คำแนะนำการปรุงผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้ง มีความมัน และมีริ้วรอย

ถามโดย: best_singnontad เมื่อ: March 08, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ผิวของดิฉันแห้งแต่ก็มีความมันและมีริ้วรอยแห่งวัย ดิฉันต้องการคำแนะนำในการปรุงผลิตภัณฑ์หลายชนิดดังนี้ค่ะ:

  1. วิตามินซีเนื้อเอสเซ้นส์: ต้องการผสม L-Ascorbic Acid (15%) กับน้ำใช้ครั้งต่อครั้ง เพื่อเลี่ยงความเหนอะหนะจากเบสสำเร็จรูป (เจ้าหน้าที่แจ้งว่าความเหนอะหนะมาจาก Laureth-23, Hyaluronic Acid, Vitamin E) ดิฉันจะใส่ Zinc PCA และ Disodium EDTA ด้วย Ethoxydiglycol จำเป็นต้องใส่หรือไม่คะ? สามารถใช้วิตามินซีเอสเซ้นส์ได้ทั้งเช้าและกลางคืนหรือไม่คะ?
  2. การปรับค่า pH วิตามินซี: เมื่อผสม L-Ascorbic Acid (15%) กับน้ำกลั่นใช้ครั้งต่อครั้ง จำเป็นต้องปรับค่า pH ของน้ำกลั่นก่อนหรือไม่คะ? หากสารละลายที่ได้ระคายเคืองผิวมากเกินไป จะปรับค่า pH สุดท้ายให้สูงขึ้นเล็กน้อยได้อย่างไรคะ?
  3. การเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้งแต่มีความมัน: ดิฉันวางแผนจะใช้ Aloe Vera Gel (Lite) เป็นเบส และเพิ่ม Safe-B3™ (Vitamin B3), GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine) และ Bi-o Yeast เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น มีสารที่ละลายน้ำได้อื่นๆ ที่สามารถเพิ่มเพื่อเสริมความชุ่มชื้นได้อีกหรือไม่คะ? ดิฉันมี Alpha Arbutin และ Nanowhite สามารถใส่เพิ่มได้หรือไม่คะ?
  4. สเปรย์น้ำแร่: สามารถปรุงสเปรย์สำหรับฉีดหน้า โดยใช้น้ำเป็นส่วนประกอบหลัก (90% ขึ้นไป) ได้หรือไม่คะ? ควรเพิ่มสารที่ละลายน้ำได้อะไรบ้างเพื่อช่วยให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว?
  5. ไนท์ครีมลดริ้วรอย: สำหรับไนท์ครีมที่เน้นลดริ้วรอยและแก้ปัญหาผิวแห้ง มีสารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพสูง (เช่น Retinal, Bakuchiol, Peptides, Collagen) ตัวไหนที่แนะนำบ้างคะ?

คำตอบ

คำแนะนำการปรุงผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้ง มีความมัน และมีริ้วรอย

ขอบคุณสำหรับคำถามที่ละเอียดและแบ่งปันปัญหาผิวและประสบการณ์ของคุณค่ะ เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณสนใจปรุงผลิตภัณฑ์ใช้เองเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของผิวคุณโดยเฉพาะ เรามาตอบคำถามแต่ละข้อของคุณตามข้อมูลที่คุณให้มาและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่นะคะ

1. การปรุงวิตามินซีเนื้อเอสเซ้นส์

สำหรับประสบการณ์ของคุณกับวิตามินซีพรีมิกซ์ที่รู้สึกเหนอะหนะ คุณเข้าใจถูกต้องแล้วค่ะว่าเจ้าหน้าที่แจ้งว่าความเหนอะหนะนั้นน่าจะมาจากส่วนผสมอย่าง Laureth-23, Hyaluronic Acid และ Vitamin E ไม่ใช่ Vitamin B5 ในความเข้มข้นนั้น การที่คุณตั้งใจจะผสม L-Ascorbic Acid กับน้ำใช้ครั้งต่อครั้งเป็นวิธีที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงเนื้อสัมผัสที่ไม่ต้องการจากเบสสำเร็จรูปค่ะ

