การประเมินสูตรเซรั่ม

สูตรเซรั่มของคุณประกอบด้วยส่วนผสมออกฤทธิ์หลากหลายชนิดที่มุ่งเน้นประโยชน์ต่อผิวหลายด้าน ในการเตรียมสูตรนี้สำหรับการผลิตในโรงงาน จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของส่วนผสม ขั้นตอนการผสม และความคงตัวโดยรวม

1. ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการผสมสูตร

สูตรของคุณมีทั้งส่วนผสมที่ละลายน้ำและส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน/กระจายตัวได้ การรวมส่วนผสมเหล่านี้เข้าด้วยกันต้องใช้การผสมที่ระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อเข้ากันเป็นเนื้อเดียวและมีความคงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการความหนืดต่ำ การมีอิเล็กโทรไลต์ที่อาจเกิดขึ้นจากสารสกัดและส่วนผสมออกฤทธิ์ต่างๆ ยังสามารถส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของ Light Cream Maker และความคงตัวโดยรวมได้

2. การให้ความร้อน Cerasoft, Wild Yam และ Phytosphingosine

จากคุณสมบัติของส่วนผสมเหล่านี้:

• Cerasoft สามารถผสมในส่วนของน้ำมันและทนความร้อนได้ถึง 80°C เป็นเวลาไม่เกิน 15 นาที
• Wild Yam Extract ควรผสมในน้ำมัน ทนความร้อนได้ 60°C เป็นเวลาไม่เกิน 10 นาที
• Phytosphingosine ควรผสมในน้ำมันและทนความร้อนได้ถึง 80°C เป็นเวลาไม่เกิน 15 นาที จำเป็นต้องละลายในตัวทำละลายอินทรีย์ (เช่น น้ำมันหรือไกลคอล) ก่อนนำไปรวมกับสูตร

ใช่ คุณ สามารถ ให้ความร้อน Cerasoft ถึง 60°C และเติม Wild Yam Extract และ Phytosphingosine เพื่อละลาย/กระจายตัวได้ อย่างไรก็ตาม คุณ ต้องจำกัดอุณหภูมิความร้อนไว้ที่ 60°C และเวลาในการให้ความร้อนไม่เกิน 10 นาที เพื่อป้องกัน Wild Yam Extract ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผง Phytosphingosine ละลายหมดหรือกระจายตัวได้ดี

3. การกระจายตัวของ TECA

TECA เป็นผงที่ไม่ละลายในน้ำหรือน้ำมัน สามารถกระจายตัวได้โดยการปั่นในขั้นตอนสุดท้ายโดยไม่ต้องใช้ความร้อน แม้ว่าจะทำได้ แต่การทำให้ผง TECA 0.5% กระจายตัวได้อย่างคงตัวในเซรั่มที่มีความหนืดต่ำอาจเป็นเรื่องท้าทายและอาจทำให้เกิดการตกตะกอนได้ เพื่อให้เข้ากันได้ดีขึ้น อาจพิจารณาละลายใน Ethoxydiglycol ในปริมาณเล็กน้อยโดยใช้ความร้อนอ่อนๆ แต่คำอธิบายผลิตภัณฑ์แนะนำว่า "ห้ามใช้ความร้อน" เมื่อผสมลงในเนื้อครีม วิธีที่ปลอดภัยที่สุดตามคำอธิบายคือการปั่นกระจายแบบเย็นในขั้นตอนสุดท้าย แต่โปรดทราบถึงความเสี่ยงของการตกตะกอน

4. การใช้ Light Cream Maker ที่ 0.5%

การใช้ Light Cream Maker ที่ 0.5% อยู่ในระดับต่ำสุดที่แนะนำ (0.5-3% แนะนำ 1-1.5%) แม้ว่าจะช่วยให้ได้ความหนืดต่ำ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะ ไม่เพียงพอ ที่จะให้อิมัลชันที่แข็งแรงและการเพิ่มความหนืดสำหรับเซรั่มที่ซับซ้อนซึ่งมีส่วนผสมออกฤทธิ์หลากหลายชนิดและอาจมีอิเล็กโทรไลต์ ความเข้มข้นที่ต่ำนี้เพิ่มความเสี่ยงอย่างมากที่สูตรจะแยกชั้นหรือไม่คงตัว

5. ความหนืดจาก Phospholipid และ Light Cream Maker เพื่อความคงตัว

Phospholipid (1%) ทำหน้าที่หลักในการห่อหุ้มส่วนผสมหรือให้ประโยชน์ต่อผิว และไม่ได้มีส่วนช่วยอย่างมีนัยสำคัญต่อความหนืดโดยรวมหรือพลังในการทำอิมัลชัน Light Cream Maker ที่ 0.5% ให้ความหนืดน้อยมาก ผลรวม (1.5%) มีแนวโน้มที่จะ ไม่เพียงพอ ที่จะสร้างความหนืดหรือโครงสร้างที่เพียงพอเพื่อป้องกันการตกตะกอนของส่วนผสมที่เป็นของแข็งที่กระจายตัวอยู่ หรือเพื่อรักษาความคงตัวของอิมัลชันเมื่อเวลาผ่านไปในสูตรที่มีความหนืดต่ำ

คำแนะนำสำหรับการผลิตในโรงงาน

• การทดสอบความคงตัว: เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่โรงงานจะต้องทำการทดสอบความคงตัวอย่างครอบคลุม
• ความเข้มข้นของอิมัลซิไฟเออร์: พิจารณาเพิ่ม Light Cream Maker เป็นอย่างน้อย 1-1.5% เพื่อปรับปรุงความคงตัว แม้ว่าจะทำให้ความหนืดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อาจจำเป็นต้องใช้เปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น (2-3%) หากมีอิเล็กโทรไลต์จำนวนมาก
• การละลาย/การกระจายตัวของส่วนผสม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดละลายหรือกระจายตัวได้อย่างคงตัว สำหรับผง เช่น TECA, Wild Yam และ Phytosphingosine ให้ยืนยันวิธีการผสมที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันการตกตะกอน
• ขั้นตอนการผสม: พัฒนาขั้นตอนการผสมโดยละเอียดที่ระบุลำดับการเติม การให้ความร้อน (โดยคำนึงถึงขีดจำกัด) และความเร็วในการผสม (หลีกเลี่ยงการปั่นเร็วเกิน) เพื่อให้แน่ใจว่าอิมัลชันและการกระจายตัวเป็นไปอย่างเหมาะสม