คำแนะนำการผสมส่วนประกอบเครื่องสำอาง

เพื่อให้คำแนะนำเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับวิธีการผสมส่วนประกอบเหล่านี้ จำเป็นต้องทราบปริมาณที่แน่นอน (เป็นเปอร์เซ็นต์หรือน้ำหนัก) ของแต่ละส่วนประกอบที่คุณต้องการใช้ การผลิตเครื่องสำอางต้องใช้การวัดที่แม่นยำและลำดับการเติมส่วนประกอบที่เฉพาะเจาะจง ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและความเข้ากันได้ของส่วนประกอบแต่ละชนิด

อย่างไรก็ตาม สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับส่วนประกอบแต่ละชนิดที่คุณระบุ รวมถึงหน้าที่และข้อควรพิจารณาในการผสมโดยทั่วไป เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการนำไปใช้ในสูตรเมื่อคุณกำหนดปริมาณได้แล้ว

นี่คือสรุปข้อมูลส่วนประกอบและลักษณะสำคัญ:

ส่วนประกอบและหน้าที่

• Pure-Ferulic Acid™: สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระและป้องกันความเสียหายจากแสง UVB ละลายได้ใน Ethoxydiglycol หรือ ethanol แต่ไม่ละลายในน้ำ อัตราการใช้ทั่วไป 0.5-1%
• L-Carnitine: ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ให้ความชุ่มชื้น ลดความมันบนใบหน้าโดยควบคุมการผลิตซีบัม ช่วยสมานแผล และลดเซลลูไลต์ ละลายน้ำได้ ควรผสมในส่วนน้ำ (water phase) ค่า pH ที่เหมาะสมคือ 3.5-8 (ดีที่สุดคือ 4-7) ดูดความชื้นได้ง่ายมาก ควรปิดภาชนะให้สนิท อัตราการใช้ทั่วไป 1-5%
• Disodium EDTA: ทำหน้าที่เป็นสารจับประจุในน้ำ ป้องกันไอออนในน้ำรบกวนส่วนประกอบบางชนิดในสูตร และช่วยเพิ่มความคงตัวของสูตร ผสมในส่วนน้ำก่อนส่วนประกอบอื่นๆ ละลายน้ำได้และใช้ได้ในสูตรที่มีค่า pH ระหว่าง 3.0-9.0 อัตราการใช้ทั่วไป 0.1-0.2%
• Silicone Gel (Ultra Clear): ช่วยปรับปรุงเนื้อผลิตภัณฑ์ให้นุ่ม ลื่น บางเบา ไม่เหนอะหนะ ให้ลุคแมทท์ และเพิ่มความเกลี่ยง่าย ผสมในส่วนน้ำมัน (oil phase) หรือในอิมัลชัน ละลายได้ในน้ำมัน ซิลิโคน และ Isododecane ใช้ได้ตั้งแต่ 1-100%
• Pure MSM™: ช่วยควบคุมความมัน ลดซีบัม และช่วยผลัดเซลล์ผิว (หากใช้ความเข้มข้นสูงกว่า 3%) ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน ผสมในส่วนน้ำ สูตรควรมีค่า pH ระหว่าง 3-7 หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับ Vitamin C เพราะอาจเร่งการเสื่อมสภาพของ Vitamin C อัตราการใช้ทั่วไป 1-5%
• Satin Cream Maker™: สารประสานเนื้อและสารสร้างเนื้อแบบไม่ใช้ความร้อน ใช้ได้ในสูตรอิมัลชันน้ำในน้ำมันที่มีน้ำมันไม่เกิน 25% ช่วยให้เนื้อครีมเนียนนุ่ม สีขาวมุก และช่วยดูดซับฟองอากาศ กระจายตัวในส่วนน้ำ แล้วจึงเติมส่วนน้ำมันพร้อมผสมเข้าด้วยกัน ทนทานต่ออิเล็กโทรไลต์และใช้ได้ในช่วง pH กว้าง (3-12) ไม่ควรผสมด้วยความเร็วรอบเกิน 2500 รอบต่อนาที อัตราการใช้ทั่วไป 0.1-3.0% กระจายตัวได้ในน้ำ แต่ไวต่อความชื้น
• Zinc PCA: ลดความมันบนผิว เร่งการสมานแผล (เช่น รอยแผลเป็นจากสิว) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยเรื่องรังแค และระงับกลิ่นกายโดยควบคุมแบคทีเรีย ผสมในส่วนน้ำ ทนความร้อนได้ (แต่หลีกเลี่ยงการให้ความร้อนนานๆ) ละลายได้ดีที่ pH 4-6 และคงตัวที่ pH 3-7 อัตราการใช้ทั่วไป 0.2-1.0% ละลายน้ำได้
• Vitamin B6: ปรับสมดุลความมันของผิว กระชับรูขุมขน (เฉพาะผิวที่มันมาก) และลดการอักเสบ ผสมในส่วนน้ำ หลีกเลี่ยงความร้อน (สูงกว่า 40C) และแสง คงตัวที่ pH 2-6 เป็นอิเล็กโทรไลต์ อาจทำให้เนื้อเจลหรือครีมอ่อนตัวลง ต้องปรับเพิ่มสารสร้างเนื้อ/สารประสานเนื้อ ไวต่อแสงมาก ควรเก็บในที่เย็น (4-8C) อัตราการใช้ทั่วไป 0.5-3.0%
• สารสกัดนมผึ้ง (10-HDA): ลดความมันบนผิว ควบคุมความมันบนใบหน้า ลดสิว และมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ละลายในส่วนน้ำมันของสูตร สามารถใช้ความร้อนได้ถึง 70C เพื่อช่วยในการละลาย สูตรควรมีค่า pH ในช่วง 4-5.5 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด อัตราการใช้ทั่วไป 0.1-1% เก็บในตู้เย็น (5-8C)