  • Zinc PCA มีคุณสมบัติช่วยเสริมประสิทธิภาพของวิตามินซีจริงค่ะ เมื่อใช้ร่วมกัน ควรทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่คือ ละลาย Zinc PCA และ Disodium EDTA ในน้ำก่อน ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงเติมส่วนผสมอื่นๆ รวมถึงวิตามินซี วิธีนี้จะช่วยเรื่องการละลายของ Zinc PCA และช่วยปกป้องวิตามินซีจากไอออนในน้ำได้ค่ะ
  • Ethoxydiglycol หลักๆ แล้วเป็นตัวทำละลายและช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิว สำหรับการผสมกับน้ำใช้ครั้งต่อครั้งแบบง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องใส่ หากสารที่คุณเลือก (เช่น L-Ascorbic Acid) สามารถละลายในน้ำได้ดี การไม่ใส่ Ethoxydiglycol อาจช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบาแบบเอสเซ้นส์ตามที่คุณต้องการค่ะ
  • คุณสามารถทาวิตามินซีเซรั่มได้ ทั้งกลางวันและกลางคืน การใช้หนึ่งหรือสองครั้งต่อวันขึ้นอยู่กับการตอบสนองและความต้องการของผิวคุณค่ะ โดยทั่วไปแนะนำให้เริ่มใช้เพียงวันละครั้ง (เช่น ตอนกลางคืน) เพื่อประเมินการระคายเคือง โดยเฉพาะกับ L-Ascorbic Acid ซึ่งค่อนข้างมีประสิทธิภาพสูง

2. การปรับค่า pH ของวิตามินซี

เมื่อผสม L-Ascorbic Acid (เช่น 15%) กับน้ำกลั่นเพื่อใช้ครั้งต่อครั้ง ไม่จำเป็นต้องปรับค่า pH ของน้ำกลั่นก่อน ค่ะ L-Ascorbic Acid มีความเป็นกรดอยู่แล้ว จะทำให้ค่า pH ของสารละลายลดลงมาอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับความเสถียรของวิตามินซี (ต่ำกว่า 3.5) หากคุณรู้สึกว่าสารละลายที่ได้ระคายเคืองผิวมากเกินไป สามารถปรับค่า pH ให้สูงขึ้นเล็กน้อยเข้าใกล้ 3.5 ได้ โดยเติม Triethanolamine 99% เพียงเล็กน้อยค่ะ การใช้ L-Ascorbic Acid 15% เป็นความเข้มข้นที่พบได้ทั่วไปและมีประสิทธิภาพค่ะ

3. การเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้งแต่มีความมัน

เป็นเรื่องปกติที่ผิวจะมีความมันบนพื้นผิวแต่ขาดน้ำภายใน การที่คุณวางแผนจะใช้ Aloe Vera Gel (Lite) เป็นเบส และเพิ่ม Safe-B3™ (Vitamin B3), GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine) และ Bi-o Yeast เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการเพิ่มความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว และอาจช่วยปรับสมดุลความมัน รวมถึงเสริมเกราะป้องกันผิวค่ะ

สำหรับสารที่ละลายน้ำได้อื่นๆ ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในเนื้อเอสเซ้นส์ของคุณ นอกเหนือจากที่คุณวางแผนไว้ ลองพิจารณาเพิ่มสารเหล่านี้ค่ะ:

  • Hyaluronic Acid Gel Base: ให้ความชุ่มชื้นจาก Hyaluronic Acid หลายโมเลกุล
  • Advanced Moisture Complex: สารให้ความชุ่มชื้นแบบซุปเปอร์คอมเพล็กซ์ มีส่วนผสมของ Sodium PCA และ Sodium Hyaluronate ช่วยให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น
  • Glycine: กรดอะมิโนที่เป็นส่วนหนึ่งของสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว (NMF)
  • PCA Glyceryl Oleate: สารให้ความชุ่มชื้นจากธรรมชาติ ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและลดการสูญเสียน้ำ
  • Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble): ช่วยปลอบประโลมการระคายเคืองและลดความมันได้

Alpha Arbutin เป็นสารช่วยเรื่องความกระจ่างใส ไม่ใช่สารให้ความชุ่มชื้นหลัก แต่ละลายน้ำได้ สามารถเพิ่มได้หากต้องการผลเรื่องความกระจ่างใสค่ะ Nanowhite ก็เป็นสารช่วยให้ผิวกระจ่างใสเช่นกัน คุณสามารถเพิ่มได้ตามต้องการ โดยเน้นให้สูตรผสมง่ายตามที่คุณต้องการค่ะ

