คำแนะนำการตั้งตำรับ: ทรีทเม้นท์ผม เซรั่มผิวแพ้ง่าย และเจลล้างเครื่องสำอางตา/ปาก
คำถาม
มีคำถามเกี่ยวกับการตั้งตำรับหลายรายการดังนี้ค่ะ:
ทรีทเม้นท์บำรุงผมแข็งกระด้าง (ชนิดไม่ต้องล้างออก): ผมแข็งกระด้างเหมือนไม้กวาดดอกหญ้า ที่เกิดจากการย้อมสีผมและดัดผม จะแก้อย่างไรคะให้ผมไม่แข็งกระด้าง ใช้ Pure Keratin ตัวเดียวพอไหมคะ? รบกวนตรวจสอบสูตรบำรุงผมแข็งกระด้างชนิดไม่ล้างออกให้หน่อยค่ะ:
- Pure Keratin 2%
- B5 ExtraLite 2%
- N-Acetyl Cysteine 1% (ตัวนี้จะซ้ำซ้อนกับเคราตินไหมคะ?)
- Phenoxyethanol SA 1%
- น้ำกลั่น ส่วนที่เหลือ
สูตรนี้ควรทำเป็นครีมโดยใช้ Light Cream Maker ไหมคะ เพื่อให้สารแอคทีฟดูดซึมเข้าผมดีขึ้น (ใช้ Cyclomethicone 5% แทนส่วนของน้ำมัน)?
สูตรปรับสมดุลผิวขาดน้ำระคายเคืองง่าย: ผิวมันแต่น้ำใต้ผิวต่ำ ผิวตรงโหนกแก้มแห้ง และผิวมักจะเห่อแดงเมื่อใช้พวกสารผลัดผิวค่ะ รบกวนตรวจสอบสูตรให้หน่อยค่ะ:
- B3 5% (การใช้ 10% ให้ผลดีกว่า 5% ในเรื่องใดเหรอคะ?)
- MSM 5%
- Zinc PCA 1%
- N-Acetyl Cysteine 1%
- B5 ExtraLite 1%
- Licorice (Licochalcone A) 1%
- Apple Stem Cell 2.5% (การใช้ 5% ให้ผลที่ดีกว่าไหมคะ และ Rose Stem Cell บรรจุในไลโปโซมไหมคะ?)
- Eye Preserved 1%
- Pentylene Glycol 3%
- น้ำกลั่น ส่วนที่เหลือ
สูตรนี้ถ้าอยากให้เป็นเจลโดยใช้ Light Cream Maker ต้องทำอย่างไรคะ เราเคยใส่ 2% ในน้ำแล้วไม่ขึ้นเจลค่ะแค่หนืดขึ้นจากน้ำเล็กน้อยเท่านั้น
สูตรเจลล้างเครื่องสำอางสำหรับล้างตาและปาก: รบกวนตรวจสอบสูตรให้หน่อยค่ะ:
- MakeUp-Wash 8%
- SugarThick 2%
- Phenoxyethanol SA 1%
- น้ำ ส่วนที่เหลือ
คำตอบ
สวัสดีค่ะ
จากการสอบถามและสูตรที่คุณได้ให้มา นี่คือการวิเคราะห์และคำแนะนำสำหรับแต่ละสูตรค่ะ
คำแนะนำการตั้งตำรับ
ทรีทเม้นท์บำรุงผมแข็งกระด้าง (ชนิดไม่ต้องล้างออก)
คุณต้องการแก้ไขปัญหาผมแข็งกระด้างที่เกิดจากการย้อมและดัดผม
แนวคิดเริ่มต้นในการใช้เพียง Pure Keratin, Phenoxyethanol SA และน้ำ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เนื่องจาก Pure Keratin ช่วยฟื้นฟูโปรตีนผมที่เสียไป อย่างไรก็ตาม สำหรับผมที่แข็งกระด้างมากจากการทำเคมี การเพิ่มสารคอนดิชันนิ่งจะช่วยได้มาก
สูตรที่คุณเสนอมาลำดับที่สองมีความครอบคลุมมากขึ้น:
- Pure Keratin 2%
- B5 ExtraLite 2%
- N-Acetyl Cysteine 1%
- Phenoxyethanol SA 1%
- น้ำ ส่วนที่เหลือ
สูตรนี้มี Pure Keratin สำหรับซ่อมแซมโปรตีน, B5 ExtraLite สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมความแข็งแรง และ N-Acetyl Cysteine ซึ่ง N-Acetyl Cysteine เป็นส่วนประกอบสำคัญของเคราตินในเส้นผม และช่วยเสริมความแข็งแรงของรากผมและลดการหลุดร่วงได้ ดังนั้นจึงเป็นการเสริมการทำงานของเคราติน ไม่ได้ซ้ำซ้อนกันค่ะ
คุณสอบถามว่าควรทำสูตรนี้เป็นเนื้อครีมโดยใช้ Light Cream Maker หรือไม่ และสามารถใช้ Cyclomethicone 5% แทนส่วนของน้ำมันได้หรือไม่ Light Cream Maker สามารถสร้างเนื้อครีมได้ แต่ถูกออกแบบมาสำหรับอิมัลชันประเภทน้ำในน้ำมัน (O/W) Cyclomethicone เป็นซิลิโคน ไม่ใช่น้ำมันแบบดั้งเดิม และ Light Cream Maker อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการอิมัลชันซิลิโคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่มีเฟสน้ำมันจริง ๆ Cyclomethicone เป็นซิลิโคนเนื้อบางเบาที่ช่วยให้ลื่นและให้ความรู้สึกที่ดีเมื่อใช้ ไม่ใช่เฟสน้ำมันแบบดั้งเดิมสำหรับการทำอิมัลชันด้วย Light Cream Maker
