คำถามเกี่ยวกับการผสมสูตรเซรั่มสำหรับผิวแพ้ง่ายและปัญหาการผสม
คำถาม
มีคำถามหลายข้อเกี่ยวกับการผสมสูตรเครื่องสำอาง โดยเฉพาะเซรั่มสำหรับผิวแพ้ง่าย
- ทำไมส่วนผสม active บางรายการถึงไม่มีให้เลือกใน Ready-to-use base?
- นอกจากค่า pH และความสามารถในการละลายแล้ว มีปัจจัยอื่นใดอีกบ้างที่ส่งผลต่อความเข้ากันได้ของสาร? สามารถใส่ active ingredient ได้หลายชนิดในสูตรเดียวหรือไม่?
- เป็นไปได้หรือไม่ที่จะแพ้ Niacinamide (Vitamin B3)? มีวิธีทดสอบการแพ้อย่างไร?
- ได้พัฒนาสูตรสำหรับผิวแพ้ง่ายที่เน้นลดการระคายเคืองและให้ความชุ่มชื้น โดยใช้ส่วนผสมดังนี้: Hyaluronic Acid (Standard HA, Nano HA), Allantoin, Sea Kelp Bioferment, Sodium PCA, Sodium Lactate, Calendula Extract, Green Tea Extract EGCG, และ Aloe Vera Extract.
- สัดส่วนส่วนผสมที่ใช้เหมาะสมหรือไม่?
- จำเป็นต้องต้มน้ำดื่มสะอาดก่อนนำมาใช้ผสมหรือไม่?
- ปริมาณสาร active ที่ใส่จะทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์หนืดเกินไป หรือลดประสิทธิภาพของสารแต่ละชนิดลงหรือไม่?
- ขั้นตอนการผสมสูตรนี้ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการละลาย Hyaluronic Acid?
- สามารถเติมผง Ectoin ลงในผลิตภัณฑ์ที่ผสมเสร็จแล้วในภายหลังได้หรือไม่? มีวิธีการเติมอย่างไร? จะทำให้สูตรเจือจางลงมากน้อยแค่ไหน? ความเข้มข้นที่เหมาะสมที่สุดของ Ectoin คือเท่าใด?
- สามารถใช้ Xanthan Gum เพื่อเพิ่มความหนืดได้อย่างไร? มีสูตรประเภทใดบ้างที่ไม่ควรใช้ Xanthan Gum?
- การทำสูตรเป็นเนื้อครีม base จะทำให้สามารถใส่สาร active ที่ละลายน้ำได้ในความเข้มข้นสูงกว่า gel base โดยที่เนื้อไม่หนืดเกินไปได้จริงหรือไม่?
- ปัจจุบันมีบรรจุภัณฑ์ขวดสีชาหัวปั๊มจำหน่ายหรือไม่?
- พบปัญหาในการผสม:
- Hyaluronic Acid เป็นก้อน มีวิธีแก้ไขหรือป้องกันอย่างไร?
- การเติม Ectoin ทำให้เกิดตะกอนสีดำ เกิดจากอะไร? ยังสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้หรือไม่?
- ผลิตภัณฑ์เซรั่มสำหรับผิวแพ้ง่ายที่ผสมเองนี้ ควรใช้ในขั้นตอนใด? ทำไมถึงรู้สึกเหนียวเหนอะหนะเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปบางยี่ห้อ เช่น Hada Labo?
คำตอบ
คำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับการผสมสูตร
1. ส่วนผสม Active ใน Ready-to-use Base
เหตุผลที่ส่วนผสม active บางรายการไม่มีให้เลือกใน Ready-to-use base ไม่ได้หมายความว่าส่วนผสมเหล่านั้นเข้ากันไม่ได้กับเบสที่มีอยู่ค่ะ แต่เป็นเพราะกระบวนการผสมส่วนผสมบางชนิด เช่น Beta Glucan ต้องใช้ความร้อนและเวลาในการละลาย ซึ่งห้องแล็บอาจไม่สะดวกในการผสมให้ในทุกคำสั่งซื้อเนื่องจากมีจำนวนมากค่ะ คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลความเข้ากันได้ของส่วนผสมแต่ละรายการได้จากหน้ารายละเอียดผลิตภัณฑ์นั้นๆ ค่ะ
2. หลักการพิจารณาความเข้ากันได้ของสารต่างๆ
