คำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสูตรเครื่องสำอางหลายรายการ

ถามโดย: siranant.pooliam เมื่อ: June 28, 2013 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับสูตรเครื่องสำอางหลายรายการที่กำลังพัฒนาอยู่ โดยอ้างอิงจากคำแนะนำที่เคยได้รับ เพื่อให้แน่ใจว่าสูตรมีความเหมาะสมก่อนสั่งซื้อส่วนผสมค่ะ

คำถามเฉพาะเจาะจงของฉันเกี่ยวกับแต่ละสูตรมีดังนี้ค่ะ:

สูตรที่ 1 สูตร Toner Salicylic Acid (BHA) ผลัดเซลผิวหน้า

  • ตามที่ Staff ได้แก้ไขจาก Polycarbonate 20 เป็น Polysorbate 20 และยืนยันว่าสูตรโอเคแล้ว ควรใช้ Polysorbate 20 ที่ 3% เหมือนเดิมใช่ไหมคะ

สูตรที่ 2 ครีมกัดตาปลา ลอกหูด กระ ไฝ

  • ตามคำแนะนำของ Staff ที่ว่าห้ามใช้ต่อเนื่องนานเกินไปเพราะจะทำให้ผิวบางลง และให้สังเกตทุกวันว่าลอกแค่ไหนแล้ว ระยะเวลาที่แนะนำให้ทาต่อเนื่อง (เป็นสัปดาห์/เดือน) คือเท่าไหร่คะ? แผนของฉันคือจะทาจนกว่าหูด/กระจะหลุดออกไป แล้วจึงทาครีมรักษารอยแผลเป็นเพื่อรักษารอยที่เกิดขึ้น แนวทางนี้ถูกต้องไหมคะ?
  • ฉันตั้งใจจะผสมครีมสูตรนี้ให้เพื่อนใช้ ซึ่งเพื่อนมีปัญหาตาปลาที่เท้าบางมาก เป็นข้างละไม่เกิน 3-4 ตุ่ม เห็นเขาเดินแล้วสงสารมาก เดินไกลๆ ไม่ได้ ต้องใส่รองเท้าที่นุ่มเป็นพิเศษ ต้องซื้อรองเท้าแพงๆ ใส่ของถูกไม่ได้เลย สูตรนี้เหมาะสำหรับเท้าที่แพ้ง่ายหรือไม่คะ?

สูตรที่ 3 ครีมรักษารอยแตกลาย และแผลเป็น

  • Staff แนะนำว่า l-ascorbic acid ควรตัดทิ้ง เนื่องจากไม่เหมาะที่จะผสมในน้ำโดยตรง ควรใช้สารตัวอื่นแทน l-ascorbic acid หรือควรตัดออกไปเลยโดยไม่ต้องใช้สารอื่นแทนคะ?

สูตรที่ 6 สูตรเซรั่มบำรุงรากผม / แชมพู

  • ฉันกำลังทำแชมพูและเซรั่มให้สามี ซึ่งมีปัญหาหนังศีรษะแห้งและแพ้ง่าย และแพ้แชมพูทั่วไปหลายยี่ห้อ (เช่น Dove, Head & Shoulders, Pantene) แม้แต่ Nizoral ก็ใช้ต่อเนื่องไม่ได้ เขาไม่ชอบแชมพูที่มีกลิ่นผลไม้/ดอกไม้ หรือกลิ่นน้ำหอม จึงคิดจะผสมแชมพูแบบอ่อนโยนให้เขาใช้ และผสมเซรั่มบำรุงรากผมให้เขาใช้ และฉันใช้ด้วยค่ะ
  • ฉันได้สั่งสารซักฟอกแบบอ่อนโยนสำหรับแชมพูมาแล้ว แต่ไม่ใช่สารตัวนี้ Lauryl Sulfate, Coco-betaine เดี๋ยวต้องกลับไปดูสารที่มีอยู่ก่อนค่ะ สำหรับการทำสูตรในอนาคต Staff ได้แนะนำ Cationic Guar เป็นทางเลือกแทนซิลิโคน เพื่อช่วยให้ผมมีน้ำหนักและเกาะเส้นผมได้ดีหลังล้างออก นอกจากนี้ยังแนะนำ Vitamin B5, Hydro Protein, Natural Moisturizing Amino Acids หรือน้ำมันอย่าง argan oil สำหรับสุขภาพผมที่ดีขึ้นจริงๆ โดยระบุว่าสารเหล่านี้มีประสิทธิภาพดีกว่าเมื่อใช้ในมาส์กผมมากกว่าแชมพูเนื่องจากการล้างออกค่ะ
  • อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติของสารที่ Staff แนะนำมา (Cationic Guar, Vitamin B5, Hydro Protein, Natural Moisturizing Amino Acids, argan oil) ค่ะ ฉันจะลองดูสรรพคุณและคำนวณสัดส่วนที่เหมาะสม แล้วจะเขียนมาขอคำแนะนำอีกครั้งค่ะ ยากทำสูตรหมักผมอยู่เหมือนกันค่ะ

