คำแนะนำการปรับสูตร

สูตรครีมทาหน้า (เน้นความกระจ่างใส ผิวมันขาดน้ำ ลดรอยกระด่างดำ)

สูตรเริ่มต้นของคุณมีสัดส่วนของส่วนผสมที่เป็นน้ำมันน้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถขึ้นเนื้อครีมที่คงตัวได้ คำแนะนำที่คุณได้รับว่าต้องมีส่วนผสมของน้ำมันอย่างน้อย 5% นั้นถูกต้องแล้ว

การปรับสูตรโดยเพิ่ม Shea Butter (Ultra Soft) 3% และเพิ่ม Coenzyme Q10 เป็น 5% (สมมติว่าเป็น Coenzyme Q10 ชนิดผงละลายในน้ำมัน) จะทำให้มีส่วนผสมของน้ำมันรวม 8% (Shea Butter 3% + Coenzyme Q10 5%) ซึ่งเพียงพอที่จะขึ้นเนื้อครีมได้ด้วย Light Cream Marker

• เนื้อสัมผัส: ด้วยสัดส่วนน้ำมัน 8% ที่มี Shea Butter ครีมจะให้ความรู้สึกชุ่มชื้น Shea Butter (Ultra Soft) ได้รับการปรับปรุงให้มีความรู้สึกที่ดีขึ้น แต่ก็ยังเป็นน้ำมัน เนื้อสัมผัสสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับชนิดของ Light Cream Marker ที่ใช้และความสมดุลโดยรวมของสูตร อาจจะรู้สึกเข้มข้นกว่าครีมเนื้อบางเบามาก แต่ไม่น่าจะเหนอะหนะจนเกินไป การทดลองทำในปริมาณน้อยเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจสอบเนื้อสัมผัสที่คุณต้องการ
• สารออกฤทธิ์:
  • Alpha Arbutin (2%), Acetyl Glucosamine (4%), และ Vitamin B3 (3%) เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับการปรับผิวให้กระจ่างใสและลดจุดด่างดำ โดยทำงานเสริมฤทธิ์กัน
  • Centella (Madecassoside) (2%) ดีเยี่ยมสำหรับการปลอบประโลมผิวและช่วยฟื้นฟูผิว
  • Coenzyme Q10 (5%): โปรดตรวจสอบอัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ Coenzyme Q10 ชนิดที่คุณใช้ หากเป็นชนิดผงละลายในน้ำมัน อัตราการใช้ที่แนะนำโดยทั่วไปคือ 0.01-0.5% การใช้ 5% สูงกว่าที่แนะนำมาก อาจทำให้ละลายและคงตัวในเฟสน้ำมันได้ยาก ซึ่งอาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัสและความคงตัวของสูตร หากต้องการใช้ CoQ10 ในปริมาณสูง อาจพิจารณาใช้ชนิดที่ละลายน้ำได้ ผสมในเฟสน้ำ หรือใช้ชนิดน้ำที่ละลายแล้ว โปรดตรวจสอบอัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์ CoQ10 ที่คุณมี
• ค่า pH: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายของครีมอยู่ในช่วง 4.0-6.5 เพื่อความคงตัวและประสิทธิภาพสูงสุดของสารออกฤทธิ์ เช่น Alpha Arbutin, Niacinamide และ Madecassoside

สูตรโลชั่นบำรุงผิว

สูตรโลชั่นของคุณมีโครงสร้างที่ดีและมีส่วนผสมที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นที่ดีอยู่แล้ว แต่ต้องปรับปริมาณสารประสานเนื้อ

• Disodium EDTA: แนะนำอย่างยิ่งให้เติม Disodium EDTA (0.1-0.2%) หากคุณไม่ได้ใช้น้ำกลั่น Disodium EDTA จะช่วยจับกับไอออนของโลหะที่อาจมีอยู่ในน้ำประปาหรือมาจากส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งช่วยป้องกันไอออนเหล่านี้รบกวนความคงตัวและประสิทธิภาพของส่วนผสมบางชนิด (เช่น Sodium Lactate, Green Tea Extract) และช่วยป้องกันการเปลี่ยนสีของสูตร
• สารประสานเนื้อ (Light Cream Marker): ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ Light Cream Marker 1% อาจไม่เพียงพอที่จะสร้างเนื้อโลชั่นที่คงตัวได้ เนื่องจากมีส่วนผสมอย่าง Sodium Lactate และ Urea ซึ่งสามารถลดความหนืดและรบกวนการประสานเนื้อได้ คุณควรค่อยๆ เพิ่มปริมาณ Light Cream Marker (อาจจะต้องใช้ประมาณ 2-3%) ขณะผสมจนกว่าจะได้ความหนืดและความคงตัวของโลชั่นที่ต้องการ
• Urea (5%): Urea 5% ให้ความชุ่มชื้นได้ดี หากผิวของคุณไม่ได้แห้งมาก อาจจะใช้ในปริมาณที่น้อยลงก็เพียงพอสำหรับการให้ความชุ่มชื้นทั่วไป หรือพิจารณาใช้ร่วมกับส่วนประกอบ NMF อื่นๆ เช่น Sodium PCA หรือ Natural Moisturizing Amino Acids เพื่อให้ความชุ่มชื้นที่ครอบคลุมมากขึ้น ตามคำแนะนำที่คุณได้รับ
• Green Tea Extract (5%): หากใช้ Hi-EGCG™ (Green Tea Extract) 5% อยู่ในอัตราการใช้ที่แนะนำเพื่อคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ โปรดทราบว่า Green Tea Extract อาจไวต่อแสงและไอออนของโลหะ

ควรทดลองทำในปริมาณน้อยก่อนเสมอ และทำการทดสอบความคงตัวหากคุณต้องการผลิตเพื่อจำหน่าย