หลักการสำคัญในการพิจารณาความเข้ากันได้ของสารต่างๆ คือค่า pH และความสามารถในการละลายค่ะ อย่างที่คุณเข้าใจถูกต้อง แต่การที่สารต่างๆ มี pH และความสามารถในการละลายที่เหมาะสม ไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถใส่ active ingredient ได้จำนวนเท่าใดก็ได้ค่ะ การใส่สาร active ในปริมาณที่มากเกินไปหรือหลายชนิดเกินไป อาจทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์เหนียวเหนอะหนะและไม่น่าใช้ ซึ่งเป็นเรื่องของ "ศิลปะ" ในการผสมสูตรด้วยค่ะ การใส่สาร active หลายชนิดในปริมาณมากเกินไปอาจไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพขึ้นเสมอไป แต่จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็นค่ะ ควรใส่ในปริมาณที่พอเหมาะ หากต้องการใส่หลายชนิดก็ให้ลดปริมาณลงค่ะ
3. การแพ้ Niacinamide (Vitamin B3)
เป็นไปได้ค่ะที่จะมีอาการแพ้ Niacinamide แม้ว่าจะเป็น Vitamin B3 ซึ่งมีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ แต่โอกาสเกิดค่อนข้างน้อยค่ะ เนื่องจาก Niacinamide ไม่ใช่สารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวเลยค่ะ คุณสามารถทดสอบการแพ้ได้โดยผสม Niacinamide กับน้ำสะอาดให้ได้ความเข้มข้นประมาณ 4% แล้วลองทาบริเวณข้อพับแขนเพื่อทดสอบดูก่อนนำมาใช้กับผิวหน้าค่ะ
4. การประเมินสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย
สูตรที่คุณเสนอมาเน้นเรื่องการลดการระคายเคืองและให้ความชุ่มชื้น ถือเป็นสูตรที่ดีและไม่ซับซ้อนเกินไปค่ะ เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและมีรอยแดง การใส่ส่วนผสมต่างๆ ในปริมาณที่คุณระบุมานั้นอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมค่ะ ทางทีมงานแนะนำให้ลองเพิ่ม Niacinamide 4% เข้าไปในสูตรด้วยหลังจากทดสอบการแพ้แล้ว เนื่องจากเป็นสารที่มีประโยชน์มากในการเสริมเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ และช่วยเรื่องรอยแดงค่ะ
สำหรับน้ำดื่มสะอาดที่ใช้ผสม หากไม่แน่ใจในความสะอาด การต้มน้ำแล้วรอให้เย็นก่อนนำมาใช้ก็เป็นวิธีที่ดีในการฆ่าเชื้อค่ะ
ปริมาณสาร active ในสูตรนี้ไม่น่าจะทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์หนืดเกินไปจนใช้งานยากค่ะ และไม่น่าจะทำให้ประสิทธิภาพของสารต่างๆ ลดลงจากการใส่ร่วมกันในปริมาณนี้ค่ะ
วิธีผสม (ปรับปรุงตามคำแนะนำ):
- เตรียมน้ำสะอาด (หากต้องการ สามารถต้มแล้วรอให้เย็นก่อน)
- ใส่ส่วนผสมที่เป็นผงทั้งหมดลงในน้ำ (ยกเว้น Hyaluronic Acid และ Allantoin) คนหรือเขย่าให้ละลายเข้ากันดี
- ใส่ Hyaluronic Acid ทั้ง Standard HA และ Nano HA ลงไป ปิดฝาแล้วเขย่าแรงๆ ประมาณ 1-3 นาที จากนั้นนำไปแช่ใน ตู้เย็นช่องธรรมดา (อุณหภูมิ 4-10°C) อย่างน้อย 5 ชั่วโมง หรือจนกว่าผง HA จะละลายหมดและได้เนื้อเจลที่เข้ากันดี (อาจต้องนำออกมาเขย่าซ้ำหากยังมีก้อน) ห้ามนำไปแช่ช่องฟรีซ