สูตรที่ 7 สูตรครีมผลัดเซลผิวหน้า

  • Staff กล่าวถึงความกังวลเรื่องความเสถียรของ Beta Glucan ที่ pH ต่ำ (ต่ำกว่า 5) ซึ่งอาจขัดแย้งกับ pH ที่เหมาะสมเพื่อให้ Lactic Acid ทำงานได้เต็มที่ (pH น้อยกว่า 4) ควรตัด Beta Glucan ออกจากสูตรนี้ไปเลยหรือไม่คะ?
  • Staff แนะนำ Vitamin B3 และ Vitamin B5 ว่าเป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ค่อนข้างทนกรดได้สูงกว่าสารอื่นๆ ส่วนใหญ่ (ทนได้ประมาณ pH 4.0) Rose Hip Oil เพียงพอสำหรับการให้ความชุ่มชื้นแล้วหรือไม่ หรือควรเพิ่มวิตามินตัวใดตัวหนึ่งเข้าไปอีกคะ? หากเพิ่มปริมาณ Rose Hip Oil (ปัจจุบัน 5%) จะทำให้ครีมเหนอะหนะมากเกินไปไหมคะ? Staff แนะนำให้ทดลองปรับสูตรเอง แต่ต้องการทราบความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มความเหนอะหนะที่ความเข้มข้นสูงขึ้นค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ ค่ะ ยินดีที่ทราบว่าเซรั่มที่เคยผสมใช้เองตามคำแนะนำได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ทำให้ผิวหน้าดูสว่างขึ้น เนียนนุ่ม และตึงขึ้น แต่งหน้าได้ดีติดทนทั้งวันค่ะ

คำตอบ

สวัสดีค่ะ

เข้าใจว่าคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับสูตรที่คุณได้ร่างไว้ เพื่อให้มั่นใจก่อนที่จะสั่งซื้อส่วนผสมต่างๆ นะคะ ดิฉันจะพยายามให้ข้อมูลตามที่คุณสอบถาม โดยอ้างอิงจากคำแนะนำเดิมที่ได้รับจาก Staff และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับส่วนผสมเหล่านั้นค่ะ

ขอตอบเป็นข้อๆ ตามที่คุณสอบถามมานะคะ

สูตรที่ 1 สูตร Toner Salicylic Acid (BHA) ผลัดเซลผิวหน้า
คุณสอบถามว่า Polysorbate 20 ยังใช้ 3% เหมือนเดิมใช่ไหมคะ
จากคำตอบของ Staff ที่ได้แก้ไขจาก Polycarbonate 20 เป็น Polysorbate 20 และระบุว่า "สูตร ok แล้วค่ะ" แสดงว่าสัดส่วน 3% ของ Polysorbate 20 ในสูตรนี้ถือว่าเหมาะสมค่ะ

สูตรที่ 2 ครีมกัดตาปลา ลอกหูด กระ ไฝ
คุณสอบถามระยะเวลาที่ควรทาต่อเนื่อง (เป็นสัปดาห์/เดือน) และยืนยันว่าจะทาจนกว่าหูด/กระจะหลุด แล้วจึงทาครีมรักษารอยแผลเป็น
Staff ได้แนะนำว่า "ห้ามใช้ต่อเนื่องติดต่อกันนานเกินไปค่ะ เพราะจะทำให้ผิวบางลงเรื่อยๆ" (Do not use continuously for too long as it will thin the skin) และให้ "คอยสังเกตุทุกวันว่าลอกแค่ไหนแล้ว" (Observe daily how much it has peeled) ซึ่งหมายความว่าควรหยุดใช้เมื่อตาปลา หูด หรือกระหลุดออกไปแล้วค่ะ ไม่ควรกำหนดระยะเวลาตายตัวเป็นสัปดาห์หรือเดือน แต่ให้สังเกตผลลัพธ์บนผิวหนังแทนค่ะ การทาครีมรักษารอยแผลเป็นหลังจากนั้นเป็นแนวทางที่เหมาะสมค่ะ

