารถมีอายุการใช้งานได้อย่างน้อย 1 ปี หากเก็บให้พ้นจากแสงแดดและความร้อนโดยตรง อย่างไรก็ตาม เพื่อความเสถียรและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น จำเป็นต้องใส่สารกันเสีย เช่น Phenoxyethanol ในอัตรา 1% และควรเติม Disodium EDTA ในอัตรา 0.2% เพื่อช่วยจับประจุในน้ำและเพิ่มความเสถียรของสูตรครับ

3. Hyaluronic Acid Nano เพื่อความชุ่มชื้น

ทีมงานยืนยันว่า Hyaluronic Acid ดีกว่า Glycerin มากในการให้ความชุ่มชื้น และแนะนำให้ใช้ Hyaluronic Acid Nano เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวที่แห้งมากของคุณ Hyaluronic Acid Nano มีขนาดโมเลกุลเล็ก สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ลึกเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นภายในผิว

สำหรับค่า pH ของสูตร: Alpha Arbutin และ Kojic Acid มีค่า pH ค่อนข้างต่ำเล็กน้อย ส่วน Niacinamide มีค่า pH กลางๆ ตราบใดที่ค่า pH สุดท้ายของสูตรไม่ต่ำกว่า 4.0 ก็ไม่มีปัญหา ซึ่งจากส่วนผสมที่คุณแจ้งมา ไม่น่ากังวลเรื่องค่า pH ครับ Alpha Arbutin ทำงานได้ดีในช่วง pH 3.5-6.5

ปริมาณการใช้ Hyaluronic Acid Nano ที่แนะนำคือ 0.1-0.5% ส่วน Glycerin สามารถใช้ได้ตั้งแต่ 1-100% แต่ไม่เหมาะกับการทาลงผิวโดยตรง ในสูตรมักใช้ประมาณ 1-10%

4. สารช่วยละลายหรือนำพาสารเข้าสู่ผิว

สำหรับส่วนผสมหลักที่คุณต้องการใช้ (Alpha Arbutin, Niacinamide, Kojic Acid) ไม่จำเป็นต้องใส่สารอื่นเพิ่มเติมเพื่อช่วยในการละลายหรือนำพาสารเข้าสู่ผิวครับ สารเหล่านี้ละลายได้ดีในน้ำและสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้เอง

5. สีของสูตรและการเปื้อนเสื้อ

Vitamin C บริสุทธิ์ไม่มีสี แต่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อเสื่อมสภาพ ส่วนสูตรของคุณที่มี Alpha Arbutin, Niacinamide และ Kojic Acid นั้น Niacinamide และ Alpha Arbutin เป็นผงสีขาว Kojic Acid อาจมีสีอ่อนๆ ถึงเหลืองอ่อนได้ แต่โดยรวมแล้วสูตรนี้ไม่น่าจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้มและเปื้อนเสื้อเหมือน Vitamin C ที่เสื่อมสภาพครับ

6. ความเห็นเกี่ยวกับ Hyaluronic Acid, Sea Kelp Bioferment, Allantoin

คุณสามารถเพิ่มส่วนผสมเหล่านี้ในสูตรได้ตามความต้องการและคุณสมบัติที่คุณต้องการให้สูตรมีครับ

  • Hyaluronic Acid Nano: ดีเยี่ยมสำหรับการให้ความชุ่มชื้นลึกถึงผิวชั้นใน ช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวอิ่มน้ำ
  • Sea Kelp Extract: เป็นสารสกัดจากสาหร่ายทะเล มีลักษณะเป็นเจล ให้ความชุ่มชื้น บำรุงผิว ช่วยปรับสมดุล เสริมเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ และมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับผิวคือ 1-3%
  • Allantoin: ช่วยลดการระคายเคือง การแพ้ต่างๆ และช่วยเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ปลอดภัยและอ่อนโยน อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 0.1-2.0% (แนะนำ 0.5% สำหรับการละลายในน้ำที่อุณหภูมิห้อง)

7. Glucosamine (N-acetyl-D) การละลาย

ทีมงานได้แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องแล้วครับ N-Acetyl Glucosamine (GlucoBright™) ละลายได้ในน้ำ ไม่ได้ละลายในน้ำมัน และเป็นส่วนผสมที่ทีมงานแนะนำให้ใช้ร่วมกับ Niacinamide เพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านความกระจ่างใสและช่วยกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid ในผิวตามธรรมชาติ อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 1-8% (แนะนำ 4% เมื่อใช้ร่วมกับ Niacinamide 2-4%)