4. สเปรย์น้ำแร่

ใช่ค่ะ สามารถปรุงสเปรย์สำหรับฉีดหน้า โดยใช้น้ำเป็นส่วนประกอบหลัก (90% ขึ้นไป) ได้ค่ะ สำหรับส่วนที่เหลือ คุณสามารถเพิ่มสารที่ละลายน้ำได้ ซึ่งช่วยให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว เช่นเดียวกับที่แนะนำในข้อ 3 (เช่น Hyaluronic Acid Gel Base ความเข้มข้นต่ำๆ, Advanced Moisture Complex, Glycine, PCA Glyceryl Oleate หรือ Licorice Extract) ควรระวังว่าการฉีดสเปรย์ที่มีแต่น้ำบ่อยๆ โดยไม่มีสารให้ความชุ่มชื้น (humectants) เพียงพอ อาจทำให้ผิวแห้งขึ้นได้เมื่อน้ำระเหยไป โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่แห้ง (เช่น ห้องแอร์) การใส่สารให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ลองเริ่มต้นด้วยสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นแบบง่ายๆ และสังเกตการตอบสนองของผิวดูนะคะ

5. ไนท์ครีมลดริ้วรอย

การแก้ปัญหาผิวแห้งเป็นสิ่งสำคัญมากในการปรับปรุงลักษณะของริ้วรอยเล็กๆ ค่ะ สำหรับไนท์ครีมที่เน้นลดริ้วรอย คุณสามารถมองหาสารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยและช่วยฟื้นฟูผิวได้ค่ะ สารที่มีประสิทธิภาพสูงบางตัวที่คุณสามารถพิจารณาได้ ได้แก่:

  • Retinal (Retinaldehyde) หรือ Retinal-EZ™ (Encapsulated Water Dispersible Retinal): เป็นวิตามินเอในรูปแบบที่ออกฤทธิ์ได้ดีกว่า Retinol ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดริ้วรอย
  • Pure-Bakuchiol™ (Natural Retinol): เป็นสารสกัดจากพืชที่มีคุณสมบัติคล้าย Retinoid แต่มักก่อให้เกิดการระคายเคืองน้อยกว่า
  • HyaRetin™ (Sodium Retinoyl Hyaluronate): วิตามินเอในรูปแบบ Encapsulated ที่รวม Retinoid เข้ากับ Hyaluronic Acid เพื่อช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นและลดการระคายเคือง
  • Pep®-Mican (Acetyl Tetrapeptide-9): เปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน
  • HRC-4000™ (Human Type III Recombinant Collagen): ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและลดริ้วรอยได้

สารออกฤทธิ์เหล่านี้สามารถนำไปผสมในเบสครีมที่เหมาะสมได้ค่ะ คุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารแต่ละตัวเพื่อตัดสินใจเลือกตัวที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลดริ้วรอยของคุณก่อนที่จะเริ่มปรุงไนท์ครีมนะคะ

อย่าลืมว่าความสม่ำเสมอในการดูแลผิว รวมถึงการทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยนและการทาครีมกันแดด (แม้ว่าคุณจะไม่ได้ถามถึง แต่ก็สำคัญมากในการป้องกันผิวแห้งและริ้วรอย) เป็นพื้นฐานสำคัญในการมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)
Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
เครื่องสำอาง
Triethanolamine 99%
Triethanolamine 99%
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Zinc PCA
Zinc PCA
เครื่องสำอาง
Aloe Vera Gel (Lite)
Aloe Vera Gel (Lite)
เครื่องสำอาง
Retinal (Retinaldehyde)
Retinal (Retinaldehyde)
เครื่องสำอาง
Glycine
Glycine
เครื่องสำอาง
Pure-Bakuchiol™ (Natural Retinol, 99% Pure, USA)
Pure-Bakuchiol™ (Natural Retinol, 99% Pure, USA)
เครื่องสำอาง
Retinal-EZ™ (Encapsulated Water Dispersible Retinal)
Retinal-EZ™ (Encapsulated Water Dispersible Retinal)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid Gel Base
Hyaluronic Acid Gel Base
เครื่องสำอาง
Pep®-Mican (Acetyl Tetrapeptide-9)
Pep®-Mican (Acetyl Tetrapeptide-9)
เครื่องสำอาง
Advanced Moisture Complex
Advanced Moisture Complex
เครื่องสำอาง
PCA Glyceryl Oleate
PCA Glyceryl Oleate
เครื่องสำอาง
HRC-4000™ (Human Type III Recombinant Collagen)
HRC-4000™ (Human Type III Recombinant Collagen)
เครื่องสำอาง