สำหรับทรีทเม้นท์แบบไม่ต้องล้างออกสำหรับผมแข็งกระด้าง เนื้อสเปรย์หรือเซรั่ม/โลชั่นเนื้อบางเบามักเป็นที่นิยมมากกว่า เนื่องจากไม่ทำให้ผมหนัก การทำเป็นสูตรสเปรย์ตามที่แนะนำ โดยใช้ Silicone Hi-Cond เป็นแนวทางที่ดีมาก Silicone Hi-Cond เป็นซิลิโคนชนิดที่กระจายตัวในน้ำได้ ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการปรับสภาพเส้นผม ช่วยให้ผมนุ่ม ลื่น และลดการพันกัน ซึ่งตอบโจทย์ปัญหาผมที่ "แข็งเหมือนไม้กวาด" ได้โดยตรงค่ะ
สูตรสเปรย์ที่แนะนำอาจประกอบด้วย:
- Pure Keratin 2%
- B5 ExtraLite 1-2%
- Silicone Hi-Cond 1.5-3% (สามารถเพิ่มได้ถึง 4-5% สำหรับผมที่เสียมาก)
- Phenoxyethanol SA 1%
- น้ำ ส่วนที่เหลือ
สูตรลักษณะนี้สามารถฉีดพ่นทั่วเส้นผมและลูบเบา ๆ ให้เคลือบเส้นผมได้ทั้งหมดค่ะ
ส่วนการเพิ่ม Sea Kelp Extract นั้นดีต่อเส้นผมค่ะ เนื่องจากช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เงางาม และทำให้ผมดูหนาขึ้น การเพิ่ม Sea Kelp Extract 1-3% ในสูตรบำรุงผมของคุณจะช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านความชุ่มชื้นและการบำรุงได้ค่ะ
สูตรปรับสมดุลผิวขาดน้ำระคายเคืองง่าย
คุณได้เสนอสูตรเซรั่มสำหรับผิวที่มันแต่ขาดน้ำ ระคายเคืองง่าย มีผิวแห้งบริเวณโหนกแก้ม และมักมีอาการแดงเมื่อใช้สารผลัดผิว:
- B3 5%
- MSM 5%
- Zinc PCA 1%
- N-Acetyl Cysteine 1%
- B5 ExtraLite 1%
- Licorice (Licochalcone A) 1%
- Apple Stem Cell 2.5%
- Eye Preserved 1%
- Pentylene Glycol 3%
- น้ำ ส่วนที่เหลือ
สูตรนี้มีส่วนประกอบที่ดีหลายชนิดสำหรับปัญหาผิวของคุณ:
- B3 (Niacinamide): ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ลดรอยแดง ควบคุมความมัน และมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
- MSM: ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันและมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
- Zinc PCA: ลดความมัน ช่วยเรื่องสิว เร่งการสมานแผล และลดการอักเสบ
- N-Acetyl Cysteine: สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยสมานแผลและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
- B5 ExtraLite: ให้ความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว
- Licorice Extract (Licochalcone A): มีคุณสมบัติเด่นในการต้านการอักเสบ ลดการระคายเคือง และลดรอยแดง
- Apple Stem Cell: ช่วยยืดอายุเซลล์ผิวและมีคุณสมบัติต้านริ้วรอย
- Pentylene Glycol: เป็นสารให้ความชุ่มชื้น (humectant) และช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิว รวมถึงช่วยเรื่องการกันเสีย
- Eye Preserved: สารกันเสียที่อ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
เกี่ยวกับคำถามเรื่องความเข้มข้น:
- B3: แม้บางแบรนด์จะใช้ที่ 10% แต่ยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันชัดเจนว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่า 5% อย่างมีนัยสำคัญสำหรับประโยชน์ทั่วไป เช่น การเสริมเกราะป้องกันผิว ลดรอยแดง หรือควบคุมความมัน 5% เป็นความเข้มข้นที่ได้รับการสนับสนุนและมีประสิทธิภาพค่ะ
- Apple Stem Cell: งานวิจัยของผู้ผลิตระบุว่าการใช้ Apple Stem Cell ที่ 5% ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า 2.5%
