คำถามเกี่ยวกับ RiceSorb, AminoSilk, Sugar Gel และการทำสูตร Oil Cleansing Gel

ถามโดย: j_polchai เมื่อ: June 04, 2015 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีคำถามเกี่ยวกับส่วนผสมหลายตัวและการทำสูตรเฉพาะค่ะ:

  1. RiceSorb และ AminoSilk: สามารถผสม RiceSorb กับ AminoSilk (ประมาณ 3%) แล้วนำมาทาบนใบหน้าเหมือนแป้ง Talc ทั่วไปได้หรือไม่คะ ส่วนผสมทั้งสองมีหน้าที่อย่างไรในการใช้งานแบบนี้?

  2. Sugar Gel (Sucrose Stearate / Sucrose Palmitate):

    • เมื่อใช้ Sugar Gel เพื่อสร้างเจลน้ำมัน ความมันของน้ำมันจะลดลงหรือไม่คะ?
    • Sugar Gel สามารถรวมน้ำได้สูงสุดกี่เปอร์เซ็นต์คะ?
    • ทำไมสูตรตัวอย่างถึงใช้น้ำแค่ 4% คะ?
    • ถ้าต้องการทำสูตรที่มีปริมาณน้ำสูงขึ้น เช่น ครีมหรือโลชั่น สามารถใช้ Lecithin แทน Sugar Gel ได้หรือไม่คะ?
    • ปริมาณของ Sugar Gel ที่ใช้มีผลต่อปริมาณน้ำที่ใส่ได้และความคงตัวของเจลอย่างไรคะ?
  3. ปัญหาในการทำสูตร Oil Cleansing Gel: ลองทำ Oil Cleansing Gel ตามสูตรด้านล่างแล้วแยกชั้น ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร และขั้นตอนที่ถูกต้องคืออย่างไรคะ?

    • สูตร:

      1. น้ำมันชนิดใดๆ เช่น Fractionated Coconut Oil 66%
      2. MakeUp-Wash™ 10%
      3. Coco Wash™ 5%
      4. Glycerin 10%
      5. Sugar Gel 5%
      6. น้ำ 4%
    • ขั้นตอนการผสม (ตามที่ทีมงานตอบมาเบื้องต้น): อุ่นขั้นตอน 4+5+6 ด้วยความร้อน 70-80องศา ผสมให้เข้ากัน แล้วนำ 1+2+3 ไปอุ่นที่ 70-80องศา แล้วค่อยๆเท 1 ลงในส่วนแรกที่เตรียมไว้ คนหรือปั่นต่อเนื่อง

คำตอบ

คำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับสูตร

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับส่วนผสมและการทำสูตร RiceSorb, AminoSilk และ Sugar Gel:

1. RiceSorb และ AminoSilk

สามารถผสม RiceSorb กับ AminoSilk (ประมาณ 3%) แล้วนำมาทาบนใบหน้าเหมือนแป้ง Talc ทั่วไปได้ ส่วนผสมทั้งสองเป็นผงที่ใช้ในเครื่องสำอางเพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัสบนผิว RiceSorb (แป้งข้าวเจ้า) เป็นผงธรรมชาติที่ช่วยดูดซับความมันโดยไม่ทำให้ผิวแห้ง จึงเป็นทางเลือกที่ดีแทน Talc ส่วน AminoSilk (Lauroyl lysine) เป็นผงที่ช่วยเพิ่มความนุ่มลื่นให้กับสูตรและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกันน้ำได้

  • (สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับกำหนดการสินค้า RiceSorb จะเข้าเมื่อไหร่ ดิฉันไม่สามารถให้ข้อมูลเรื่องการเติมสต็อกสินค้าได้ค่ะ)*

2. Sugar Gel (Sucrose Stearate / Sucrose Palmitate)

2.1 เนื้อสัมผัสและความรู้สึกของเจลน้ำมัน

เมื่อใช้ Sugar Gel เพื่อสร้างเจลน้ำมัน ความมันของน้ำมันเองไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เจลที่ได้จะให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการทาน้ำมันก่อนที่จะทำให้เป็นเจล แทบไม่มีความแตกต่างในด้านความมัน หน้าที่หลักของ Sugar Gel คือการทำให้น้ำมันมีเนื้อสัมผัสเป็นเจลใส อาจช่วยให้น้ำมันซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้เพิ่มความลึกในการซึม ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันที่ใช้เป็นหลักค่ะ

