คำถามเกี่ยวกับสูตรครีม: การละลาย, สารช่วยนำพา, การผสม
คำถาม
กำลังพัฒนาสูตรครีม โดยมีส่วนผสมดังนี้:
- White Cumin: 0.3%
- Pure EGCG: 2%
- Resveratrol long max: 5%
- Genistein: 0.5%
- Silymarin: 1%
- Niacinamide: 5%
- Acetyl glucosamine: 4%
- Magnesium Ascorbyl Phosphate: 5%
- Prebio-care: 5%
- Rhamnose: 5%
- Tea Tree Oil: 0.5%
- Superoxide Dismutase: 5%
- lipid soft f: 5%
- Moist 72: 2%
- double hya: 4%
- EDTA: 0.2%
- Satin Cream Maker: 1.5%
- water: 51%
มีปัญหาที่จะสอบถามดังนี้ค่ะ:
- White Cumin ละลายน้ำมันได้ เท่าที่อ่านในหน้าแนะนำ แต่ก็มีระบุว่าละลายใน glycol จึงสอบถามว่า เอา White Cumin กับ Silymarin ใส่ละลายลงใน lipidsolft f ได้หรือไม่ หรือต้องหาน้ำมันอื่นมาเพิ่มอีก
- มีปัญหาด้านการเลือกใช้ penetration enhancer เพราะว่า มี active ingredient ทั้งที่ละลายในน้ำ และ น้ำมัน เลยยังเลือก penetration enhancer ไม่ได้ว่าจะใช้ตัวใดหรือ ใส่กี่ตัวดี เพื่อ ให้ active ทั้งที่อยู๋ใน ส่วนละลายน้ำ และน้ำมัน ซึมได้ดี
- การ ปั่นให้กระจาย ของ Pure EGCG, Genistein ปั่นด้ววยความเร็วประมาณเท่าไหร่ ใช้การคนไปเรื่อยๆพอได้หรือไม่
- ถามเรื่องการผสมค่ะ
- เท่าที่เข้าใจ คือ ละลายส่วนละลายน้ำมันเข้าด้วยกัน คือ White Cumin, Silymarin, lipidsft f = A
- ละลายส่วนละลายน้ำเข้าด้วยกัน + satin cream make = B
- แล้วนำ A ผสม B
- ค่อยใส่ Pure EGCG, Genistein, Resveratrol longmx ใส่ไปปั่นไป
เข้าใจถูกไหมคะ
ขอบคุณค่ะ
คำตอบ
คำแนะนำสำหรับการผสมสูตร
จากส่วนผสมที่คุณวางแผนจะใช้และคำถามของคุณ นี่คือคำแนะนำสำหรับการทำครีมของคุณ:
1. การละลายของ White Cumin และ Silymarin ใน LipidSoft F
- White Cumin (Tetrahydrodiferuloylmethane): คำอธิบายระบุว่า White Cumin ชนิดผงสามารถละลายได้ใน Glycol, Propanediol และน้ำมัน ดังนั้นสามารถละลายในส่วนของน้ำมันได้ เช่น LipidSoft F
- Silymarin (Silybum Marianum Extract): คำอธิบายสำหรับ Silymarin ระบุว่าสามารถผสมในน้ำมันได้ ดังนั้นจึงสามารถละลายใน LipidSoft F ได้เช่นกัน
ดังนั้น คุณสามารถละลายทั้ง White Cumin และ Silymarin ใน LipidSoft F ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเฟสน้ำมันของคุณได้ คุณไม่จำเป็นต้องเพิ่มน้ำมันอื่นเพื่อวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะ ตราบใดที่ปริมาณรวมของเฟสน้ำมันเพียงพอที่จะละลายส่วนผสมเหล่านี้ที่ความเข้มข้นที่ระบุ
2. การเลือกสารช่วยนำพา (Penetration Enhancer)
สูตรของคุณมีส่วนผสมที่ละลายน้ำ (Niacinamide, Acetyl Glucosamine, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Prebio-care, Rhamnose, Double Hyaluron Liquid, Superoxide Dismutase/AppleZin) และส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันหรือต้องการตัวทำละลาย (White Cumin, Silymarin, Resveratrol, Tea Tree Oil) เพื่อเพิ่มการซึมผ่านของส่วนผสมทั้งสองประเภท คุณต้องใช้สารช่วยนำพาที่เข้ากันได้กับทั้งสองเฟส หรือใช้สารช่วยนำพาหลายชนิดร่วมกัน