- Rose Stem Cell: Rosa Hybrid Cell Extract (HybridCell™) ไม่ได้บรรจุอยู่ในไลโปโซมค่ะ
คุณสอบถามถึงการทำสูตรนี้ให้เป็นเนื้อเจลโดยใช้ Light Cream Maker และพบว่าการใช้ 2% ในน้ำทำให้หนืดขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น Light Cream Maker ไม่สามารถเข้ากันได้กับสารกลุ่มอิเล็กโทรไลต์ และสูตรของคุณมี Zinc PCA ซึ่งเป็นอิเล็กโทรไลต์ นี่คือสาเหตุที่ทำให้ไม่ขึ้นเนื้อเจลที่ต้องการ สำหรับสูตรที่มีอิเล็กโทรไลต์ Pro Polymer เป็นสารสร้างเนื้อเจลที่เหมาะสมกว่าค่ะ คุณอาจต้องใช้ Pro Polymer ในปริมาณที่สูงขึ้น (เช่น 2-3%) เมื่อมีอิเล็กโทรไลต์อย่าง Zinc PCA เพื่อให้ได้เนื้อเจลที่ต้องการ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำพาสารแอคทีฟในเซรั่มนี้ คุณอาจพิจารณาเพิ่ม Reservoir-Tech ที่ 3% สารนี้ช่วยกักเก็บสารสำคัญไว้บนและใต้ผิว ทำให้ผิวค่อยๆ ดูดซึมไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจช่วยลดการระคายเคืองและยืดอายุการทำงานของสารสำคัญได้ค่ะ
เนื่องจากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะแดงเมื่อใช้สารผลัดผิว จึงควรหลีกเลี่ยงสารผลัดผิวกลุ่มกรดที่รุนแรงอย่าง AHA และ BHA สารผลัดผิวที่อ่อนโยนกว่า เช่น กลุ่มเอนไซม์จากผลไม้ (เช่น Pumpkin Renew, FruitPeel) หรือยีสต์ (เช่น Yeast Resurface) จะเหมาะสมกว่าสำหรับการช่วยผลัดเซลล์ผิวโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองค่ะ
สูตรเจลล้างเครื่องสำอางสำหรับล้างตาและปาก
คุณได้เสนอสูตรเจลล้างเครื่องสำอางสำหรับตาและปาก:
- MakeUp-Wash 8%
- SugarThick 2%
- Phenoxyethanol SA 1%
- น้ำ ส่วนที่เหลือ
สูตรนี้ใช้ MakeUp-Wash ซึ่งเป็นสารทำความสะอาดที่อ่อนโยนและสร้างไมเซลล์เพื่อจับเครื่องสำอาง และใช้ SugarThick เป็นสารเพิ่มความหนืดเพื่อให้ได้เนื้อเจล Phenoxyethanol SA ทำหน้าที่เป็นสารกันเสีย
คุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้ MakeUp-Wash ในความเข้มข้นสูงถึง 8% เพื่อทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำให้ลองเริ่มต้นที่ความเข้มข้นต่ำกว่า เช่น 3% ก่อน หากพบว่ายังทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ จึงค่อยพิจารณาเพิ่มปริมาณค่ะ
การเพิ่ม Propylene Glycol ที่ 10-15% ก็สามารถช่วยในการละลายและเช็ดเครื่องสำอาง โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นสารที่มีต้นทุนไม่สูงค่ะ
SugarThick ที่ 2% ควรเพียงพอสำหรับการสร้างเนื้อเจลในสูตรลักษณะนี้ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Sea Kelp Extract

Apple Stem Cell Extract (AppleCell™ Liquid)

Propylene Glycol

Light Cream Maker™

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)

Pro Polymer™ (Gel Maker)

Zinc PCA

MakeUp-Wash™ (PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides)

Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite™

SugarThick™ (PEG-120 Methyl Glucose Dioleate)

Eye Preserved™ (Polyhexamethylene Biguanide, PHMB)

Pure Keratin™ (Natural, Australian Sheep Wool)

N-Acetyl Cysteine (สังเคราะห์ Glutathione)

Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)

Pumpkin Renew™ ผลัดเซลล์ผิวอ่อนโยน

Silicone Hi-Cond