2.2 ปริมาณน้ำสูงสุดที่ใช้ได้และ Lecithin

สูตรตัวอย่างใช้น้ำในปริมาณน้อย (4%) เนื่องจาก Sugar Gel เป็นอิมัลซิไฟเออร์ชนิด Water-in-Oil (W/O) ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างเจลน้ำมันที่ใส โดยสามารถรวมน้ำในปริมาณน้อยๆ ได้ (โดยทั่วไปประมาณ 2-5%) หากใส่น้ำในปริมาณที่มากขึ้น สูตรจะขุ่นหรือกลายเป็นสีน้ำนมแทนที่จะใส หากเป้าหมายของคุณคือการสร้างสูตรที่มีปริมาณน้ำสูง เช่น ครีมหรือโลชั่น การใช้อิมัลซิไฟเออร์อย่าง Lecithin จะเหมาะสมกว่า Lecithin สามารถช่วยรวมน้ำและน้ำมันในปริมาณที่มากขึ้นได้ และหากคุณใช้ Lecithin เพื่อจุดประสงค์นี้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ Sugar Gel ซึ่งจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็นค่ะ

2.3 ผลของปริมาณ Sugar Gel ต่อปริมาณน้ำและความคงตัวของเจล

ปริมาณของ Sugar Gel ที่ใช้ส่วนใหญ่มีผลต่อความหนืดและความแข็งของเจลน้ำมัน การใช้ Sugar Gel ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น (ภายในช่วงที่แนะนำ 2-10%) จะทำให้ได้เจลที่ข้นขึ้นหรือแข็งขึ้น แม้ว่า Sugar Gel จะสามารถรวมน้ำในปริมาณน้อยๆ ได้ แต่การเพิ่มปริมาณ Sugar Gel ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำได้อย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ยังคงรักษาเนื้อเจลน้ำมันที่ใสไว้ได้ หากใส่น้ำมากเกินไป สูตรจะกลายเป็นสีน้ำนมไม่ว่าคุณจะใช้ Sugar Gel ในความเข้มข้นเท่าใด เนื่องจากความสามารถของมันคือการทำอิมัลชันหยดน้ำเล็กๆ ในเฟสน้ำมันเป็นหลักค่ะ

ปัญหาในการทำสูตร Oil Cleansing Gel

สำหรับปัญหาที่สูตร Oil Cleansing Gel แยกชั้นนั้น น่าจะเกิดจากขั้นตอนการผสมที่ไม่ถูกต้อง ขั้นตอนที่ถูกต้องคือ ให้อุ่นและผสมส่วนผสมเฟสน้ำ (Glycerin, Sugar Gel และน้ำ) ที่อุณหภูมิ 70-80°C ก่อน จนได้เนื้อครีม แยกต่างหาก ให้อุ่นส่วนผสมเฟสน้ำมัน (Fractionated Coconut Oil, MakeUp-Wash และ Coco Wash) ที่อุณหภูมิเดียวกัน จากนั้นค่อยๆ เทส่วนผสมเฟสน้ำมันที่อุ่นแล้วลงในส่วนผสมเฟสน้ำที่อุ่นแล้ว โดยคนหรือปั่นอย่างต่อเนื่องจนได้เนื้อเจล การอุ่นส่วนผสมเฟสน้ำจนเดือดอาจส่งผลต่อส่วนผสมได้ แต่สาเหตุหลักของการแยกชั้นมักมาจากการเรียงลำดับขั้นตอนการผสมและเทคนิคที่ไม่ถูกต้องค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Fractionated Coconut Oil
Fractionated Coconut Oil
เครื่องสำอาง
Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate)
Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate)
เครื่องสำอาง
AminoSilk™ (Lauroyl lysine)
AminoSilk™ (Lauroyl lysine)
เครื่องสำอาง
MakeUp-Wash™ (PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides)
MakeUp-Wash™ (PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides)
เครื่องสำอาง