Ethoxydiglycol เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากทำหน้าที่เป็นทั้งตัวทำละลายและตัวนำพา ละลายได้ในน้ำ, ไกลคอล และน้ำมันธรรมชาติ คำอธิบายสำหรับ Resveratrol แนะนำให้ใช้ Ethoxydiglycol โดยเฉพาะเพื่อช่วยให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น การใช้ Ethoxydiglycol ในอัตราที่เหมาะสม (ตรวจสอบข้อกำหนดปัจจุบัน โดยทั่วไปไม่เกิน 2.6% สำหรับผลิตภัณฑ์แบบ Leave-on) สามารถช่วยปรับปรุงการนำส่งสารออกฤทธิ์ต่างๆ ในสูตรของคุณได้
อีกทางเลือกหนึ่งคือ Tetrahydropiperine ซึ่งเป็นสารช่วยนำพาจากธรรมชาติ แต่ต้องนำไปละลายในตัวทำละลาย เช่น Propylene Glycol, Fractionated Coconut Oil หรือ Glycerin ก่อนนำไปผสมในสูตร เมื่อพิจารณาถึงความซับซ้อนของสูตรที่มีทั้งเฟสน้ำและเฟสน้ำมัน Ethoxydiglycol อาจผสมได้ง่ายกว่า
พิจารณาเพิ่ม Ethoxydiglycol ในเฟสน้ำของคุณ หรือนำไปใช้ในขั้นตอนการละลายล่วงหน้าสำหรับสารออกฤทธิ์ที่ละลายได้ยาก เช่น Resveratrol
3. การผสม Pure EGCG และ Genistein
- Pure EGCG: คำอธิบายระบุว่า Pure EGCG เป็นผงเบาที่สามารถกระจายตัวในเนื้อครีมหรือเจลได้ และละลายในน้ำได้น้อย แนะนำให้ปั่นจนกระจายตัว
- Genistein: คำอธิบายไม่ได้ให้คำแนะนำในการผสมโดยเฉพาะ แต่ในฐานะสารสกัดชนิดผง ก็จะต้องมีการกระจายตัวหรือละลายอย่างเหมาะสมเช่นกัน
สำหรับผงที่ละลายน้ำได้น้อย เช่น Pure EGCG และ Genistein การคนธรรมดาอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้กระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอและป้องกันการตกตะกอนเมื่อเวลาผ่านไป โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ เครื่องผสมแบบ High-shear (เครื่อง Homogenizer หรือเครื่องผสมที่ความเร็วสูง แต่ไม่เกิน 2500 รอบต่อนาทีสำหรับ Satin Cream Maker) เพื่อให้แน่ใจว่าผงเหล่านี้กระจายตัวอย่างละเอียดทั่วเนื้อครีม หากไม่สามารถใช้เครื่องผสมแบบ High-shear ได้ ให้แน่ใจว่ามีการคนอย่างทั่วถึงและต่อเนื่องในระหว่างการเติมผงเหล่านี้ เพื่อลดการจับตัวเป็นก้อน แต่อาจไม่รับประกันความเสถียรของการกระจายตัวในระยะยาว
วิธีที่ดีที่สุดคือการนำผงเหล่านี้ไปกระจายตัวในน้ำปริมาณเล็กน้อยจากเฟสน้ำ หรือตัวทำละลายที่เหมาะสม (เช่น Ethoxydiglycol หากใช้) ก่อนนำไปเติมในเนื้อครีมหลัก โดยต้องแน่ใจว่าเนื้อครีมมีอุณหภูมิต่ำกว่า 40°C เมื่อเติมสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อน เช่น EGCG
4. การยืนยันขั้นตอนการผสม
ขั้นตอนการผสมที่คุณเสนอมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่สามารถปรับปรุงให้การผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันได้ดีและมีความเสถียรมากขึ้น โดยเฉพาะผงและส่วนผสมที่ต้องการตัวทำละลายเฉพาะ
นี่คือขั้นตอนการผสมที่แนะนำให้ปรับปรุง:
- เฟส A (เฟสน้ำมัน): รวม LipidSoft F, White Cumin, Silymarin และ Tea Tree Oil หากจำเป็นให้ให้ความร้อนเล็กน้อยเพื่อช่วยละลายผง (White Cumin, Silymarin) โดยควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เกิน 80°C สำหรับ Silymarin และ LipidSoft F ผสมจนใส
- เฟส B (เฟสน้ำ): รวม น้ำ, Disodium EDTA, Niacinamide, Acetyl Glucosamine, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Prebio-care, Rhamnose, Double Hyaluron Liquid และ Moist 72 ผสมจนผงทั้งหมดละลาย เติม Satin Cream Maker ลงในเฟสนี้และผสมจนกระจายตัวเต็มที่และเฟสน้ำเริ่มข้นขึ้นเล็กน้อย
- เฟส C (สารออกฤทธิ์ที่ต้องการการจัดการพิเศษ): ในภาชนะแยกต่างหาก ละลาย Resveratrol ใน Ethoxydiglycol (หากใช้) กระจาย Pure EGCG และ Genistein ในน้ำปริมาณเล็กน้อยจากเฟส B หรือตัวทำละลายที่เหมาะสม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารละลาย/สารกระจายตัวเหล่านี้ไม่มีก้อน
- การทำอิมัลชัน: ค่อยๆ เติมเฟส A (เฟสน้ำมัน) ลงในเฟส B (เฟสน้ำ) พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความเร็วในการคน (แต่รักษาความเร็วให้ต่ำกว่า 2500 รอบต่อนาที เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อ Satin Cream Maker) ขณะที่อิมัลชันก่อตัวและข้นขึ้นเป็นเนื้อครีม คนต่อไปจนเนื้อครีมสม่ำเสมอ
- การทำให้เย็นและการเติมส่วนผสมสุดท้าย: ปล่อยให้ครีมเย็นลงจนมีอุณหภูมิต่ำกว่า 40°C เมื่อเย็นลงแล้ว ให้เติมเฟส C (สารละลาย Resveratrol, สารกระจายตัว EGCG/Genistein) และ Superoxide Dismutase (AppleZin) ผสมอย่างนุ่มนวลแต่ทั่วถึงจนส่วนผสมทั้งหมดกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอในเนื้อครีม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมของคุณ (เช่น MAP ต้องการ pH 7-9, Niacinamide pH 3-8, Acetyl Glucosamine pH 3-7, Rhamnose pH 5-9, Prebio-care pH 4-10, Double Hyaluron pH 3-9) คุณอาจต้องปรับค่า pH ในขั้นตอนสุดท้ายหากจำเป็น โดยพิจารณาจากช่วงที่เหมาะสมสำหรับสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อค่า pH มากที่สุด
ขั้นตอนการผสมที่ปรับปรุงนี้ช่วยให้แน่ใจว่าส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันและละลายในน้ำได้รับการเตรียมอย่างเหมาะสมก่อนการทำอิมัลชัน และผงกับสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อนได้รับการผสมเข้ากับเนื้อครีมสุดท้ายอย่างถูกต้อง
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)

Disodium EDTA

Tea Tree Oil (Extra Grade)

Satin Cream Maker™

MOIST72™

Double Hyaluron Liquid

WhiteCumin™ (Tetrahydrodiferuloylmethane)

Trans-Resveratrol (Powder, 98%)

Soy Extract (Genistein 98%) สารสกัดจากถั่วเหลือง

Rhamnose (น้ำตาลแรมโนส)

Silybum Marianum Extract (Milk Thistle, Silymarin)

LipidSoft™ F (Ethyl Linoleate)

Pure-EGCG™ (Green Tea Extract, 98% EGCG)

Tetrahydropiperine (Natural Penetration Enhancer)
