คำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับการผสม

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณ โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ได้รับค่ะ

• การใช้เบสเจลว่านหางจระเข้: เบสเจลว่านหางจระเข้สามารถใช้ทาได้เลย หรือจะเพิ่มสารสกัดอื่นๆ เช่น สารสกัดบัวบก หรือสารสกัดชาเขียว เข้าไปเพื่อปรับปรุงสูตรก็ได้ค่ะ การใช้สารบำรุงหลายๆ ชนิดในปริมาณน้อยๆ จะให้ผลดีกว่าการใช้สารเพียงชนิดเดียวในปริมาณที่มากเกินไปค่ะ

• การเพิ่มความเข้มข้นของว่านหางจระเข้: สามารถเพิ่มสารสกัดว่านหางจระเข้ลงในเบสเจลได้ค่ะ โดยให้ผสมตามขั้นตอนปกติของการเติมสารลงในเบสเจลค่ะ

• การใช้สารสกัดเพียวๆ: ไม่สามารถใช้สารสกัดเพียวๆ (ไม่เจือจาง) ทาบนผิวได้ค่ะ

• อายุการเก็บรักษาเมื่อผสมน้ำโดยไม่ใส่สารกันเสีย: ไม่สามารถระบุอายุการเก็บรักษาที่แน่นอนได้ค่ะ หากผสมกับน้ำโดยไม่ใส่สารกันเสีย อายุการใช้งานจะสั้นมากและขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะความสะอาดในขั้นตอนการผสมค่ะ หากไม่มีสารกันเสีย มีความเสี่ยงสูงที่เชื้อจุลินทรีย์จะเติบโตและผลิตภัณฑ์จะเสียได้ง่ายค่ะ

• ราคาและปริมาณของเจลเทสเตอร์: เมื่อเพิ่มส่วนผสมลงในเจลเทสเตอร์ ระบบจะคำนวณราคาให้อัตโนมัติตามส่วนผสมที่เพิ่มเข้าไปค่ะ ปริมาณผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ได้หลังผสมจะเท่ากับ 100 กรัมเสมอค่ะ แนะนำว่าไม่ควรเลือกส่วนผสมเพิ่มเติมเกิน 25% ของสูตรรวมทั้งหมด เพื่อไม่ให้เนื้อผลิตภัณฑ์เหนียวเหนอะหนะ และเพื่อให้สามารถประเมินผลของสารแต่ละตัวได้ดีขึ้นค่ะ

• สูตรเจลว่านหางจระเข้ผสมบัวบก ชาเขียว และ B5: เบสเจลว่านหางจระเข้มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้และวิตามิน B5 อยู่แล้วค่ะ สำหรับผิวผสมที่มีส่วนที่แห้ง การคงวิตามิน B5 ไว้ในสูตรเหมาะสมที่จะช่วยให้ความชุ่มชื้นบริเวณที่แห้งค่ะ สามารถเพิ่มสารสกัดบัวบกและสารสกัดชาเขียวลงในเบสนี้ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ทางร้านไม่มีการให้ข้อมูลสัดส่วนสูตรผสมแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละบุคคลค่ะ สามารถดูตัวอย่างสูตรในห้องรวมสูตรเพื่อเป็นแนวทางได้ค่ะ

• การใช้ Cetyl Alcohol สร้างเนื้อครีม: ไม่สามารถใช้ Cetyl Alcohol เพียงอย่างเดียวเพื่อสร้างเนื้อครีมได้ค่ะ Cetyl Alcohol ทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความข้นและปรับเนื้อสัมผัส แต่ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นสารประสานเนื้อ (Emulsifier) เพื่อรวมน้ำกับน้ำมันให้เป็นเนื้อครีมได้ค่ะ หากต้องการทำเนื้อครีมจะต้องใช้เบสครีมสำเร็จรูปหรือสารประสานเนื้อ (Cream Maker) ค่ะ