คำถามเพิ่มเติมและการทำสูตร

  • การสั่งซื้อสินค้า: การตรวจสอบสต็อกสินค้าต้องทำผ่านหน้าเว็บไซต์โดยตรง หากสินค้าหมดจะไม่สามารถสั่งซื้อได้ และไม่สามารถสั่งรวมกันแล้วแยกส่งภายหลังได้ครับ
  • การชั่งส่วนผสม: การใช้ตาชั่งดิจิทัลเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุดในการวัดปริมาณส่วนผสมแต่ละชนิดเพื่อให้ได้เปอร์เซ็นต์ตามที่ต้องการ เนื่องจากสารแต่ละชนิดมีความหนาแน่นไม่เท่ากัน การตวงด้วยปริมาตรอาจไม่แม่นยำ
  • ขั้นตอนการผสม: ส่วนผสมส่วนใหญ่ในสูตรนี้ (Alpha Arbutin, Niacinamide, Kojic Acid, N-Acetyl Glucosamine, Allantoin, Disodium EDTA, Phenoxyethanol, Glycerin, Sea Kelp Extract) สามารถละลายในน้ำอุณหภูมิห้องได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ความร้อนสูงถึง 70 องศาเซลเซียส ยกเว้น Hyaluronic Acid Nano ที่ต้องใช้วิธีการละลายเฉพาะ (มักจะค่อยๆ โปรยลงในน้ำและคนหรือทิ้งไว้ให้ละลายเอง)
    • ขั้นตอนที่แนะนำ:
      1. เตรียมน้ำบริสุทธิ์ (น้ำกลั่น หรือน้ำ RO ที่ต้มแล้ว)
      2. เติม Disodium EDTA และสารกันเสีย (Phenoxyethanol) ลงในน้ำ คนให้ละลาย
      3. เติมส่วนผสมที่เป็นผงที่ละลายน้ำง่ายอื่นๆ (Alpha Arbutin, Niacinamide, Kojic Acid, N-Acetyl Glucosamine, Allantoin) ลงไป คนหรือคนด้วยเครื่องผสมจนละลายหมด
      4. เติมส่วนผสมที่เป็นของเหลว (Glycerin, Sea Kelp Extract) ลงไป คนให้เข้ากัน
      5. สุดท้าย ค่อยๆ โปรย Hyaluronic Acid Nano ลงบนผิวน้ำทีละน้อย พร้อมคนเบาๆ หรือทิ้งไว้ให้ค่อยๆ ดูดน้ำและละลายจนหมด (อาจใช้เวลา) หรือทำ Hyaluronic Acid Gel แยกก่อนแล้วค่อยนำมาผสมในขั้นตอนนี้
      6. ปรับ pH หากจำเป็น (โดยทั่วไปสูตรนี้ pH ควรอยู่ในช่วง 4.0-6.5)
  • เนื้อผลิตภัณฑ์กับการดูดซึม: ตามที่ทีมงานแจ้ง การทำเป็น Toner หรือ Serum ไม่ได้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดูดซึมของสารในสูตรนี้ครับ
  • สารให้ความชุ่มชื้นที่ดีที่สุดสำหรับผิวแห้งมาก: จากข้อมูล Hyaluronic Acid Nano เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับการให้ความชุ่มชื้นลึกถึงผิวชั้นใน นอกจากนี้ Sea Kelp Extract และ Glycerin ก็ช่วยเสริมเรื่องความชุ่มชื้นได้เช่นกัน การใช้สารให้ความชุ่มชื้นหลายชนิดร่วมกัน (เช่น Hyaluronic Acid หลายขนาดโมเลกุล, Glycerin, Sea Kelp Extract) สามารถช่วยให้ความชุ่มชื้นได้ครอบคลุมและหลากหลายกลไกมากขึ้นครับ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการทำสูตรของคุณนะครับ!

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)
Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Allantoin
Allantoin
เครื่องสำอาง
Sea Kelp Extract
Sea Kelp Extract
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Kojic Acid
Kojic Acid
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Nano Molecule, 800daltons)
Hyaluronic Acid (Nano Molecule, 800daltons)
เครื่องสำอาง