• Alpha Arbutin: สารปรับผิวให้สว่างใสที่ละลายน้ำได้ ช่วยลดการผลิตเม็ดสีผิว เติมในขั้นตอนสุดท้ายเมื่ออุณหภูมิของสูตรต่ำกว่า 30C ค่า pH ของสูตรควรอยู่ระหว่าง 3.5-6.5 ห้ามผสมในสูตรที่มี pH สูงกว่า 8 เพราะจะสลายตัวเป็นไฮโดรควิโนน อัตราการใช้ทั่วไป 0.2-2% ละลายน้ำได้ เก็บในตู้เย็น
• Phenylethyl Resorcinol: สารปรับผิวให้สว่างใสและสารต้านอนุมูลอิสระที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เติมในขั้นตอนสุดท้ายในเนื้อครีมที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน สามารถใช้ความร้อนได้ถึง 50C เพื่อช่วยในการละลาย ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปควรมีค่า pH ในช่วง 4-5 เพื่อความคงตัว หลีกเลี่ยงส่วนประกอบบางชนิด เช่น Carbomer, Carbopol, PEG-400, Amino Acids, Urea หรือกลุ่มโปรตีน เนื่องจากอาจทำให้เกิดปัญหาได้ อัตราการใช้ทั่วไป 0.1-1.0% ละลายได้ในน้ำมัน เก็บในตู้เย็น (6-8C)
• Mild Preserved Eco™: สารกันเสียชนิดอ่อนโยน (ไม่จัดเป็นสารกันเสียตามข้อกำหนด อย.) และเป็นสารให้ความชุ่มชื้น ทนความร้อนได้ถึง 80C ในระยะเวลาสั้นๆ (ไม่เกิน 5 นาที) และใช้ได้ในสูตรที่มี pH 4-9 ผสมในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากเนื้อเจลหรือครีมขึ้นรูปแล้ว อัตราการใช้ทั่วไป 0.5-2.0% ละลาย/กระจายตัวได้ในตัวทำละลายหลายชนิด
• ClayThick™: สารสร้างเนื้อและสารเพิ่มความคงตัวสำหรับสูตรน้ำในน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครีมเจล ช่วยลดความเหนอะหนะและดูดซับซีบัม ต้องกระจายตัวในน้ำโดยใช้เครื่องผสมแบบแรงเฉือนสูง (Disperser หรือ Homogenizer) อย่างน้อย 10-15 นาที ใช้ได้ในช่วง pH กว้าง (2-13) แต่จะข้นเต็มที่ในเวลาประมาณ 48 ชั่วโมง อัตราการใช้ทั่วไป 0.5-2% กระจายตัวได้ในน้ำ (ไม่ละลาย)
• SelectSorb™: ผง PMMA ชนิดพิเศษที่ดูดซับน้ำมันส่วนเกินบนผิวได้ดี (เฉพาะเจาะจงกับน้ำมันผิว) โดยไม่ดูดซับน้ำ ช่วยปรับความรู้สึกบนผิวและลดความมัน ผสมในขั้นตอนสุดท้ายโดยปั่นให้กระจายตัวในสูตร ทนความร้อนได้ อัตราการใช้ทั่วไป 1-5% ต้องมีส่วนประกอบของน้ำมันในสูตรเพื่อช่วยในการกระจายตัว
• Sebum-Reg™ (Capryloyl Glycine): ลดความมันบนผิวโดยยับยั้ง 5-alpha-reductase ช่วยควบคุมรังแคและแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว และทำหน้าที่เป็นสารระงับกลิ่นกาย ละลายได้ใน ethanol และน้ำที่มี pH สูงกว่า 7 ละลายที่ pH > 7 (สามารถใช้ความร้อน 70C ช่วยได้) จากนั้นปรับ pH สุดท้ายของสูตรลงมาที่ 4-6 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด อัตราการใช้ทั่วไป 0.5-2% เก็บในตู้เย็น (5-8C)
• Dimethyl Isosorbide (DMI): สารนำพา (penetration enhancer) และตัวทำละลาย ช่วยนำพาส่วนประกอบต่างๆ เข้าสู่ผิวได้ดี สามารถผสมได้หลายขั้นตอนและทนความร้อนได้ถึง 80C ละลายได้ในน้ำ ไกลคอล แอลกอฮอล์ โพลีซอร์เบต น้ำมันแร่ ลาโนลิน และน้ำมันซิลิโคน มีกลิ่นคล้ายอีเทอร์เล็กน้อย อัตราการใช้ทั่วไป 1-10%
• Sodium Metabisulfite: สารต้านอนุมูลอิสระ ใช้เพื่อรักษาคุณภาพของส่วนประกอบในสูตร ผสมในส่วนน้ำของสูตร อัตราการใช้ทั่วไป 0.1-0.2% ละลายน้ำได้
• Hydrogenated Lecithin: ใช้สำหรับห่อหุ้มสารออกฤทธิ์ (Phospholipid Encapsulation) เพื่อเพิ่มการดูดซึม เพิ่มความสามารถในการละลาย หรือเพิ่มความคงตัวของสาร กระจายตัวได้ในน้ำมัน เก็บในที่เย็น

ขั้นตอนต่อไป

เมื่อคุณกำหนดปริมาณหรือน้ำหนักที่ต้องการสำหรับแต่ละส่วนประกอบได้แล้ว โปรดแจ้งรายการทั้งหมดพร้อมปริมาณ จากนั้นจะสามารถให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นเกี่ยวกับกระบวนการผสม รวมถึงลำดับการเติม และการให้ความร้อนหรือการปรับค่า pH ที่จำเป็น