สูตรที่ 3 ครีมรักษารอยแตกลาย และแผลเป็น
คุณสอบถามว่า L-ascorbic acid ควรใช้สารตัวอื่นแทนได้ หรือควรตัดออกไปเลย
Staff ได้ให้คำแนะนำที่ชัดเจนว่า "l-ascorbic acid ควรตัดทิ้งค่ะ" (L-ascorbic acid should be cut) เนื่องจากไม่เหมาะที่จะผสมในน้ำโดยตรงค่ะ หากต้องการเพิ่มสารอื่นๆ เพื่อช่วยเรื่องรอยแตกลายและแผลเป็น อาจพิจารณาสารที่ Staff แนะนำว่าเหมาะสมกับสูตรนี้ เช่น Rose Hip Oil (สามารถเพิ่มปริมาณได้ถึง 10-15% หากต้องการเน้นเรื่องรอยแตกลาย/แผลเป็น) และ Shea butter ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการให้ความชุ่มชื้นและช่วยเรื่องรอยแตกลายค่ะ

สูตรที่ 6 สูตรเซรั่มบำรุงรากผม
คุณต้องการสารอื่นแทนซิลิโคนเพื่อให้ผมเงางามและมีน้ำหนัก และต้องการสารที่ช่วยให้สุขภาพผมดี เหมาะสำหรับหนังศีรษะแห้งและแพ้ง่าย
Staff ได้แนะนำ Cationic Guar เพื่อช่วยให้ผมมีน้ำหนักและเกาะเส้นผมได้ดีกว่าซิลิโคนในแง่ของการบำรุงที่ติดทนหลังล้างออกค่ะ สำหรับการบำรุงสุขภาพผมให้ดีขึ้นจริงๆ Staff แนะนำสารที่ใช้ในการหมักผม เช่น Vitamin B5, Hydro Protein, Natural Moisturizing Amino Acids หรือน้ำมันบำรุงผมอย่าง Argan oil ค่ะ
สำหรับปัญหาหนังศีรษะแห้งและแพ้ง่ายของสามี Staff ได้แนะนำให้ใช้สารซักฟอกชนิดอ่อนโยนพิเศษ เช่น Lauryl Sulfate หรือ Coco-betaine ในการทำแชมพู และปรับ pH ให้อยู่ในช่วง 5-6 ค่ะ การเลือกใช้สารบำรุงที่กล่าวมาข้างต้น (Vitamin B5, Argan oil) ก็สามารถช่วยบำรุงหนังศีรษะได้เช่นกันค่ะ การหาส่วนผสมที่เหมาะกับหนังศีรษะที่แพ้ง่ายอาจต้องลองปรับเปลี่ยนและสังเกตผลค่ะ

สูตรที่ 7 สูตรครีมผลัดเซลผิวหน้า
คุณสอบถามว่าจะตัด Beta Glucan ออกไปเลยหรือไม่ และควรใช้สารตัวไหนแทนที่ไม่กระทบกับ Lactic Acid ที่จะให้ความชุ่มชื้นได้ หรือแค่ Rose Hip Oil ก็พอ และควรใส่ Rose Hip Oil มากกว่า 5% ได้ไหม จะทำให้เหนอะหนะมากไปหรือเปล่า
Staff ได้อธิบายถึงความกังวลเรื่องความเสถียรของ Beta Glucan ที่ pH ต่ำ (ต่ำกว่า 5) ซึ่งอาจขัดแย้งกับ pH ที่เหมาะสมเพื่อให้ Lactic Acid ทำงานได้เต็มที่ (pH น้อยกว่า 4) ค่ะ การตัด Beta Glucan ออกจากสูตรนี้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อเลี่ยงปัญหานี้ค่ะ
สำหรับสารให้ความชุ่มชื้น Staff ได้แนะนำ Vitamin B3 และ Vitamin B5 ว่าเป็นสาร Active ที่ค่อนข้างทนกรดได้สูงกว่าสารอื่นๆ ส่วนใหญ่ (ทนได้ประมาณ pH 4.0) ซึ่งอาจเป็นทางเลือกในการเพิ่มความชุ่มชื้นในสูตรที่มี Lactic Acid ค่ะ
ส่วน Rose Hip Oil นั้นมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นสูงอยู่แล้ว การจะเพิ่มปริมาณมากกว่า 5% เพื่อให้ความชุ่มชื้นมากขึ้นนั้นสามารถทำได้ค่ะ แต่เรื่องความรู้สึกเหนอะหนะนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความชอบของแต่ละบุคคล Staff แนะนำว่าต้องทดลองปรับสูตรและทดสอบความรู้สึกเองค่ะ

ดีใจที่ทราบว่าเซรั่มที่คุณผสมใช้เองได้ผลลัพธ์ที่ดีและทำให้ผิวหน้าดูดีขึ้นนะคะ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความพยายามในการเรียนรู้และทดลองผสมสูตรต่างๆ ค่ะ

หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนผสมเฉพาะตัวใด หรือต้องการค้นหาข้อมูลพื้นฐานของส่วนผสมเหล่านั้น สามารถสอบถามได้เลยนะคะ ดิฉันจะพยายามใช้เครื่องมือที่มีอยู่ค้นหาข้อมูลให้ค่ะ