- เมื่อได้เนื้อเจล HA ที่เข้ากันดีแล้ว จึงค่อยใส่ส่วนผสมที่เป็นของเหลวอื่นๆ ทั้งหมดลงไป ได้แก่ Sea Kelp Bioferment, Sodium PCA, Sodium Lactate, Calendula Extract, Green Tea Extract EGCG, Aloe Vera Extract และ Allantoin คนหรือเขย่าให้เข้ากันดี
- เสร็จแล้ว
5. การเติม Ectoin ในภายหลัง
คุณสามารถเติม Ectoin เพิ่มลงไปในสูตรที่ผสมเสร็จแล้วได้ค่ะ โดยละลายผง Ectoin ในน้ำสะอาดเล็กน้อย (เช่น 10ml) ให้ละลายหมดก่อน แล้วค่อยนำไปเติมลงในเนื้อผลิตภัณฑ์เดิม คนหรือเขย่าให้เข้ากันดี เนื่องจากสูตรของคุณมีปริมาณน้ำค่อนข้างมาก จึงสามารถเติม Ectoin ที่ละลายน้ำแล้วลงไปได้โดยตรงค่ะ
การเติม Ectoin เข้าไปจะทำให้ความเข้มข้นรวมของส่วนผสมอื่นๆ ในส่วนนั้นลดลงเล็กน้อย ซึ่งตามคำแนะนำของทีมงาน ความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยนี้ไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญค่ะ (แต่การใช้ Ectoin ที่ความเข้มข้น 2% ถือเป็นจุดที่คุ้มค่าที่สุดในแง่ประสิทธิภาพต่อค่าใช้จ่าย) การผสมแยกไว้ในอีกขวดหนึ่งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคุณ
6. การเพิ่มความหนืดด้วย Xanthan Gum
โดยทั่วไปแล้ว คุณสามารถใส่ Xanthan Gum ลงไปในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเพิ่มความหนืดได้ โดยคนหรือเขย่าให้เข้ากันจนได้เนื้อเจลหรือความหนืดที่ต้องการค่ะ Xanthan Gum สามารถใช้ได้ในสูตรส่วนใหญ่ที่เป็นน้ำค่ะ
อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นบางประการค่ะ Xanthan Gum อาจทำงานได้ไม่ดีหรือเกิดปัญหาในสูตรที่มีความเป็นด่างสูงมากๆ เช่น สบู่เหลวที่ใช้ Sodium Hydroxide เป็นสารทำความสะอาดค่ะ หากต้องการใช้ในสูตรเฉพาะเจาะจง ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ก่อนค่ะ
7. Base เนื้อครีม vs. Gel Base กับความเข้มข้นสาร Active
ความแตกต่างหลักระหว่าง base เนื้อครีมกับ gel base (water-gel) คือ base เนื้อครีมจะมีส่วนผสมของน้ำมันอยู่ด้วยค่ะ ในขณะที่ water-gel base จะเป็นเบสที่ใช้น้ำเป็นหลักและมีสารก่อเจล การทำ base เป็นเนื้อครีมไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถผสมสาร active ที่ละลายน้ำได้ในความเข้มข้นที่สูงกว่า gel base โดยที่เนื้อไม่หนืดเกินไปค่ะ ปริมาณความเข้มข้นสูงสุดของสาร active ที่สามารถใส่ได้โดยไม่ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์หนืดเกินไปขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของสาร active แต่ละชนิดและสารก่อเนื้อในสูตรค่ะ ไม่มีเปอร์เซ็นต์ตายตัวที่ใช้ได้กับทุกกรณีค่ะ
8. บรรจุภัณฑ์ขวดสีชาหัวปั๊ม
ข้อมูลเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ขวดสีชาหัวปั๊มที่จะเริ่มจำหน่ายในปีถัดไปที่ระบุในกระทู้ เป็นข้อมูลจากปี 2556 ซึ่งเก่าแล้วค่ะ ดิฉันไม่สามารถให้ข้อมูลปัจจุบันเกี่ยวกับกำหนดการจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวได้ค่ะ
9. ปัญหาการผสม (ก้อน HA, ตะกอน Ectoin)
- ก้อน HA: ปัญหา Hyaluronic Acid เป็นก้อนเกิดจากการละลายที่ไม่สมบูรณ์ค่ะ HA ละลายได้ดีในน้ำบริสุทธิ์และน้ำเย็น การแช่เย็นในตู้เย็น (ไม่ใช่ช่องฟรีซ) และการเขย่าหรือคนเป็นระยะจะช่วยให้ละลายได้ดีขึ้นค่ะ ตามคำแนะนำของทีมงาน การใส่ HA หลังจากละลายส่วนผสมผงอื่นๆ ในน้ำแล้ว แต่ก่อนใส่ส่วนผสมของเหลวอื่นๆ จะช่วยให้ HA ละลายง่ายขึ้นค่ะ หากเกิดก้อนและไม่สามารถละลายได้หมด แม้จะต้องตักส่วนที่เป็นก้อนออก ส่วนที่เหลือก็ยังสามารถใช้งานได้ค่ะ
- ตะกอน Ectoin: ตะกอนสีดำที่พบหลังจากเติม Ectoin เป็นเรื่องที่น่ากังวลค่ะ ทีมงานสงสัยว่าอาจเกิดการปนเปื้อนหรือผลิตภัณฑ์เสียได้ อย่างไรก็ตาม หากสังเกตแล้วตะกอนไม่ได้เพิ่มจำนวนขึ้นหลังจากผ่านไป 10 วัน ตามที่คุณแจ้ง แสดงว่าไม่น่าจะเกิดจากการเจริญเติบโตของเชื้อโรคค่ะ แต่อาจเป็นสิ่งสกปรกอื่นๆ หรือตะกอนจากส่วนผสมบางชนิด (เช่น Green Tea Extract EGCG ที่มีสีเข้ม) เพื่อความสบายใจ ควรพยายามตักตะกอนออกก่อนนำไปใช้ค่ะ
10. ขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมเอง
ผลิตภัณฑ์ที่คุณผสมขึ้นมานี้ควรใช้เป็น เซรั่ม ค่ะ ทาหลังจากทำความสะอาดผิวและอาจลงโทนเนอร์แล้ว ก่อนทาครีมบำรุงผิวค่ะ
ความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะที่คุณพบเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปบางยี่ห้อ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การที่สูตรของคุณไม่ได้ใส่สารที่ช่วยให้ความรู้สึก "ลื่น" ผิวขณะทา (Slip Agents) ซึ่งมักพบในผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์เพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัส หรืออาจเกิดจากปริมาณและความเข้มข้นของสารให้ความชุ่มชื้นหลายชนิดในสูตรของคุณค่ะ นอกจากนี้ Sea Kelp Bioferment หากใช้ในปริมาณสูง (เกิน 10%) ก็อาจทำให้เกิดคราบหรือความรู้สึกเหนอะหนะได้ค่ะ สูตรของคุณใช้ Sea Kelp Bioferment ที่ 10% ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดที่แนะนำเพื่อเลี่ยงปัญหานี้ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Allantoin

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)

Sea Kelp Extract

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Calendula Extract (Water Soluble)

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)

Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)

Sodium PCA 50%

Xanthan Gum (ชนิดเจลใส, เนื้อเนียนไม่ยืด)

Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract)

Hi-EGCG™ (Green Tea Extract)

Ectoine (Ectoin, from Bio-fermentation)

Sodium Lactate Plus

Hi-LiconeA™ Licorice Extract (Licochalcone A 20%)

Xanthan Gum (ชนิดเจลใส, เนื้อธรรมดา, 200 Mesh)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)
